เมื่อหายจาก COVID-19 ร่างกายจะเป็นอย่างไรต่อ?
เมื่อหายจาก COVID-19 ร่างกายจะเป็นอย่างไรต่อ?
อย่างที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่า COVID-19 ส่งผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะการระบาดในระลอกหลังๆ ที่เชื้อเริ่มมีความรุนแรงมากขึ้น สร้างผลกระทบต่อปอดมากขึ้น แม้ว่าภายนอกเราแทบจะไม่มีอาการอะไรเลยก็ตาม ทำให้หลายคนเกิดความกังวลว่าแม้รักษาหายจาก COVID-19 แล้ว ร่างกายของเราจะเป็นอย่างไร จะส่งผลระยะยาวหรือไม่ วันนี้คุณหมอจะมาเคลียร์ชัดทุกข้อข้องใจที่คุณอยากรู้
COVID-19 ทำให้หลอดเลือดในปอดอุดตันได้จริงหรือ?
ตัวไวรัส COVID-19 มีฤทธิ์กระตุ้นให้เกิดการอักเสบขึ้นในร่างกาย จึงมีโอกาสทำให้ปลายหลอดเลือดอุดตัน จนทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้จริง ซึ่งส่วนใหญ่จะพบได้จากการที่ค่าออกซิเจนในเลือดยังต่ำกว่ามาตรฐาน แม้ว่าการอักเสบในปอดจะน้อยลงแล้วก็ตาม และไม่ใช่เฉพาะบริเวณปอดเท่านั้น ยังสามารถเกิดลิ่มเลือดอุดตันบริเวณสมอง หัวใจ ไต ขา ได้เช่นเดียวกัน
หายจาก COVID-19 แล้วปอดจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมไหม?
ในกลุ่มผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรงส่วนใหญ่ ปอดจะสามารถฟื้นฟูกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ภายใน 3 เดือน แต่หากหลัง 3 เดือนแล้วยังพบร่องรอยการอักเสบ ก็ต้องเฝ้าระวังภาวะพังผืดที่ปอด ควรติดตามอาการใกล้ชิดอย่างน้อย 1 ปี
Post COVID-19 อาการเหล่านี้หายจากโควิดแล้วก็ต้องระวัง
Post COVID-19 Syndrome คืออาการที่ อาจ เกิดขึ้นได้หลังหายจากการติดเชื้อ COVID-19 ไปแล้ว 4-6 สัปดาห์ ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นในผู้ป่วยทุกคน โดยอาการที่พบส่วนใหญ่ก็จะมีคืออ่อนเพลีย ไม่มีแรง ปวดตามกล้ามเนื้อและข้อ หายใจเหนื่อยหอบ ปวดหัว มีไข้ รวมไปถึงมีอาการทางจิตใจ อย่างหดหู่ ซึมเศร้า เนื่องจากผ่านเหตุการณ์สะเทือนใจจากการเจ็บป่วย โดยหากตรวจยืนยันแล้วว่าไม่พบการติดเชื้อซ้ำแพทย์ก็จะพิจารณารักษาตามอาการ
ซึ่งอาการ Post COVID-19 Syndrome ที่พบส่วนใหญ่แบ่งออกเป็น 3 สาเหตุหลักๆ ดังนี้
อาการที่เป็นผลกระทบจากการรักษา COVID-19
อย่าพึ่งกังวลไป! ที่พูดถึงนั้นไม่ได้หมายความถึงการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ (favipiravir) เพราะยาดังกล่าวเรียกได้ว่าแทบจะไม่มีผลข้างเคียงหรือหากมีก็ในระดับที่น้อยมากจนไม่ใช่เรื่องน่ากังวล ส่วนใหญ่ผลกระทบที่เกิดจากการรักษา COVID-19 มักพบในผู้ป่วยที่มีอาการค่อนข้างรุนแรงไปจนถึงรุนแรง หรือระดับเหลืองและแดงนั่นเอง โดยอาการที่พบได้ก็คือระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยาสเตียรอยด์ (Steroid) เพื่อควบคุมการอักเสบของปอด และอีกอาการที่ต้องเฝ้าระวังก็คือภาวะน้ำท่วมปอดโดยเฉพาะในผู้ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือต้องรับออกซิเจนอัตราการไหลสูง (High flow) ระหว่างการรักษา
ภาวะแทรกซ้อนจากการนอนโรงพยาบาล
เพราะการรักษา COVID-19 ผู้ป่วยต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลอย่างน้อย 10 วัน และล่าสุดพบว่าผู้ป่วยกว่า 20% ที่มีปอดอักเสบจากเชื้อ COVID-19 ระลอกใหม่ เกิดการอักเสบซ้ำเมื่อหยุดยา ทำให้ต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานขึ้น จึงส่งผลให้
-สุขภาพจิตแย่ลง ส่วนใหญ่ที่พบได้คือความเครียดและความวิตกกังวล ซึ่งจะส่งผลให้นอนไม่หลับ พักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้การฟื้นตัวช้ากว่าที่ควรจะเป็น
-ในรายที่มีอาการหอบเหนื่อยมาก เคลื่อนไหวลำบาก ก็อาจเกิดภาวะปอดแฟ่บ เนื่องจากการกดทับบริเวณเดิมติดต่อกันเป็นระยะเวลานานๆ ทำให้ออกซิเจนหมุนเวียนในปอดได้น้อยลง, กล้ามเนื้อลีบ หรือเกิดแผลกดทับได้
ผลกระทบต่อร่างกายจากเชื้อ COVID-19
เพราะ COVID-19 พุ่งเป้าโดยตรงไปที่ปอด ทำให้เกิดปอดอักเสบ เมื่อปอดอักเสบก็จะทำให้การนำออกซิเจนเข้าสู่เลือดไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ก็จะทำให้ระบบการทำงานภายในค่อยๆ ล้มเหลวลง การรักษาจึงต้องมุ่งไปที่การต้านเชื้อไวรัส ควบคู่กับการควบคุมการอักเสบของปอด ซึ่งเมื่อรักษาหายก็ต้องอาศัยระยะเวลาให้ปอดและระบบภูมิคุ้มกันได้ฟื้นตัว
ฟื้นฟูปอดให้กลับมาฟิตด้วยเทคนิคง่ายๆ
1.นอน... หลับอย่างน้อย 10-12 ชั่วโมงต่อวัน
2.พัก... ปอดให้มากที่สุด งดการใช้แรงทุกชนิด
3.ดื่ม... น้ำให้มาก ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย เพราะน้ำจะช่วยลดการอักเสบในร่างกาย เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับปอด ลดภาวะเมือกคั่งในปอดได้
4.บริหาร... ปอด ด้วยการ
-ฝึกนอนคว่ำ
-ฝึกหายใจเข้าลึกๆ ให้สุดปอด แล้วกลั้นไว้สัก 3 วินาทีจึงปล่อยลมหายใจออก
-แกว่งแขน
5.เลือก... กินอาหาร ที่ย่อยง่าย กินน้อยๆ แต่กินให้บ่อยขึ้น ลดการทานเนื้อสัตว์ เพราะร่างกายต้องใช้พลังงานในการเผาผลาญมาก ทำให้ปอดต้องทำงานหนักขึ้น หลีกเลี่ยงอาหารประเภททอด อาหารมันๆ อาหารรสจัด รวมไปถึงกะทิ ที่อาจกระตุ้นให้เกิดการไอ เพราะการไอจะยิ่งส่งผลให้ปอดอักเสบเพิ่มมากขึ้น
6.งด...การออกกำลังกาย รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าจะไม่รู้สึกหอบเหนื่อยเวลาหายใจ
เครดิตแหล่งข้อมูล : phyathai
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น