
รู้จักภาวะเสียการสื่อภาษา (Aphasia) ที่บรูซ วิลลิส จำต้องลาวงการบันเทิง


อาการของ Aphasia
อาการจะแตกต่างไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับบริเวณที่สมองได้รับความเสียหายและระดับความรุนแรงของความเสียหาย ภาวะนี้ส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาต่อการพูด การทำความเข้าใจ การอ่าน การเขียน การสื่อสาร และการรับสาร เช่น พูดได้แค่ประโยคสั้น ๆ หรือพูดไม่จบประโยค ไม่สามารถเรียบเรียงประโยคในการพูดหรือการเขียนให้ผู้ฟังเข้าใจได้ ใช้คำไม่เหมาะสม เลือกใช้คำหนึ่งแทนที่อีกคำ พูดคำที่ไม่มีความหมาย หรือไม่เข้าใจในบทสนทนาของผู้อื่น พูดไม่ได้ เป็นต้น

Aphasia สามารถแบ่งออกเป็น 4 ชนิดใหญ่ ๆ คือ
1.ชนิดที่มีปัญหาด้านการรับรู้ทางภาษาเป็นปัญหานำ (receptive aphasia, sensory aphasia หรือ Wernicke's aphasia) พยาธิสภาพของสมองอยู่ที่ส่วนกลางของสมองส่วนหน้า (Wernicker' s area) ผู้ป่วยจะมีความบกพร่องด้านการฟังและการอ่านเป็นหลัก โดยมักจะพูดได้คล่องและชัดเจน แต่ไม่เข้าใจคำพูดของตัวเอง หรือไม่รู้ว่าตัวเองพูดผิดแต่บางรายอาจมีการสร้างคำพูดใหม่ ๆ ขึ้นมาเองได้อาจสรุปปัญหาด้านการรับรู้ทางภาษาในผู้ป่วยประเภทนี้ได้ดังนี้
ก. ปัญหาในการฟังเข้าใจคำพูด
ข. ปัญหาในการอ่านหนังสือ
ค. ปัญหาในการพูดตาม

ก. พูดไม่ชัดอาจจะพูดไม่ชัดแบบ apraxia หรือ dysarthria ร่วมด้วย แล้วแต่ความรุนแรงและตำแหน่งของพยาธิสภาพ
ข. พูดเฉพาะคำสำคัญของประโยค
ค. พูดไม่คล่องตะกุกตะกัก หยุดพูดระหว่างคำบ่อยและนานกว่าปกติเพราะต้องหยุดนึกหาคำพูด
ง. พูดใช้เสียงหนึ่งแทนเสียงหนึ่งหรือใช้คำหนึ่งแทนอีกคำหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
จ. ปัญหาในการพูดตาม
ฉ. ปัญหาในการคิดคำนวณหรือการนับเงินตรา
ช. ปัญหาในการพูดสิ่งที่เรียงลำดับ
ซ. ปัญหาในการนึกคิดหาคำพูดหรือคำศัพท์ต่างๆ


ผู้ป่วย aphasia จะมีพฤติกรรมและบุคลิกภาพเปลี่ยนแปลงไปดังนี้
1.ระดับความตื่นตัวลดลงต้องกระตุ้นหรือพูดซ้ำ ๆ ผู้ป่วยจึงจะตอบสนอง
2.วอกแวกง่าย (distractibility) มีการเปลี่ยนความสนใจจากสิ่งที่กำลังทำอยู่ไปสู่สิ่งกระตุ้นอื่นได้ง่าย
3.การตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นไม่แน่นอน (variability of response) บางครั้งทำได้ดี แต่บางครั้งทำไม่ได้ทั้งๆที่เป็นสิ่งกระตุ้นเดียวกัน
4.การทำซ้ำ ๆ โดยยับยั้งตัวเองไม่ได้ (perseveration) เช่น เมื่อบอกให้ชี้หูปากแล้วบอกให้ชี้ตาผู้ป่วยก็ยังคงชี้ปากอยู่ซ้ำ ๆ เป็นต้น
5.มีปัญหาในการรับรู้บุคคลเวลาและสถานที่
6.ทัศนคติและแรงจูงใจเปลี่ยนแปลงไปเช่นเคยเป็นคนชอบเข้าสังคม แต่เมื่อมีปัญหา aphasia ป่วยไม่ชอบเข้าสังคมชอบอยู่คนเดียวเป็นต้น
7.อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย
8.เก็บกดเนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถสื่อความหมายกับผู้อื่นได้ดีเช่นเดิมผู้ป่วยจึงกังวลใจไม่อยากคุยกัน ป้องกันไม่ให้ผู้ป่วยสร้างนิสัยในการติดต่อสื่อสารที่ไม่ดีอีกด้วยผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการให้การักษาผู้ป่วย aphasia คือนักอรรถบำบัด (speech therapist) อย่างไรก็ตามบุคลากรทางการแพทย์สาขาอื่นและญาติหรือผู้ดูแลผู้ป่วยสามารถมีส่วนร่วมในการรักษานี้ได้ด้วย
ภาวะแทรกซ้อนของ Aphasia
Aphasia เป็นภาวะที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เนื่องจากผู้ป่วยจะมีปัญหาด้านการสื่อสาร จึงอาจกระทบต่อความสัมพันธ์ การทำงาน หรือการทำกิจกรรมในแต่ละวัน อีกทั้งอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกอับอาย หดหู่ เนื่องจากไม่สามารถสื่อสารได้ตามปกติ



กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























กระทู้ล่าสุด


รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว