ไอเดียเจ๋ง! ร.ร.ตู้คอนเทนเนอร์ แห่งแรกของไทย
ถนนขรุขระเลียบทางรถไฟย่านใกล้วัดเสมียนนารี ฝุ่นตลบคลุ้งกลางแดดแรงระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟฟ้าสีแดง ถ้าไม่สังเกตจะมองไม่เห็นบ้านพักคนงานสีเหลืองสดริมทาง เลี้ยวรถเข้าไปจะพบป้ายทั้งภาษาพม่า กัมพูชา ไทยด้านหน้ารั้ว ก่อนเข้าเขตบ้านพักคนงานก่อสร้างที่สร้างด้วยตู้คอนเทนเนอร์สีสดวางซ้อนกัน 3 ชั้น จริงอยู่ว่า ที่นี่เป็นบ้านพักคนงานที่แปลกตา ดูเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ไม่ได้แค่เรื่องนี้ที่ต้องเดินทางมา
มุมลึกสุดของพื้นที่บริเวณบ้านพักคนงานก่อสร้าง มีอาคารเล็กๆ หลังหนึ่ง ที่สร้างต่อเติมมาจากตู้คอนเนอร์ 1 ตู้ มีเสาธงชาติไทยอยู่ด้านหน้าอาคาร ที่นี่เป็นที่พักของครูคนหนึ่ง ครูเพียงคนเดียวที่มาคอยสอนนักเรียนขาจรหลายสิบชีวิต นักเรียนของคุณครูคนเดียวคือเด็กๆ ต่างด้าว ทั้งกัมพูชา พม่า และเวียดนามปะปนกัน เด็กๆ เป็นลูกของคนงานในไซต์ก่อสร้างแห่งนี้ หากจะเรียกว่าที่นี่เป็นโรงเรียนแห่งแรกในบริเวณบ้านพักคนงานก่อสร้างของประเทศไทยก็ไม่น่าผิด แม้ว่าป้ายที่หน้าอาคารเขียนว่า "ศูนย์เด็กก่อสร้าง มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก"
ครูคนเดียว-โรงเรียนแห่งเดียวในแคมป์คนงานก่อสร้างของไทย
"ไพโรจน์ จันทรวงษ์" ครูคนเดียวของโรงเรียนชั่วคราวแห่งนี้ เล่าว่า โรงเรียนแห่งนี้เปิดเป็นรูปเป็นร่างมาได้ร่วม 10 เดือน แต่ที่จริงเขาเริ่มมาเข้าสอนเด็กที่นี่เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว แต่แรกที่เข้ามาสอนที่นี่ยังไม่มีอาคารหลังนี้ เด็กเข้ามาเริ่มเรียนด้วยมีเพียง 4-5 คน และก็พากันไปเรียนตามซอกตู้คอนเทนเนอร์ ก่อนที่จะได้มีอาคารที่เป็นเหมือนห้องเรียนไว้สอนเด็กอย่างเป็นสัดส่วน
สำหรับครูไพโรจน์ การรอคอยให้มีห้องเรียนและอุปกรณ์การศึกษาเพียบพร้อม โดยไปสอนตามซอกตู้คอนเทนเนอร์ก่อนนั้น ไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง เขาสอนเด็กๆ ตามบ้านพักคนงานก่อสร้างมานานกว่า 7 ปี ที่เคยสอนกันใต้ต้นตาลก็มี โต๊ะเก้าอี้มีเด็กๆ ไปสรรหาเก็บมา พออากาศร้อนก็พากันวนโต๊ะเก้าอี้รอบเงาต้นตาลไปทุกๆ 30 นาที หรือบางทีร้อนมากๆ ก็ต้องพากันเดินไปสอนในป่า
จุดเริ่มต้นของการมีโรงเรียนในบริเวณบ้านพักคนงานก่อสร้าง เพื่อสอนเด็กๆ ที่เป็นลูกของคนงาน เริ่มมาจากเมื่อปี 2540 บริษัทนารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้ และ บริษัทที.ที.เอส. เอ็นจิเนียริ่ง(2004) ซึ่งเป็นบริษัทผู้รับเหมา เข้ามาร่วมงานก่อสร้างคอนโดด้วยกัน และเห็นว่าในบ้านพักคนงานก่อสร้างมีเด็กเยอะ จึงเข้าไปปรึกษากับมูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก เนื่องจากเห็นว่า ทางมูลนิธิทำงานเกี่ยวกับการศึกษาสำหรับเด็กๆ ที่ไม่มีโอกาสอยู่แล้ว ครูไพโรจน์และเพื่อนครูในมูลนิธิฯ จึงเข้ามาพูดคุยและสำรวจพื้นที่ และลงมือร่วมงานตั้งแต่นั้นมา
"แต่แรก (ปี 2540) มีครูผู้หญิงเข้ามาเริ่มทำก่อน แล้วเราก็มาช่วย พอมาช่วย เราก็กลับไม่ได้ เพราะบริษัทเขาต้องการให้เราอยู่ช่วยสอนเด็กต่อ เราก็ต้องช่วยไปจนครบปี เราอยู่สอนจนบ้านพักคนงานย้ายไปทำงานที่อื่น คนงานและเด็กๆ ย้ายไปเกือบ 3 เดือนแล้ว เราก็ยังอยู่ เพราะยังเหลือเด็กอยู่อีก 2 คน เราก็สอน สอนไปสอนมาจนเหลืออยู่คนเดียว พนักงานบริษัทผู้รับเหมาบางคนมาเห็นตอนคนย้ายไปจะหมดแล้ว ก็มาถามว่า อ้าว ที่นี่มีโรงเรียนด้วยเหรอ เราก็บอกว่ามีครับ โน่น อยู่ตรงป่าต้นกกตรงนั้น ไฟฟ้าก็ไม่มีใช้ พอเขาเห็นเราสอนเด็กจริงๆ เขาก็บอกว่า ครูตามไปสอนอีกที่ (บ้านพักคนงานก่อสร้างอีกแห่ง) ด้วยนะ
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!