รู้ก่อนกิน วิธีแยก น้ำแข็ง ก้อนไหนทำมาจากน้ำต้ม-น้ำกรอง
สีและความใสของน้ำแข็ง น้ำแข็งที่ผลิตจากน้ำต้มสุกเมื่อแช่แข็งแล้วจะมีสีใสและเรียบเนียน นั่นเป็นเพราะน้ำต้มมีฟองอากาศและสิ่งสกปรกบางส่วนถูกกำจัดออกไปในระหว่างกระบวนการเดือด ถ้าใช้น้ำต้มสุกสองครั้งในการทำน้ำแข็ง ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นน้ำแข็งใส ไม่ใช่น้ำแข็งขุ่น
ในทางตรงกันข้ามน้ำแข็งที่ทำจากน้ำไม่ผ่านการต้มหรือน้ำประปามักมีสีขาวขุ่น เพราะยังมีสารเจือปนอยู่มาก แม้ว่าสิ่งเจือปนที่ละลายในน้ำจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อแช่แข็งแล้ว สิ่งเหล่านั้นก็จะสะสมรวมกันจนส่งผลให้ก้อนน้ำแข็งขุ่น
"สิ่งเจือปน" ไม่ได้หมายถึงเชื้อโรคหรือแบคทีเรียเสมอไป สิ่งอื่น ๆ นอกเหนือจากน้ำถือได้ว่าเป็นสิ่งเจือปน แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตรายต่อเรา อันที่จริงแล้ว สิ่งแปลกปลอมบางส่วนเช่น แคลเซียมและแมกนีเซียก็มีประโยชน์ต่อสุขภาพ
พร้อมทั้งยังมีสิ่งแปลกปลอมอีกหลายชนิดที่ไม่สามารถกำจัดออกด้วยวิธีกรองแบบเดิม ๆ ดังนั้น เมื่อน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง สิ่งเจือปนที่กระจายอยู่ในน้ำอย่างสม่ำเสมอมีแนวโน้มที่จะรวมตัวกันใกล้ตรงกลางจนทำให้ก้อนน้ำแข็งมีสีขาวขุ่นอยู่ตรงกลาง
นอกจากการอาศัยสีและความใสของน้ำแข็งแล้ว เรายังแยกแยะน้ำแข็งที่ทำจากน้ำต้มกับน้ำไม่ต้มได้ตามความสามารถในการละลายอีกด้วย
น้ำแข็งที่ทำจากน้ำต้มได้ขจัดฟองอากาศและสิ่งสกปรกออกไป ดังนั้น โครงสร้างจึงแข็งมากขึ้นและคงความเย็นได้นานขึ้น ทำให้ละลายได้ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อน้ำแข็งละลายก็จะสังเกตได้ว่าน้ำใสราวกับน้ำแร่
ส่วนน้ำแข็งที่ทำจากน้ำที่ไม่ได้ต้มหรือน้ำประปาทั่วไปที่มีสิ่งเจือปนมากมาย โครงสร้างจะเกาะตัวกันหลวมกว่าและละลายเร็วกว่า หลังจากน้ำละลายจะมีลักษณะขุ่นและมองเห็นสารตกค้างได้ชัดเจน
สรุปได้ว่า หากนำน้ำต้มสุกมาทำน้ำแข็งจะทำให้เกิดก้อนน้ำแข็งใส ในขณะที่น้ำที่ยังไม่ต้มจะทำให้เกิดก้อนน้ำแข็งที่ขุ่นมากกว่า