ใครที่กำลังท้อแท้ สิ้นหวัง เพราะการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม และกำลังตั้งใจที่จะดับอีกลมหายใจหนึ่งทิ้ง ด้วยการตัดสินใจของคุณเอง ทั้งนี้อาจจะด้วยเหตุผลต่างๆนาๆแตกต่างกันไป อยากขอให้คุณตั้งสติ และลองได้อ่านเรื่องราวของหญิงสาวคนนี้สักนิดนะคะ มันอาจจะเปลี่ยนชีวิตและความรู้สึกคุณไปตลอดกาลเลยก็ได้
ขอเล่าประสบการณ์ตัวเองบ้างนะคะ ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนเลว เกือบจะทำร้ายลูกในไส้ ถ้าวันนั้นเหตุการณ์ที่ไม่ดีที่เราจะทำมันสำเร็จ วันนี้คงไม่มีลูกน้อยที่แสนน่ารัก แสนซน แสนขี้อ้อนมาเป็นกำลังใจในชีวิตแน่ๆ อ่านไว้เป็นอุทาหรณ์ เครื่องเตือนใจ สำหรับคนที่กำลังประสบปัญหาท้องไม่พร้อม หรือคนที่จะทำแท้ง ทุกคนย่อมมีปัญหาในชีวิต เหตุผลของใครของมัน เราเคารพการตัดสินใจของทุกคนค่ะ
เริ่มแรกเลย ที่รุ้ว่าท้องตอนนั้นก็มีปัญหาระหองระแหงกะแฟน พอบอกแฟนไป แฟนก็บอกว่าให้ไปเอาออก ตอนนั้นเองก็คิดเหมือนกันว่าเอาออกแน่ๆ เพราะยังเรียนอยู่ พ่อแม่รับไม่ได้ๆ แต่ใจลึกๆแล้วก็อยากจะบอกแม่มากกก อยากเก็บเอาไว้แต่พอคิดถึงอนาคตตัวเอง ก็ตัดสินใจไปสถานที่แรก ซึ่งเสิร์ทหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ไปคนเดียวเลย พอไปถึงตรวจอัตราซาวน์ คุยกะหมอเสร็จ หมอบอกว่าท้องอ่อนเกินไป ยังทำไม่ได้ ตอนนั้นน่าจะประมาณ 1 เดือน อีกสองอาทิตย์ค่อยมาใหม่ พร้อมกับนัดวันมา
เราก็กลับบ้าน เรียนหนังสือหนักมากช่วงนั้น เราก้ไม่ได้ไปตามหมอนัด เพราะใกล้สอบลาไม่ได้ ต้องเก็บงานที่ค้าง ผลัดวันประกันพรุ่งไปเรื่อย ใจนึงตอนนั้นก็ไม่อยากเอาออก อีกใจก็อยากเพราะกลัวปัญหาที่จะตามมา เลยชะล่าไป ผ่านไป 2-3 เดือน พอตัดสินใจไปที่เดิม หมออัตราซาวน์ดู ตอนนั้นเหมือนมีหมออีกคนอยุ่ด้วย เค้าคุยกันว่า "ดูสิเนี่ย ดิ้นหนีใหญ่เลย" เรานี่แบบ..สมองตื้อมาก เหมือนใจมันสับสนไปหมด
หมอก็เรียกไปคุยว่าทำไมมาเอาตอนนี้ 4เดือนแล้ว เอาออกให้ไม่ได้ ให้เราไปอีกที่นึง พร้อมให้เบอร์มา ตอนกลับบ้านนัานร้องไห้บน BTS เลย นึกถึงคำพูดของหมอ แต่เราก็ยังเลวไม่ลดละ ติดต่อจะไปอีกที่นึง ช่วงนั้นจะเข้ามหาลัย สมัครสอบผ่านอะไรเรียบร้อย เงินในบัญชีก็พอมีหลักพัน เกือนหมื่น ก็เบิกมาเก็บไว้(พ่อเราโอนมาให้เก็บไว้ใช้)
ก่อนวันที่เราจะไป (คือตอนกลางคืน พุ่งนี้เช้าจะไป) เราต้องเตรียมเอกสาร เราก็รอให้แม่ขึ้นบ้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องสงสัย พอแม่ขึ้นไปปุ้ป เราก็จัดแจงเอกสาร ดูทีวี คิดเรื่องวันพุ่งนี้ พักใหญ่แม่เราลงมา เห็นกระเป๋าตัง เค้าขอดู แต่เราไม่ให้กลัวเห็นเงิน เค้าถามว่ามีอะไรถึงไม่ให้ดู เค้าถามมีปัญหาอะไร เราก็เงียบ เค้าถามท้องหรอ เราปล่อยโฮเลย
ตอนแรกเค้าก็ด่าว่าเราว่าทำไมทำตัวแบบนี้ พอซักพักเค้าก็บอกว่าทำไมไม่บอกตั้งแต่แรก เผื่อมีอะไร เป็นอะไรจะรู้ได้ไง มาบำรุงกันตอน 4 เดือน ตอนนั่นโล่งมาก แอบดีใจที่แม่รู้ซักที เพราะลึกๆแล้วก็อยากเก็บไว้ เพียงแต่กลัวหมดอนาคต กลังพ่อแม่ด่า กลัวไม่ได้เรียนแค่นั้น หลังจากวันนั้นของบำรุงก็เต็มตุ้เย็นเลย
ตอนนี้น้อง 2 ขวบกว่าแล้ว จ้ำม่ำ ซน ขี้อ้อน ยายเค้าก็หลงหัวปักหัวป้ำ เราเลี้ยงลูกเองค่ะ ไม่รุ้ว่าตอนนั้นถ้าแม่เราไม่ลงมา แล้วเราไปทำ อนาคตเราอาจได้เรียนหนังสือ แต่บาปในใจก็คงติดตัวเราไปตลอดชีวิต ทุกวันนี้มีความสุขดีค่ะ เหนื่อยบ้าง ท้อบ้าง เพราะเลี้ยงเด็กคนนึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ความสุขที่เรามองเค้าเติบโตขึ้นเรื่อยๆ มันสุขแบบบอกไม่ถูกเลยคะ อาจเป็นเรื่องบังเอิญนะคะ ที่อะไรหลายๆทำอะไรเค้าไม่ได้ เค้าคงตั้งใจเกิดมาเป็นลูกเราจริงๆ