อันตรายกว่าที่คิด กินโกโก้เข้มข้นมากเกินไป ระวังเป็นเเบบนี้
คำเตือนของการรับประทานโกโก้
เนื่องจากคาเฟอีนในโกโก้จะไปกระตุ้นสมองส่วนกลางเป็นส่วนใหญ่ อาการที่พบ ขึ้นกับปริมาณคาเฟอีนที่บริโภคและที่คงค้างในร่างกาย เช่น ใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว นอนไม่หลับ มือสั่น กระสับกระส่าย คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และปัสสาวะบ่อย-โรคเบาหวาน น้ำตาลในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากโกโก้อาจไปเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด รวมถึงรบกวนการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยโรคเบาหวาน
-ภาวะเลือดออกผิดปกติ ผลิตภัณฑ์จากโกโก้อาจชะลอการแข็งตัวของเลือดซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะเลือดออกผิดปกติ
-ต้อหิน คาเฟอีนในโกโก้อาจเพิ่มแรงดันภายในลูกตา ผู้ป่วยจึงควรระมัดระวังในการบริโภคโกโก้อยู่เสมอ
-กรดไหลย้อน โกโก้อาจไปขัดขวางการทำงานของหลอดอาหารจนส่งผลให้อาการของกรดไหลย้อนแย่ลงได้
-กลุ่มอาการลำไส้แปรปรวน และท้องเสีย หากมีการบริโภคสารคาเฟอีนจากผลิตภัณฑ์โกโก้ในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยกลุ่มอาการลำไส้แปรปรวนและผู้ป่วยท้องเสียมีอาการแย่ลง
-ปวดหัวไมเกรน โกโก้อาจไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวไมเกรนในผู้ที่ไวต่ออาการปวดได้
-โรคกระดูกพรุน สารคาเฟอีนจากโกโก้อาจทำให้ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนขับแคลเซียมออกมาทางปัสสาวะมากขึ้น จึงควรระมัดระวังในการรับประทานโกโก้อยู่เสมอ
-ผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด การบริโภคโกโก้อาจรบกวนการควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดในระหว่างและหลังการผ่าตัดได้ ดังนั้น ก่อนเข้ารับการผ่าตัดใด ๆ ผู้ป่วยควรหยุดรับประทานโกโก้เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
-ภาวะวิตกกังวล คาเฟอีนจากโกโก้ในปริมาณมากอาจทำให้ผู้ป่วยประสบภาวะวิตกกังวลหรืออาการทรุดหนักลงได้
-อาการใจสั่น ควรบริโภคในปริมาณที่เหมาะสม โดยปริมาณโกโก้ที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน คือ 19-54 กรัม ดาร์คช็อกโกแลตในปริมาณ 46-100 กรัมต่อวัน หรือผลิตภัณฑ์จากโกโก้ที่มีสารโพลีฟีนอลในปริมาณ 16.6-1080 มิลลิกรัมต่อวัน