เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งชาวเชียงใหม่ที่แห่ไปกินบะหมี่เกี๊ยวร้านซุ้มเฮียฮ๋งกันจำนวนมาก จนร้านแทบแตก
เพราะแปลก คือ เสิร์ฟเมนูบะหมี่จานใหญ่เท่าโต๊ะจีน และยังมีเมนูชื่อแปลกๆ เช่น บะหมี่พ่อมึงตายจานเบ้อเริ่ม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบร้านซุ้มเฮียฮ๋ง ตั้งอยู่เลขที่ 64/3 หมู่ 2 ซ.เจ็ดยอด ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบนายคุณากร กุสาวดี หรือ เพื่อนเรียกหงษ์ หรือ เฮียฮ๋งเจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนเป็นคนกรุงเทพฯ มาเป็นเขยเชียงใหม่ สร้างหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่นี่ มานานกว่า 20 ปี มีอาชีพค้าขายเปิดร้านอาหารมาตลอด 20 ปี
ก่อนนั้นขายโจ๊ก ขายก๋วยจั๊บ และร้านอาหารอื่นๆ ออกบูธตามงานมหกรรมอาหาร รวมทั้งทำอาชีพออแกไนซ์ สลับกับค้าขาย ทำให้ร้านอาหารต้องปิดๆ เปิดๆ อยู่ตลอด แต่สุดท้ายกลับมาเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยวอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ตั้งใจเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยวให้ดี เพราะส่วนตัวชอบรับประทานบะหมี่เกี๊ยวเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
“เพราะความชอบส่วนตัว ที่ชอบกินบะหมี่เกี๊ยวมาก หาร้านกินไปทั่ว และร้านบะหมี่หลายแห่ง รวมทั้งที่เชียงใหม่อร่อยหลายร้าน แต่บ้างร้านพบปัญหา คือ ขายในราคาแพง แต่ได้น้อย บางร้านได้บะหมี่น้อย บางร้านได้หมูแดงน้อย โดยเฉพาะหมูแดงเฉือนเป็นแผ่นหมูบางจนเป่าหมูแทบปลิวหายไปกับลม จึงจำฝังใจไว้ว่า จะต้องเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยว และจะต้องทำให้ลูกค้าได้รับประทานแบบเต็มอิ่ม และหมูแดงต้องทำให้ชิ้นใหญ่ๆ จึงหันมาเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยว และใช้ชื่อร้านเป็นอตัวเอง คือ ซุ้มเฮียฮ๋ง
เฮียฮ๋ง เล่าว่า อีกชื่อที่ลูกค้าเรียก คือ บะหมี่ปากหมา บางคนบอกมาเฟียขายบะหมี่ก็มี
เพราะพูดภาษาพ่อขุนเสียงดังฟังชัด จึงดูแปลกไปจากร้านอื่น เนื่องจากปกติคำพูดของตนเป็นแบบนี้ ทำร้านอาหารมาก็นานหลายสิบปี ก็พูดแบบนี้มาตลอด ที่หันมาขายบะหมี่เกี๊ยวตลอดกว่า 1 ปี เน้นทำหมูแดงให้ชิ้นใหญ่หรืออาจจะใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ 1 ชิ้น ต้องกัดกินได้เกินสองครั้ง บะหมี่แห้งมีน้ำซุปราดให้เส้นฉ่ำๆเพราะส่วนใหญ่ลูกค้าชอบกินบะหมี่แห้ง ส่วนไข่ลวกออนเซ็นที่อร่อยไม่แพ้ร้านอื่นอีกด้วย ลูกค้าจะติดใจ เริ่มเปิดร้านแรกๆ ก็ขายแบบธรรมดาทั่วไป
แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ใช้ภาษาพ่อขุนมึง-กูกับเพื่อนๆ และน้องๆ ที่มาอุดหนุนในร้านที่ตนมองว่าเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายหลายคนมองว่าเป็นร้านที่ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ แต่จริงๆ ตนต้องการให้บรรยากาศในร้านสนุกสนานเฮฮาเป็นกันเอง และเป็นตัวของตัวเองไม่ต้องฝืน เพื่อให้คนเราใช้ชีวิตที่เรียบง่ายเข้าใจกันง่ายสัมผัสกันง่ายขึ้น ซึ่งตรงนี้ลูกค้าจึงชอบและติดใจแนวคิดนี้และที่สำคัญได้กินบะหมี่ที่ชามใหญ่และอิ่มกลับบ้าน
เฮียฮ๋ง กล่าวอีกว่า กระแสตอบรับที่ชื่อเมนูและชามใหญ่แล้วเปิดบริการดึกเกือบถึงเช้านั้น
เพราะส่วนตัวชอบทำงานกลางคืนและนอนกลางวัน ตื่นมาตอนเย็นเตรียมของเพื่อเปิดตอนสี่ทุ่ม จากที่ก่อนนั้นเปิดโต้รุ่ง ลดเวลาลงเปิด 22.00-03.00 น. เพราะต้องการให้ลูกน้องพักผ่อนมากขึ้น
ทุกวันนี้ลูกค้าเข้าร้านจำนวนมากกว่า 500 คนต่อวัน และเมนูบะหมี่เกี๊ยวพ่อมึงตาย นำออกเสิร์ฟเพียง 1 สัปดาห์ เฉลี่ยวันละประมาณ 5 ชาม ยอดสูงสุด 10 ชามต่อวัน และน้อยสุดเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ออกเสิร์ฟ 3 ชาม โดยชามที่ใหญ่เท่าโต๊ะจีนนั้น ซื้อชามไม้ญี่ปุ่นมาเพื่อเสิร์ฟเมนูนี้โดยเฉพาะ
“ที่มาที่ไปของบะหมี่เกี๊ยวชามยักษ์ใหญ่เริ่มต้นที่ลูกค้ามากิน 1 ชาม บะหมี่ 2 ก้อนและเกี๊ยวไม่อิ่ม ต้องสั่งเพิ่มอีกชาม ทำให้เราคิดว่าจะต้องล้างชาม 2 ใบ
เลยคิดเมนูชามใหญ่ขึ้นเพิ่มบะหมี่จากชามหนึ่งบะหมี่ 2 ก้อนเป็น 4 ก้อน หรือมากกว่านั้นตามเมนู จนกระทั้งมากสุด เมนู พ่อมึงตาย บะหมี่ 60 ก้อน ราคา 600 บาท พร้อมเกี๊ยวด้วยกินได้ 10-15 คน เฉลี่ยกินคนละ 2 ก้อน ล้างชามใบเดียว ส่วนชุดประหยัดราคาลดลงมา คือ เมนูคุ้มเฮี่ยๆ เมนูโคตรเฮียกินได้ 6 คนขึ้นไป เมนูโคตรโง่กินได้ 5-6 คน เมนูประหยัดชามเล็กราคาถูกสุดชามละ 25 บาท ก็มี คือ ชุดไหว้เจ้าของผู้หญิงกินชามเล็กๆ
“อย่างไรก็ตามล่าสุดลูกค้าเรียกร้องมาอีกแล้วว่า พ่อมึงตายกินได้เพียง 10-15 คน มีชามใหญ่กว่านี้อีกหรือไม่ ผมคิดไว้แล้วและเตรียมเมนูใหม่คือ “เมนูกูจะไปหาพ่อ” เพราะว่ามีเมนูพ่อมึงตายไปแล้ว ก็จะต้องตามหาพ่อ โดยนำเอาเมนูเดิมคือโคตรโง่บะหมี่ 24 ก้อน มารวมกับพ่อมึงตาย ซึ่งมีบะหมี่ 60 ก้อน รวมได้บะหมี่ 84 ก้อน ก็ต้องให้ลูกค้ารับประทานมากกว่า 15 คนขึ้นไป ทางร้านจะนำออกเสิร์ฟในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. นี้”
“ที่ผ่านมามีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนให้ลูกน้องแจ้งผมมาว่าจะมากินบะหมี่ที่ร้าน มีรถนำขบวนมาจอดหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ลงมากินเพราะว่า เมื่อรถจอดหน้าร้านแล้วเห็นคนต่อคิวยาวก็ต้องนำรถขบวนดังกล่าวออกจากร้านไป เพราะทางร้านเป็นร้านเล็กๆ ตึก 2 ล็อก บริการให้ลูกค้าเพียง 7 โต๊ะ ส่วนตึกอีก 1 ล็อกนั้น จัดไว้ให้พ่อครัวแม่ครัวไว้เตรียมอาหารออกเสิร์ฟ อย่างไรก็ตามร้านเปิด 6 วัน จะหยุดวันอาทิตย์วันเดียวเวลาเปิด 22.00 - 03.00 น. ของทุกวัน เชิญชวนมากินกันได้” เฮียฮ๋งบอก
เพราะแปลก คือ เสิร์ฟเมนูบะหมี่จานใหญ่เท่าโต๊ะจีน และยังมีเมนูชื่อแปลกๆ เช่น บะหมี่พ่อมึงตายจานเบ้อเริ่ม ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบพบร้านซุ้มเฮียฮ๋ง ตั้งอยู่เลขที่ 64/3 หมู่ 2 ซ.เจ็ดยอด ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พบนายคุณากร กุสาวดี หรือ เพื่อนเรียกหงษ์ หรือ เฮียฮ๋งเจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนเป็นคนกรุงเทพฯ มาเป็นเขยเชียงใหม่ สร้างหลักปักฐานสร้างครอบครัวที่นี่ มานานกว่า 20 ปี มีอาชีพค้าขายเปิดร้านอาหารมาตลอด 20 ปี
ก่อนนั้นขายโจ๊ก ขายก๋วยจั๊บ และร้านอาหารอื่นๆ ออกบูธตามงานมหกรรมอาหาร รวมทั้งทำอาชีพออแกไนซ์ สลับกับค้าขาย ทำให้ร้านอาหารต้องปิดๆ เปิดๆ อยู่ตลอด แต่สุดท้ายกลับมาเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยวอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ตั้งใจเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยวให้ดี เพราะส่วนตัวชอบรับประทานบะหมี่เกี๊ยวเป็นชีวิตจิตใจอยู่แล้ว
“เพราะความชอบส่วนตัว ที่ชอบกินบะหมี่เกี๊ยวมาก หาร้านกินไปทั่ว และร้านบะหมี่หลายแห่ง รวมทั้งที่เชียงใหม่อร่อยหลายร้าน แต่บ้างร้านพบปัญหา คือ ขายในราคาแพง แต่ได้น้อย บางร้านได้บะหมี่น้อย บางร้านได้หมูแดงน้อย โดยเฉพาะหมูแดงเฉือนเป็นแผ่นหมูบางจนเป่าหมูแทบปลิวหายไปกับลม จึงจำฝังใจไว้ว่า จะต้องเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยว และจะต้องทำให้ลูกค้าได้รับประทานแบบเต็มอิ่ม และหมูแดงต้องทำให้ชิ้นใหญ่ๆ จึงหันมาเปิดร้านบะหมี่เกี๊ยว และใช้ชื่อร้านเป็นอตัวเอง คือ ซุ้มเฮียฮ๋ง
เฮียฮ๋ง เล่าว่า อีกชื่อที่ลูกค้าเรียก คือ บะหมี่ปากหมา บางคนบอกมาเฟียขายบะหมี่ก็มี
เพราะพูดภาษาพ่อขุนเสียงดังฟังชัด จึงดูแปลกไปจากร้านอื่น เนื่องจากปกติคำพูดของตนเป็นแบบนี้ ทำร้านอาหารมาก็นานหลายสิบปี ก็พูดแบบนี้มาตลอด ที่หันมาขายบะหมี่เกี๊ยวตลอดกว่า 1 ปี เน้นทำหมูแดงให้ชิ้นใหญ่หรืออาจจะใหญ่ที่สุดในโลกก็ว่าได้ 1 ชิ้น ต้องกัดกินได้เกินสองครั้ง บะหมี่แห้งมีน้ำซุปราดให้เส้นฉ่ำๆเพราะส่วนใหญ่ลูกค้าชอบกินบะหมี่แห้ง ส่วนไข่ลวกออนเซ็นที่อร่อยไม่แพ้ร้านอื่นอีกด้วย ลูกค้าจะติดใจ เริ่มเปิดร้านแรกๆ ก็ขายแบบธรรมดาทั่วไป
แต่ด้วยนิสัยส่วนตัวเป็นคนพูดตรงไปตรงมา ใช้ภาษาพ่อขุนมึง-กูกับเพื่อนๆ และน้องๆ ที่มาอุดหนุนในร้านที่ตนมองว่าเป็นภาษาที่เข้าใจง่ายหลายคนมองว่าเป็นร้านที่ใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ แต่จริงๆ ตนต้องการให้บรรยากาศในร้านสนุกสนานเฮฮาเป็นกันเอง และเป็นตัวของตัวเองไม่ต้องฝืน เพื่อให้คนเราใช้ชีวิตที่เรียบง่ายเข้าใจกันง่ายสัมผัสกันง่ายขึ้น ซึ่งตรงนี้ลูกค้าจึงชอบและติดใจแนวคิดนี้และที่สำคัญได้กินบะหมี่ที่ชามใหญ่และอิ่มกลับบ้าน
เฮียฮ๋ง กล่าวอีกว่า กระแสตอบรับที่ชื่อเมนูและชามใหญ่แล้วเปิดบริการดึกเกือบถึงเช้านั้น
เพราะส่วนตัวชอบทำงานกลางคืนและนอนกลางวัน ตื่นมาตอนเย็นเตรียมของเพื่อเปิดตอนสี่ทุ่ม จากที่ก่อนนั้นเปิดโต้รุ่ง ลดเวลาลงเปิด 22.00-03.00 น. เพราะต้องการให้ลูกน้องพักผ่อนมากขึ้น
ทุกวันนี้ลูกค้าเข้าร้านจำนวนมากกว่า 500 คนต่อวัน และเมนูบะหมี่เกี๊ยวพ่อมึงตาย นำออกเสิร์ฟเพียง 1 สัปดาห์ เฉลี่ยวันละประมาณ 5 ชาม ยอดสูงสุด 10 ชามต่อวัน และน้อยสุดเมื่อวานนี้ (19 มิ.ย.) ออกเสิร์ฟ 3 ชาม โดยชามที่ใหญ่เท่าโต๊ะจีนนั้น ซื้อชามไม้ญี่ปุ่นมาเพื่อเสิร์ฟเมนูนี้โดยเฉพาะ
“ที่มาที่ไปของบะหมี่เกี๊ยวชามยักษ์ใหญ่เริ่มต้นที่ลูกค้ามากิน 1 ชาม บะหมี่ 2 ก้อนและเกี๊ยวไม่อิ่ม ต้องสั่งเพิ่มอีกชาม ทำให้เราคิดว่าจะต้องล้างชาม 2 ใบ
เลยคิดเมนูชามใหญ่ขึ้นเพิ่มบะหมี่จากชามหนึ่งบะหมี่ 2 ก้อนเป็น 4 ก้อน หรือมากกว่านั้นตามเมนู จนกระทั้งมากสุด เมนู พ่อมึงตาย บะหมี่ 60 ก้อน ราคา 600 บาท พร้อมเกี๊ยวด้วยกินได้ 10-15 คน เฉลี่ยกินคนละ 2 ก้อน ล้างชามใบเดียว ส่วนชุดประหยัดราคาลดลงมา คือ เมนูคุ้มเฮี่ยๆ เมนูโคตรเฮียกินได้ 6 คนขึ้นไป เมนูโคตรโง่กินได้ 5-6 คน เมนูประหยัดชามเล็กราคาถูกสุดชามละ 25 บาท ก็มี คือ ชุดไหว้เจ้าของผู้หญิงกินชามเล็กๆ
“อย่างไรก็ตามล่าสุดลูกค้าเรียกร้องมาอีกแล้วว่า พ่อมึงตายกินได้เพียง 10-15 คน มีชามใหญ่กว่านี้อีกหรือไม่ ผมคิดไว้แล้วและเตรียมเมนูใหม่คือ “เมนูกูจะไปหาพ่อ” เพราะว่ามีเมนูพ่อมึงตายไปแล้ว ก็จะต้องตามหาพ่อ โดยนำเอาเมนูเดิมคือโคตรโง่บะหมี่ 24 ก้อน มารวมกับพ่อมึงตาย ซึ่งมีบะหมี่ 60 ก้อน รวมได้บะหมี่ 84 ก้อน ก็ต้องให้ลูกค้ารับประทานมากกว่า 15 คนขึ้นไป ทางร้านจะนำออกเสิร์ฟในวันจันทร์ที่ 22 มิ.ย. นี้”
“ที่ผ่านมามีผู้หลักผู้ใหญ่หลายคนให้ลูกน้องแจ้งผมมาว่าจะมากินบะหมี่ที่ร้าน มีรถนำขบวนมาจอดหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ลงมากินเพราะว่า เมื่อรถจอดหน้าร้านแล้วเห็นคนต่อคิวยาวก็ต้องนำรถขบวนดังกล่าวออกจากร้านไป เพราะทางร้านเป็นร้านเล็กๆ ตึก 2 ล็อก บริการให้ลูกค้าเพียง 7 โต๊ะ ส่วนตึกอีก 1 ล็อกนั้น จัดไว้ให้พ่อครัวแม่ครัวไว้เตรียมอาหารออกเสิร์ฟ อย่างไรก็ตามร้านเปิด 6 วัน จะหยุดวันอาทิตย์วันเดียวเวลาเปิด 22.00 - 03.00 น. ของทุกวัน เชิญชวนมากินกันได้” เฮียฮ๋งบอก
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
