เรื่องราวของการก้าวข้ามอุปสรรค์ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่นเรามีให้เห็นอยู่บ่อยๆ
เช่นเดียวกับเสียงบ่นถึง "โอกาสที่ผ่านไป" ด้วยความ "เสียดาย"
คนหนึ่งตะเกียกตะกายหาโอกาสจากชีวิตที่ท่วมทุกข์ พยายามมองหาแสงสว่างจากชีวิตที่มืดมน
คน หนึ่งอ่อนแรงจากไม่ได้ไขว่คว้าโอกาสของความรุ่งเรือง สำเร็จ ทั้งที่โอกาสนั้นผ่านเข้ามาในชีวิต ชีวิตตกอยู่ในอารมณ์ห่อเหี่ยวที่เกิดจากความเสียดาย
หากจะให้ประเมินวันข้างหน้า หรืออนาคตของสองคนนี้ว่าจะเป็นไปอย่างไร
แทบ ไม่ต้องคาดเดา ว่าส่วนใหญ่คงเห็นว่าคนแรกที่อยู่กับความทุ่มเทพยายามของตัวเองต้องมีเดิน สู่ความสดใสรุ่งเรืองได้มากกว่าคนหลังที่จมอยู่ในห้วงหดหู่อันเกิดจากอารมณ์ เสียดาย
มันก็ควรเป็นอย่างนั้น
แต่จริงหรือที่จะเป็นอย่างนั้นเสมอไป
ว่าไปแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ ไม่มีอะไรแน่นอน
ความฮึกเหิมที่สร้างพลังดิ้นรนก็ไม่แน่นอน ความห่อเหี่ยวก็ไม่แน่นอน
วัน หนึ่งอาจจะมีเหตุการณ์ หรือแรงผลักดันบางอย่างที่ทำให้คนแรกหลุดจากความพยายาม ปล่อยอนาคตที่สดใสทิ้งไปก็เป็นไปได้ อาจจะเป็นการหลงกับความสำเร็จในอดีต จมอยู่กับความรุ่งเรืองสดใส โดยลืมที่จะมองให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่ต้องเกิดขึ้นเป็นปกติ
ใน ความเปลี่ยนแปลงนี้ คนที่เคยคว้าโอกาสได้สำเร็จจนเอิบอิ่มกับความเป็นไปของตัวเอง อาจจะปล่อยให้บางโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและกลายเป็นคนที่มาทบทวนแล้วท้อง หดหู่เสียดายกับการปล่อยผ่าน
ขณะเดียวกันความเปลี่ยนแปลงอาจจะทำให้ คนที่เคยเหี่ยวเฉากับการปล่อยโอกาสดีๆ ผ่านไป จนจมอยู่กับความเสียดาย อาจจะเป็นผู้คว้าโอกาสดีที่ได้สัมผัสครั้งใหม่ พลิกมาเป็นผู้สำเร็จสมความปรารถนาแทน
เรื่องเหล่านี้เป็นไปได้ทั้งนั้น
และชีวิตก็เป็นไปเช่นนี้เสมอเสียด้วย
ความสำเร็จมักทำให้หลงระเริงและลืมที่จะแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ขณะที่ความล้มเหลวมักกระตุ้นเตือนให้ชีวิตต้องระมัดระวัง
สำเร็จและล้มเหลวจึงกลับไปกลับมาในชีวิตของผู้คน
แต่ก็มีอยู่ไม่น้อยที่บางคนสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า และอีกหลายคนล้มเหลวซ้ำซาก
ที่เป็นเช่นนี้เพราะเอาเข้าจริงแล้ว สำเร็จหรือล้มเหลวแม้ไม่ใช่ทั้งหมด แต่ส่วนสำคัญคือการมีชีวิตอย่างมีสติที่จะตื่นรู้
สิ่งที่รู้คือ รู้ตัวเองและเรื่องราวรอบตัวในปัจจุบัน จัดวางตัวเองให้กับสถานการณ์และเวลาได้อย่างสอดคล้องเหมาะสม
นี่คือการป้องกันไม่ให้พลาดจากโอกาสที่ผ่านเข้ามา
คนที่เคยประสบความสำเร็จ แต่หลงอยู่กับอารมณ์ของอดีต หรือเอาแต่ฟุ้งฝันถึงอารมณ์ความหวังในอนาคตที่ยังเวิ้งว้าง
ไม่แน่นอน จะทำให้ผิดพลาดในการจัดการกับปัจจุบันอย่างเหมาะสม
เช่น เดียวกับคนที่ฟูมฟายกับความผิดพลาดในอดีต และเอาแต่หดหู่กับอนาคต ย่อมควบคุมการใช้ศักยภาพของตัวเองให้สอดคล้องกับความเป็นไปในปัจจุบันไม่ได้
สำเร็จหรือล้มเหลว จึงขึ้นอยู่กับสติที่จะจัดการกับปัจจุบัน
เพราะอดีตไม่ควรมีไว้ให้เอาแต่นั่งเสียดาย ห่อเหี่ยวกับความผิดหวังพลั้งพลาด
อนาคตก็ไม่ควรมีไว้เพื่อเพ้อฝัน หรือท้อถอย
แต่ควรมีปัจจุบันที่ตั้งใจรับมืออย่างมีสติ โดยไม่ต้องพะวงถึงอดีต หรือหวาดกลัวอนาคตก็ได้
เพราะที่สุดแล้วอดีตเป็นอย่างไร อนาคตจะเป็นแบบไหน
ล้วนแทบไม่เกี่ยวข้องกับการจัดการกับปัจจุบัน
อนาคตเป็นผลของการจัดการปัจจุบันเท่านั้น จัดการปัจจุบันให้ดี อนาคตก็ดี
ขณะที่อดีตแต่ผ่านมาแล้วเท่านั้น
หน้า 17 มติชนรายวัน ฉบับวันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2557