1. ซักไซ้เรื่องราวต่าง ๆ จนเกินไป
ไม่ว่าคุณจะไปไหนมาไหน ทำอะไร อยู่กับใคร ถึงแม้คุณจะบอกไปแล้วว่ากำลังกินข้าวกับเพื่อนสาวที่ไม่ได้เจอกันนาน หรือเหนื่อยมากจนแทบไม่มีแรงจะรับโทรศัพท์เลยก็ตาม แต่เขาก็ยังซอกแซกถามจนกว่าจะได้คำตอบที่เขาพอใจ ต่อให้คุณติดธุระยังไงก็ไม่สนใจ ถ้าเขามีพฤติกรรมแบบนี้มีแนวโน้มว่าเขาจะมาเป็นผู้ปกครองแทนที่จะเป็นคู่รักของคุณแล้วล่ะ
2. ตัดเพื่อน ๆ ออกจากชีวิตคุณ
ให้โลกนี้มีแค่คุณกับเขาเพียงสองคน จะไปไหนก็ตัวติดกันตลอดจนกลายเป็นคู่รักปาท่องโก๋ คนอื่นที่เขามองมาอาจจะรู้สึกอิจฉาในใจ ที่เห็นแฟนของคุณดูแลคุณยิ่งกว่าไข่ในหิน ทั้งที่ในใจคุณอึดอัดจนเกือบจะทนไม่ไหวแล้วก็ตาม แถมเขายังพยายามเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยทุกเรื่อง จะกรี๊ดกร๊าดดาราหนุ่มหุ่นล่ำก็ไม่ได้ -_-‘ หรือบางทีก็วุ่นวายจนเพื่อนคุณต้องถอย สิ่งแรกที่คุณต้องทำคือถามตัวเองก่อนว่าอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไปไหม ถ้าไม่ก็พูดกับเขาตรง ๆ ไปเลย
3. อยากรู้เรื่องของผู้ชายทุกคนในชีวิตคุณ
เขาคอยถามไถ่เสมอว่าคุณติดต่อกับใครบ้าง แล้วแต่ละคนเป็นใครมาจากไหน คบกันนานหรือยัง ทำไมถึงมีเบอร์ติดต่อ อะไรก็ตามที่เขาสามารถจะขุดมาถามได้ ทั้ง ๆ ที่บางคนเป็นเพื่อนร่วมงาน แต่บังเอิญเดินสวนกันตอนช้อปปิ้ง คุณก็เลยคิดว่าทักทายนิดหน่อยคงไม่เสียหาย แต่เขากลับถามเหมือนสอบสวนคดีอยู่ คิดแล้วก็เหนื่อยใจจนไม่อยากออกไปพบใครเลยจริง ๆ
4. บังคับให้คุณแต่งตัวตามที่เขาชอบ
อย่าลืมนะคะต่อให้รักกันแค่ไหน คุณก็เป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ไม่ใช่ตุ๊กตา แล้วคุณจะทนได้นานเท่าไหร่ถ้าต้องถูกบังคับไปเรื่อย ๆ เช่น กระโปรงตัวนี้สั้น กางเกงคับเกินไป แม้แต่เสื้อรวมรุ่นสุดรักก็สั่งไม่ให้ใส่ ชี้นิ้วสั่งได้ทุกวัน ผู้ชายที่ควบคุมแม้แต่การแต่งตัวแบบนี้ อย่าหวังเลยว่าเรื่องอื่น ๆ คุณจะมีสิทธิออกเสียงหรือตัดสินใจทำอะไรเองได้
5. ไม่อยากให้คุณไปพบกับครอบครัว
นอกจากเพื่อนของคุณแล้ว เขายังพยายามกันคุณให้ออกห่างจากครอบครัวของคุณด้วย เพราะเขารู้ว่าครอบครัวมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของฝ่ายหญิงมากแค่ไหน และฝ่ายหญิงอาจจะเปลี่ยนใจได้ง่าย ๆ ถ้ามีคนใดคนหนึ่งไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ครั้งนี้ ฉะนั้น เขาจึงไม่อยากให้คุณออกไปพบปะกับครอบครัว และถ้าหากมีการพูดคุยเขาจะพยายามควบคุมบทสนทนาทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดความคิดเห็นด้านลบเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคุณกับเขานั่นเอง
6. คิดไปเองว่าสิ่งที่เขาให้คุณจะต้องชอบ
สิ่งที่เขาหามาให้ทุกอย่างนั่นคือ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณ และเมื่อคุณปฏิเสธเขาก็ตั้งคำถามต่าง ๆ นานา ว่าทำไมถึงไม่ชอบ หรือไม่ชอบเพราะอะไร เผลอ ๆ อาจจะสืบสาวราวเรื่องอีกนานกว่าจะเข้าใจ และนอกจากนี้เขายังบังคับให้คุณชอบในสิ่งที่เขาชอบด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกีฬา เกม หรืออดทนฟังเรื่องที่ทำงานของเขา ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจความชอบของคุณเลยสักนิด
7. ลงโทษคุณหากคุณไม่ทำตามใจ
เขาแอบเก็บความไม่พอใจเอาไว้หากคุณออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่งตัวตามใจตัวเอง หรือทำอะไรก็ตามที่ผิดไปจากความคิดของเขา โดยเขาอาจจะทำสงครามเงียบเพื่อทำให้คุณรู้สึกผิดอย่างมหันต์ ที่คุณทำตามใจตัวเองอยู่ก็ได้
หากเจอผู้ชายแบบนี้ระวังตัวไว้หน่อยก็ดีนะคะ แต่ถ้าคุณยอมรับได้ก็คงไม่เป็นไร เพียงแต่อยากให้คิดก่อนสักนิดนึงว่า ความรักไม่ใช่เรื่องของใครเพียงคนเดียว แต่มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ควรจะเดินไปพร้อม ๆ อย่างเข้าใจ ไม่ต้องให้ใครมาคอยกำกับดูแล วันนี้เขายังไม่เข้าใจ แล้ววันหน้าจะใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างไร ถึงเวลานี้ไม่มีใครทำอะไรได้ เพราะคุณจะต้องตัดสินเองแล้วล่ะว่าจะอย่างไรต่อไปดี