4 วิธีเริ่มต้นเก็บเงินสำหรับเด็กจบใหม่ เก็บได้จริงแบบไม่ต้องทรมานตัวเอง
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง อาหารสมอง 4 วิธีเริ่มต้นเก็บเงินสำหรับเด็กจบใหม่ เก็บได้จริงแบบไม่ต้องทรมานตัวเอง
สำหรับมนุษย์เงินเดือนแล้วบอกเลยว่าใครที่มีวินัยสามารถออมเงินได้ก่อน ยิ่งได้เปรียบ เพราะการมีเงินออมนั้นนับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะคุณสามารถนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้หากเกิดเหตุฉุกเฉินโดยที่ไม่ต้องสร้างภาระหนี้เพิ่มโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังสามารถนำไปต่อยอดลงทุนทำให้เงินงอกเงยได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กจบใหม่แล้วการออมเงินเพื่อให้ได้เงินก้อนนั้นอาจเป็นเรื่องยาก เพราะแน่นอนว่าเมื่อเริ่มมีเงินเดือนเป็นของตัวเอง ก็อยากจะใช้จ่ายเงินตามที่ใจตัวเอง ทั้งนี้ การออมเงินนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความสามารถแต่อย่างใด โดยวันนี้เรามี 4 วิธีเริ่มต้นเก็บเงินสำหรับเด็กจบใหม่ ที่รับรองว่าหากทำตามสามารถเก็บเงินได้จริงแน่นอน แถมยังไม่ต้องทรมานตัวเองอีกด้วย ลองมาดูกันเลยว่ามีวิธีไหนบ้าง
1. เก็บก่อนใช้
• ก้อนแรก 50% สำหรับค่าใช้จ่ายประจำเป็นการแบ่งเงินออกมาจำนวน 10,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่าหอพัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
• ก้อนที่ 2 30% สำหรับสร้างความสุขแบ่งเงินออกมา 6,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายเงินเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง เช่น การกินข้าวนอกบ้าน การซื้อของขวัญให้ครอบครัว การซื้อคอร์สเรียนต่างๆ หรือการซื้อเสื้อผ้า ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้การออมเงินทรมานมากไป แต่ควรคำนึงด้วยว่าสิ่งที่จะซื้อนั้นมีความจำเป็นจริงๆ หรือไม่
• ก้อนที่ 3 20% สำหรับเก็บออมคือ แบ่งเงินมา 4,000 บาทสำหรับการเก็บออมเป็นประจำทุกเดือน
นอกจากการออมเงินในแต่ละเดือนแล้ว การเริ่มต้นเก็บเงินด้วยการศึกษาเรื่องการลงทุนในกองทุนรวมเอาก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะการฝากเงินในธนาคารเพียงอย่างเดียวนั้นไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ โดยในปัจจุบันมีกองทุนมากมายที่เริ่มเพียงแค่ 1 บาทก็สามารถลงทุนได้แล้ว โดยกองทุนนั้นมีหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
เป็นวิธีเริ่มต้นเก็บเงินที่เด็กจบใหม่ทุกคนควรทำคือ เมื่อได้รับเงินเดือนให้รีบแบ่งเงินส่วนหนึ่งสำหรับการเก็บออมทันที ซึ่งเงินจำนวนที่เหลือคือเงินที่สามารถใช้ได้ โดยเริ่มออมตามกำลังสามารถ เช่น เริ่มที่ 10% แล้วค่อยขยับขึ้นเรื่อยๆ เมื่อฐานเงินเดือนสูงขึ้น
2. ออมเงินสูตร 50-30-20
การออมเริ่มด้วยสูตร 50-30-20 นี้นับว่าเป็นวิธีเริ่มต้นเก็บเงินที่ดีที่จะช่วยทำให้การใช้จ่ายเงินในแต่ละเดือนนั้นเป็นแบบแผนมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการสร้างวินัยในการออมด้วย โดยสมมติว่าได้รับเงินเดือน 20,000 บาท จะแบ่งเงินออกเป็นทั้งหมด 3 ก้อนด้วยกัน ดังนี้• ก้อนแรก 50% สำหรับค่าใช้จ่ายประจำเป็นการแบ่งเงินออกมาจำนวน 10,000 บาท ซึ่งเงินส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายประจำในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าเช่าหอพัก ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
• ก้อนที่ 2 30% สำหรับสร้างความสุขแบ่งเงินออกมา 6,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายเงินเพื่อสร้างความสุขให้ตัวเอง เช่น การกินข้าวนอกบ้าน การซื้อของขวัญให้ครอบครัว การซื้อคอร์สเรียนต่างๆ หรือการซื้อเสื้อผ้า ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้การออมเงินทรมานมากไป แต่ควรคำนึงด้วยว่าสิ่งที่จะซื้อนั้นมีความจำเป็นจริงๆ หรือไม่
• ก้อนที่ 3 20% สำหรับเก็บออมคือ แบ่งเงินมา 4,000 บาทสำหรับการเก็บออมเป็นประจำทุกเดือน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงทำงานแรกๆ เงินเดือนอาจจะยังน้อยอยู่ ดังนั้น อาจปรับการเริ่มต้นเก็บเงินได้ เช่นใช้สูตร 60-25-15 ตามความเหมาะสม เพื่อให้การออมเงินเป็นเรื่องที่สามารถทำได้จริงและไม่เครียดจนเกินไป
3. การลงทุนในกองทุนรวมนอกจากการออมเงินในแต่ละเดือนแล้ว การเริ่มต้นเก็บเงินด้วยการศึกษาเรื่องการลงทุนในกองทุนรวมเอาก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะการฝากเงินในธนาคารเพียงอย่างเดียวนั้นไม่สามารถเอาชนะอัตราเงินเฟ้อได้ โดยในปัจจุบันมีกองทุนมากมายที่เริ่มเพียงแค่ 1 บาทก็สามารถลงทุนได้แล้ว โดยกองทุนนั้นมีหลายประเภทให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นตราสารหนี้ หุ้นในประเทศ หุ้นต่างประเทศ และอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!