ไขความลับ! อาหารชนิดไหน...กินเเล้วเกิดสิว

เพจ Fda Thai ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุ รู้หรือไม่ อาหารบางชนิด ทำให้เป็นสิวได้ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น

สิวเกิดจากการอักเสบของต่อมไขมัน (Sebaceous) ทำให้เรามักจะพบสิวในบริเวณที่มีต่อมไขมันมาก เช่น ใบหน้า หน้าอก หลังส่วนบน คอ ไหล่ หรือต้นแขน โดยจะพบสิวได้หลายระยะทั้งสิวอุดตันอยู่ใต้ผิวหนัง ต่อมาอาจกลายเป็นสิวอักเสบเห็นเป็นตุ่มแดง หากอักเสบมากอาจพบเป็นตุ่มหนอง หรือเป็นสิวอักเสบขนาดใหญ่ที่อยู่ลึกลงไปใต้ผิวหนังที่เรียกว่า สิวหัวช้าง

ซึ่งสาเหตุการเกิดสิวมีได้หลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความเครียด เครื่องสำอาง การดูแลทำความสะอาดร่างกายไม่ดี ยาบางชนิด แบคทีเรียบางชนิด ทำให้มีความเชื่อว่าอาหารมันทำให้เกิดสิว แต่ยังไม่มีการศึกษาใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า อาหารเป็นสาเหตุของการเกิดสิว

อย่างไรก็ตาม อาหารบางชนิดอาจส่งผลกระทบหรือกระตุ้นฮอร์โมนที่มีผลต่อการเกิดสิว เช่น อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง (Glycemic Index) สามารถกระตุ้นทำให้เกิดสิวได้ คำว่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) คือตัวเลขที่บ่งบอกว่า อาหารที่เรากินประกอบไปด้วยคาร์โบไฮเดรตต่าง ๆ เช่น ใยอาหาร และน้ำตาลนั้น สามารถเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้มากน้อยแค่ไหนเมื่อเทียบกับค่ามาตรฐาน

หากมีค่าดัชนีน้ำตาลสูง ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้นเร็ว ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนอินซูลินออกมาเป็นจำนวนมาก เพิ่มการทำงานของฮอร์โมนเพศ (Androgen) และฮอร์โมนการเจริญเติบโต (IGF-1) ซึ่งทำให้เกิดสิวได้ อาหารที่มีดัชนีน้ำตาลสูง เช่น น้ำตาลทรายขาว ขนมปังขาว อาหารที่มีรสหวาน

วิธีที่ช่วยทำให้เราทราบว่าอาหารที่เรากินมีปริมาณน้ำตาล ปริมาณเท่าไรก็คือ การอ่านฉลากโภชนาการแบบ GDA ซึ่งจะทำให้เราทราบว่าอาหารสำเร็จรูปที่เรากินเข้าไปมีพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียมเท่าไร

ในหนึ่งวันเราไม่ควรได้รับพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม มากกว่าปริมาณสูงสุดที่แนะนำดังนี้

ค่าพลังงานสูงสุดที่ควรได้รับในแต่ละวัน คือ 2,000 กิโลแคลอรี น้ำตาล 65 กรัม ไขมัน 65 กรัม และโซเดียม 2,400 มิลลิกรัม

จะเห็นได้ว่าอาหารมีส่วนสำคัญต่อการเกิดสิว ดังนั้น การกินอาหารที่ดี ก็ย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง นอกจากจะทำให้ใบหน้าสวยใสแล้ว ยังทำให้ร่างกายแข็งแรงอีกด้วย

เครดิตแหล่งข้อมูล : สยามรัฐ