เตือนห้ามซื้อปากกาลดน้ำหนักมาใช้เอง มีผลข้างเคียงสูงที่ต้องรู้
ได้โพสต์เตือนภัยเกี่ยวกับ 'ปากกาลดความอ้วน'
มีคำถามหลังไมค์มา ถึงยายี่ห้อหนึ่งซึ่งมาในรูปร่างคล้ายปากกา บอกสรรพคุณว่าใช้ควบคุมน้ำหนัก ไม่ต้องออกกำลังกาย ไม่ต้องอดอาหาร ก็ลดความอ้วนได้ เลยสงสัยว่า มีผลข้างเคียงอันตรายหรือไม่ ?
คำตอบคือ มีผลข้างเคียงสูงครับ เป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด อย่าซื้อมาใช้เองเด็ดขาด
เรื่องนี้ ทาง อบ. ได้เลยออกมาเตือนแล้วว่า พบการโฆษณาจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปากกาลดน้ำหนัก ขายกันทางออนไลน์ และมีแนวโน้มจะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น จึงขอเตือนประชาชนว่า
"ปากกาฉีดยาลดน้ำหนัก มีข้อบ่งใช้สำหรับการลดน้ำหนัก สำหรับผู้มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน ร่วมกับปัญหาด้านสุขภาพ เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเลือดผิดปกติ หรือปัญหาภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับเนื่องจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ
หากพบเห็นการโฆษณาผลิตภัณฑ์ในลักษณะดังกล่าวขอให้แจ้งมาที่สายด่วน อย. 1556
ขอเสริมข้อมูลรายละเอียด ด้วยบทความนี้จาก โรงพยาบาลวิมุต ด้วยครับ
"รู้หรือไม่..ใช้ปากกาลดน้ำหนักผิดๆ อาจเสี่ยงโยโย่"
#ปากกาลดน้ำหนักคืออะไร ?
"ปากกาลดน้ำหนัก" เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ช่วยควบคุมน้ำหนักในรูปของปากกาสำหรับฉีดยา โดยในปี ค.ศ.2014 องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกาได้รับรองยาที่ชื่อ Liraglutide ชนิดฉีดเข้าใต้ผิวหนัง ไว้ใช้สำหรับลดน้ำหนัก ซึ่งกลไกการทำงานของยาที่ได้จากปากกาลดน้ำหนักนั้น เป็นดังนี้
- ยานี้จะช่วยลดการบีบตัวของกระเพาะอาหารและลำไส้ อาหารที่กินเข้าไปนั้นย่อยช้าลง ช่วยให้อาหารอยู่ในกระเพาะนานขึ้น จึงรับประทานอาหารได้น้อยลง
- ยามีฤทธิ์ต่อสมอง ทำให้ไม่รู้สึกหิว ความอยากอาหารลดน้อยลง และทำให้ควบคุมการกินได้ดีขึ้น
- กระตุ้นให้ตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลินมาช่วยปรับสมดุลระดับน้ำตาลในเลือด โดยไม่ทำให้น้ำตาลตก หรือวูบ เพราะยาจะออกฤทธิ์ก็ต่อเมื่อเรากินอาหารเข้าไปแล้วเท่านั้น
ยา Liraglutide ในรูปแบบปากกาลดน้ำหนัก มักใช้หัวเข็มขนาดเล็กมาก โดยมีวิธีใช้งานตามที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแนะนำไว้ดังนี้
- ฉีดยาเข้าชั้นไขมันใต้ผิวหนัง บริเวณหน้าท้อง ต้นขา หรือต้นแขนที่มีไขมันมากๆ แต่บริเวณอื่นๆ อาจฉีดยากกว่าบริเวณหน้าท้อง
- สามารถฉีดยาเวลาใดก็ได้ ได้ทั้งก่อนและหลังอาหาร แต่แนะนำให้เป็นเวลาที่สามารถฉีดเป็นประจำได้ทุกวันและไม่ลืม โดยส่วนมากแพทย์จะแนะนำให้ฉีดช่วงเช้าหลังตื่นนอน หรือกลางคืนก่อนนอน
- ฉีดยาทุกวัน วันละ 1 ครั้ง ห้ามลืม เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการลดน้ำหนักได้ดีที่สุด หากลืมอาจจะทำให้ได้รับปริมาณยาที่ลดลง และผลของการลดน้ำหนักลดลง
- ฉีดยาต่อเนื่องตามคำแนะนำของแพทย์ ซึ่งไม่มีกำหนดตายตัวว่าจะต้องหยุดยาเมื่อไหร่ โดยจะขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักต้องการ เช่น หากใช้แล้วน้ำหนักลดลงตามที่ต้องการแล้ว แต่ค่า BMI ยังเกินมาตรฐานอยู่ก็สามารถใช้ต่อเนื่องได้หากต้องการ หรือหยุดใช้ได้เพราะได้ตัวเลขน้ำหนักที่พอใจแล้ว
การใช้ปากกาลดความอ้วนนั้นไม่เจ็บ เนื่องจากเข็มที่มีขนาดเล็กมาก โดยการฉีดครั้งแรกแพทย์จะเป็นผู้สอนการใช้และจะจับมือฉีดให้ลองใช้เอง เพื่อให้สามารถฉีดได้เองในครั้งต่อไป
#ปากกาลดน้ำหนักเหมาะกับใคร
ปากกาลดน้ำหนักเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาเหล่านี้
- คนที่มีภาวะน้ำหนักเข้าเกณฑ์โรคอ้วน คือ มีดัชนีมวลกาย BMI เกิน 30 kg/m2
- คนที่มีภาวะน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานดัชนีมวลกาย BMI เกิน 27 kg/m2 หรือมีปัญหาสุขภาพ มีโรคประจำตัวหรือภาวะต่างๆ เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง ไขมันเกาะตับ
- คนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักและต้องการตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพ
- คนที่ต้องการปรับพฤติกรรมการกิน เช่น กินมากไป กินจุบจิบ
- คนที่ต้องการหาวิธีลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์
- คนที่ลดน้ำหนักด้วยวิธีอื่นๆ แล้วยังไม่เห็นผล
เมื่อใช้ปากกาลดน้ำหนัก อาจมีผลข้างเคียงได้บ้าง เช่น
- เนื่องจากตัวยามีผลต่อการบีบตัวต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ จึงอาจทำให้รู้สึกคลื่นไส้ พะอืดพะอมได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อกินเร็ว หรือกินในปริมาณมาก โดยจะเป็นเฉพาะช่วงเริ่มใช้ยา หรือปรับเพิ่มขนาดยาใหม่
- ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องเสียเล็กน้อย
- ท้องผูก เนื่องจากยาที่ฉีดเข้าไปจะลดอัตราการบีบตัวของลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานช้าลง จึงมีโอกาสทำให้เกิดท้องผูก
แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เกิดกับทุกคน และร่างกายจะสามารถปรับตัวได้เมื่อใช้ยาต่อเนื่อง 1-2 สัปดาห์