ข่าวดี ประกันสังคม ปรับเพิ่มสิทธิตรวจสุขภาพ เริ่ม 1 เม.ย.นี้ มีอะไรบ้าง


ข่าวดี ประกันสังคม ปรับเพิ่มสิทธิตรวจสุขภาพ เริ่ม 1 เม.ย.นี้ มีอะไรบ้าง


    ข่าวดี สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค พร้อมลดความเสี่ยงของโรค NCDs หรือ โรคเรื้อรัง ให้กับผู้ประกันตน ผ่านโครงการดูแลสุขภาพผู้ประกันตนเชิงรุกเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจัยด้านอายุและความจำเป็นในการตรวจ เตรียมปรับเพิ่มรายการตรวจสุขภาพให้มีความถี่มากขึ้น เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 นี้เป็นต้นไป

หลักเกณฑ์การให้บริการผู้ประกันตน
ผู้ประกันตนที่อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป สามารถตรวจสุขภาพฟรี

*ตรวจน้ำตาล
*ไขมันในเลือด
*ตรวจการทำงานของไต
*ตรวจปัสสาวะ
*ตรวจ X-ray

ตามหลักเกณฑ์อัตราที่กำหนด "ทุกปี" ซึ่งจะให้สิทธิเฉพาะผู้ประกันตนในระบบประกันสังคมเท่านั้น เป็นการตรวจ "เสริม" จากการตรวจสุขภาพพื้นฐานของ สปส.ที่ให้คนไทยทุกสิทธิ

ด้านทันตกรรม

สามารถเข้าถึงการรักษาดูแลสุขภาพฟัน ในสถานพยาบาล หรือคลินิกทั้งรัฐและเอกชนได้อย่างสะดวก ทั้งใน-นอกเวลาราชการ โดยไม่ต้องนัดหมายล่วงหน้า

ในปี 2667 นี้ สปส. ยังเพิ่มโครงการรถทันตกรรมเคลื่อนที่ อำนวยความสะดวกในการรับบริการรักษาดูแลสุขภาพฟัน เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีของผู้ประกันตน

เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต

ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับการรักษาฟรี 72 ชั่วโมง ทั้งในสถานพยาบาลของรัฐและเอกชน สำหรับกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ผู้ประกันตนเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลของรัฐ รักษาฟรี 72 ชั่วโมง กรณีสถานพยาบาลเอกชน เบิกได้ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด และให้สถานพยาบาลที่รักษา แจ้งสถานพยาบาลตามสิทธิของผู้ประกันตนให้รับผิดชอบดูแลรักษา ตั้งแต่รับแจ้งจนสิ้นสุดการรักษา โดยผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย

สิทธิประโยชน์ด้านการรักษาพยาบาลอื่น ๆ

1. การปลูกถ่ายไขกระดูก (การปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต) สำหรับการรักษามะเร็งโรคเลือด 8 ชนิด สิทธิประกันสังคมสามารถทำการปลูกถ่ายเซลล์ฯ ครอบคลุมทั้งวิธีการปลูกถ่าย โดยใช้เนื้อเยื่อตนเอง เนื้อเยื่อพี่น้องร่วมบิดา-มารดา และเนื้อเยื่อของผู้บริจาคผ่านสภากาชาดไทย ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึงรายละ 1,300,000 บาท "ฟรี"

2. เข้ารับการรักษาด้วยการผ่าตัด หรือหัตถการในกลุ่มโรคที่เป็นปัญหาของผู้ประกันตน จำนวน 5 โรค ประกอบด้วย

โรคหัวใจและหลอดเลือด
โรคหลอดเลือดสมอง
โรคนิ่วในไตหรือถุงน้ำดี
โรคมะเร็งเต้านม
ก้อนเนื้อที่มดลูก

รับการผ่าตัดหรือทำหัตการที่ไหนก็ได้ ในโรงพยาบาลที่ทำความตกลงกับสำนักงานฯ ภายในระยะเวลา 15 วัน หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยหรือแพทย์ลงความเห็นว่า จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดซึ่งจะช่วยลดการรอคอยการผ่าตัดหรือทำหัตการ ลดความเสี่ยง รวมถึงลดความรุนแรงของโรค

3. เพิ่มการเข้าถึงการรักษาโรคหยุดหายใจขณะหลับซึ่งจำเป็นต้องใช้เครื่อง CPAP โดยจ่ายค่าอุปกรณ์เครื่องอัดอากาศขณะหายใจเข้า (CPAP) และค่าตรวจการนอนหลับ (Sleep test) สำหรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาด้วยโรคหยุดหายใจขณะหลับ ซึ่งถือเป็นโรคที่ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะนำมาซึ่งความอันตรายแก่ชีวิตอีกด้วย

สิทธิการรักษาพยาบาลในระบบประกันสังคม

กรณีเจ็บป่วยจะได้รับความคุ้มครองด้วยการรักษาพยาบาลที่ครอบคลุมทุกโรค ทุกความเจ็บป่วย โดยผู้ประกันตนสามารถเข้าถึงสถานพยาบาลของรัฐและเอกชนกว่า 267 แห่ง แค่ยื่นบัตรประชาชน โดยผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ในโรงพยาบาลทุกขนาดตั้งแต่ปฐมภูมิถึงตติยภูมิที่อยู่ภายใต้การลงนามความร่วมมือเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการเลือกเข้ารับการรักษาของผู้ประกันตน

เครดิตแหล่งข้อมูล : สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน - Social Security Office


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์