หน้ากากอนามัยหาซื้อไม่ได้ จะป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนาอย่างไรดี


หน้ากากอนามัยหาซื้อไม่ได้ จะป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนาอย่างไรดี

นอกจากปัญหาฝุ่นพิษจิ๋ว PM 2.5 ที่กระตุ้นให้คนไทยหันมาใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นแล้ว การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้หน้ากากอนามัยกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน

ท่ามกลางความตื่นตระหนกจากการระบาดของโรคดังกล่าว มีรายงานว่านักท่องเที่ยวชาวจีนบางส่วนก็กว้านซื้อหน้ากากอนามัยกลับประเทศไปด้วย รวมถึงคนไทยบางคนก็ซื้อกักตุนไว้จนร้านค้าบางแห่งขาดแคลนสินค้า

เมื่อปัญหามลพิษทางอากาศมารวมกับการระบาดของเชื้อไวรัส ทำให้เราได้เห็นภาพของผู้คนบนท้องถนน บนรถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร พนักงานร้านสะดวกซื้อ ฯลฯ สวมหน้ากากอนามัยกันแทบทุกคนซึ่งเป็นภาพที่ไม่ได้มีให้เห็นบ่อยนัก



แม้ว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยในชีวิตประจำวันจะเป็นพฤติกรรมใหม่ที่กลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว แต่หลายคนอาจยังมีคำถามและข้อสงสัยติดค้างอยู่ในใจเกี่ยวกับอุปกรณ์ชนิดนี้ บีบีซีไทยนำมารวบรวมไว้พร้อมกับคำตอบจากผู้เชี่ยวชาญ ดังนี้

1) หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา แบบผ้า หรือ N95 ใช้แบบไหนดี
พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัยบอกกับบีบีซีไทยว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ก่อให้เกิดโรคนั้นจะมาในรูปแบบละอองฝอยที่พุ่งออกมาจากผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งการใช้หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (surgical face mask) ที่เห็นกันคุ้นตาที่มีสีเขียว สีฟ้าหรือสีขาว สามารถป้องกันการกระจายตัวของโรคนี้ได้ เพราะฉะนั้นผู้ที่ไม่สบายมีการไอ จาม ต้องใส่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เชื้อโรคในตัวกระจายไปยังผู้อื่น

สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เจ็บป่วย แต่ต้องอยู่ในที่ชุมชนที่มีคนจำนวนมาก ก็ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตัวเองเช่นกัน




หน้ากากอนามัยหาซื้อไม่ได้ จะป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนาอย่างไรดี

บางคนสงสัยว่าจำเป็นต้องใช้หน้ากากแบบ N95 หรือไม่

พญ.พรรณพิมลตอบว่า หากต้องการสวมใส่เพื่อป้องกันฝุ่น PM 2.5 นั้น ต้องใช้หน้ากากแบบ N95 เพราะหน้ากากอนามัยแบบธรรมดาจะสามารถป้องกันได้เพียงบางส่วนหรือราว 30% เท่านั้น แต่หน้ากากแบบ N95 นั้นผู้สวมมักจะอึดอัดเพราะมีการทอด้วยเส้นใยที่แน่นมาก ดังนั้น หากต้องใช้หน้ากากต่อเนื่องเป็นเวลานาน ๆ และเพื่อป้องกันไวรัสโคโรนาก็ขอแนะนำให้ใช้หน้ากากอนามัยแบบธรรมดา ซึ่งใส่สบายกว่าและป้องกันผู้สวมใส่จากเชื้อไวรัสโคโรนาได้

นพ.ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคให้คำแนะนำเพิ่มเติมว่า หน้ากากอนามัยแบบ N95 นั้นถ้าใส่ไม่ถูกวิธีหรือเอามือไปขยับบ่อย ๆ ประสิทธิภาพอาจจะต่ำกว่าการใส่หน้ากากธรรมดาด้วยซ้ำ

เขากล่าวว่า หน้ากากอนามัยแบบ N95 เหมาะกับบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติการในโรงพยาบาลหรือห้องแยกโรคซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเชื้อโรคมาก แต่ในสถานที่ทั่วไป ซึ่งเชื้อโรคไม่ได้เยอะ การสวมใส่หน้ากากอนามัยธรรมดาก็เพียงพอแล้ว



สำหรับหน้ากากอนามัยชนิดผ้าที่นำไปซักแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้นั้น นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กล่าวว่า ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจสามารถใช้หน้ากากอนามัยที่ทำจากผ้ามาทดแทนหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ได้ เพราะหน้ากากอนามัยแบบผ้ามีประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้เช่นเดียวกันและสามารถซักทำความสะอาดนำมาใช้ซ้ำได้ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย

นพ.โสภณย้ำด้วยว่าการสวมใส่หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องนั้นให้นำด้านนุ่มไว้ข้างใน ด้านหยาบไว้ข้างนอก และต้องใส่คลุมทั้งจมูกและปาก

2) หน้ากากอนามัยใช้ซ้ำได้หรือไม่
พญ.พรรณพิมลบอกว่า โดยปกติควรจะใช้วันเดียวทิ้ง ยกเว้นบางวันที่ใช้น้อยมากก็อาจจะใช้ต่อเนื่องได้ แต่ต้องพิจารณาดูสภาพการใช้งานที่เกิดขึ้นจริงว่ามีการชำรุดหรือไม่ หากชำรุดก็ควรทิ้งไป

อธิบดีกรมอนามัยย้ำว่า หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ทำจากเส้นใยสังเคราะห์ไม่สามารถนำไปซักแล้วนำมาใช้ใหม่ได้ เพราะทันทีที่ถูกซัก เส้นใยที่ถักทอขึ้นมาจะสูญเสียคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อโรค อีกทั้งยังเป็นขุย ซึ่งผู้ใช้อาจหายใจเข้าไปได้

หากใช้หน้ากากอนามัยแบบผ้าก็ต้องดูให้ดีว่าเป็นผ้าที่มีความแน่นของเส้นใยที่พอเหมาะ เช่น ผ้าสาลู นอกจากนี้ การตัดเย็บจะต้องให้มีขนาดพอเหมาะและกระชับกับใบหน้า เพื่อป้องกันได้ดีที่สุด




หน้ากากอนามัยหาซื้อไม่ได้ จะป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนาอย่างไรดี

3) ถ้าขาดแคลนหน้ากากอนามัยจะทำอย่างไรดี
อธิบดีกรมอนามัยแนะนำว่า "การล้างมือให้สะอาด" เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันตัวเองในช่วงที่มีการระบาดของเชื้อกลุ่มไวรัสโคโรนา เพราะโอกาสติดเชื้อมาจากการสัมผัสกับเชื้อในละอองฝอยที่มือไปสัมผัสมาแล้วมาป้ายที่ตาบ้างหรือหยิบจับอาหารเข้าปากบ้าง

แล้วการล้างมืออย่างไรถึงจะปลอดภัย

อธิบดีกรมอนามัยบอกว่า เพียงใช้สบู่ธรรมดาก็สามารถชำระล้างเชื้อโรคได้แล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้แอลกอฮอล์ก็ได้

"ขอให้ล้างมือเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นช่วงการระบาดของโรคหรือช่วงปกติ เพราะนี่เป็นวิธีการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค"

นอกจากนี้ การกินอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง สวมหน้ากากอนามัยเมื่อไม่สบาย และการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงก็เป็นการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด เพราะถ้าร่างกายของเรามีภูมิต้านทานดี แข็งแรง โอกาสเจ็บป่วยจากกลุ่มโรคเหล่านี้ก็น้อยลง หรือถ้าติดเชื้อ อาการของโรคก็จะไม่รุนแรง พญ.พรรณพิมลแนะนำ

4) หน้ากากอนามัยจะขาดตลาดหรือไม่
นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายในบอกกับบีบีซีไทยว่า ในภาวะปกติความต้องการใช้หน้ากากอนามัยจะอยู่ที่ประมาณ 30 - 40 ล้านชิ้นต่อเดือน แต่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 และการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ทำให้ความต้องการเพิ่มขึ้นเป็นราว 50 ล้านชิ้นต่อเดือน โดยผู้ผลิตหน้ากากอนามัย 3 ราย ยืนยันกับกรมฯ ว่า ผู้ผลิตในประเทศสามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้เกิน 100 ล้านชิ้นต่อเดือนในช่วง 4-5 เดือนนี้




หน้ากากอนามัยหาซื้อไม่ได้ จะป้องกันตัวเองจากไวรัสโคโรนาอย่างไรดี

"เมื่อพิจารณาอัตราการผลิตของโรงงานในประเทศ 10 แห่ง กับความต้องการที่เพิ่มขึ้นถือว่ายังเพียงพอต่อความต้องการของตลาด อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้ประชาชนอย่าซื้อหน้ากากกักตุนมากเกินความจำเป็นเพราะอาจจะทำให้สินค้าขาดแคลนเพราะการผลิตไม่ทันต่อความต้องการ" นายประโยชน์กล่าว

5) ขยะหน้ากากอนามัยทิ้งที่ไหนดี
ดร.สุจิตรา วาสนาดำรงดี นักวิชาการจากสถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและผู้จัดการโครงการ Chula zero waste ให้ข้อมูลกับบีบีซีไทยว่า ตามหลักวิชาการแล้วหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วถือเป็น "ขยะติดเชื้อ" ซึ่งต้องส่งไปกำจัดด้วยวิธีที่ปลอดภัย คือ กำจัดในเตาเผาขยะติดเชื้อ

"แต่ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดการขยะติดเชื้อของกระทรวงสาธารณสุข ขยะติดเชื้อหมายถึงขยะที่เกิดในสถานพยาบาล ดังนั้นหน้ากากอนามัยที่คนปกติใช้ทั่ว ๆ ไปเพื่อป้องกันตัวเองจากฝุ่นหรือเชื้อโรคจึงไม่นับว่าเป็นขยะติดเชื้อ ซึ่งก็เข้าใจได้ เพราะถ้านิยามว่าหน้ากากอนามัยที่เราทุกคนใช้ตอนนี้เป็นขยะติดเชื้อ ซึ่งมีข้อมูลว่ามีมากถึงประมาณ 30 ล้านชิ้นต่อเดือน ระบบการจัดการขยะติดเชื้อที่มีอยู่ก็คงรองรับไม่ไหว" ดร.สุจิตรากล่าว

เธอเสนอว่า ในสถานการณ์ที่การใช้หน้ากากอนามัยเพิ่มขึ้นมากขณะนี้ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดขยะหน้ากากอนามัยจำนวนมากตามไปด้วย สำนักอนามัยของกรุงเทพมหานคร (กทม.) น่าจะเป็นเจ้าภาพในการวางระบบกำจัดหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้ว โดยการตั้งศูนย์รับแล้วส่งไปกำจัดที่เตาเผาขยะติดเชื้อที่ได้มาตรฐานของ กทม.

ขณะที่โครงการ Chula zero waste ได้จัดวางถังขยะสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วไว้ตามคณะต่าง ๆ เพื่อส่งไปกำจัดเป็น "ขยะติดเชื้อ" โดยศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะส่งมอบอย่างถูกวิธีและปลอดภัยไปยังบริษัทรับกำจัดขยะประเภทนี้อีกต่อหนึ่ง ซึ่งโดยปกติจะใช้วิธีการเผาทำลายในเตาที่มีอุณหภูมิสูง



เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี BBC NEWS


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!


Love Attack  เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน

Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้

Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์