ระวัง..อย่ากินอาหาร7อย่างพร้อมยา อาจมีพิษ

ระวัง! 7 อาหารที่ไม่ควรกินพร้อมยา อาจลดประสิทธิภาพและเสี่ยงต่อสุขภาพ

การรับประทานยาควบคู่กับอาหารเป็นเรื่องที่หลายคนมองข้าม แต่รู้หรือไม่ว่าอาหารบางชนิดอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยา หรือแม้แต่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้ นักโภชนาการและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ เช่น จาง ยู่ซี ได้ออกมาเตือนผ่านบทความในคลูเฮลท์ว่า มีอาหาร 7 ชนิดที่ควรระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องรับประทานพร้อมยา เพราะอาจเกิดปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนี้

อาหาร 7 ชนิดที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อกินยา

1.น้ำเกรปฟรุต
น้ำเกรปฟรุตสามารถรบกวนการเผาผลาญของยาควบคุมความดันโลหิตสูงและยาลดคอเลสเตอรอล ทำให้ยาออกฤทธิ์มากเกินไป ส่งผลให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำหรือกล้ามเนื้อเสียหายได้

2.กาแฟ
กาแฟอาจลดประสิทธิภาพของยานอนหลับ และขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กกับแคลเซียม หากบริโภคเป็นประจำอาจนำไปสู่ปัญหาการนอนหลับหรือโรคโลหิตจาง

3.ชีส
ชีสมีสารไทรามีนสูง หากรับประทานพร้อมยาต้านอาการซึมเศร้าบางชนิด อาจทำให้ความดันโลหิตพุ่งสูงจนเป็นอันตราย

4.แอลกอฮอล์
แอลกอฮอล์รบกวนการเผาผลาญของยา และอาจเกิดปฏิกิริยาพิษเมื่อใช้ร่วมกับยาแก้ปวดหรือยาลดน้ำตาลในเลือด

5.กล้วย
กล้วยมีโพแทสเซียมสูง หากกินพร้อมยาลดความดันโลหิต อาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงเกินไปจนเป็นอันตราย

6.อะโวคาโด
อะโวคาโดอาจต้านฤทธิ์ของยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด ทำให้ยาไม่ได้ผลตามที่ควร

7.ขนมปังโฮลวีต
ขนมปังโฮลวีตอาจรบกวนการดูดซึมของยารักษาไทรอยด์ ส่งผลให้การรักษาไม่มีประสิทธิภาพ

ทำอย่างไรให้การใช้ยาปลอดภัยและได้ผล
เพื่อให้ยาที่รับประทานมีประสิทธิภาพสูงสุดและไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ นักโภชนาการแนะนำ 4 แนวทางง่าย ๆ ที่ทุกคนควรปฏิบัติเมื่อเริ่มใช้ยาใหม่

-ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร
สอบถามอย่างละเอียดว่ามีอาหารหรือเครื่องดื่มใดที่ควรหลีกเลี่ยง โดยเฉพาะผลไม้หรือเครื่องปรุงที่เราคุ้นเคยในชีวิตประจำวัน

-ปรับเวลารับประทานอาหาร
หากเลี่ยงอาหารบางชนิดไม่ได้ ให้เว้นระยะเวลาระหว่างการกินอาหารและยา เพื่อให้ร่างกายดูดซึมยาได้เต็มที่

-สื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอ
อัปเดตพฤติกรรมการกินและสุขภาพกับแพทย์หรือนักโภชนาการ เพื่อปรับการใช้ยาให้เหมาะสม

-จดบันทึกและอ่านฉลากยา
ทำรายการยาและอาหารที่ใช้บ่อย พร้อมอ่านคำแนะนำบนฉลากยาอย่างถี่ถ้วน เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

***สุขภาพดีเริ่มจากการใส่ใจ
การใช้ยาที่ถูกวิธีควบคู่กับการเลือกกินอาหารอย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยให้ยาออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ แต่ยังป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพที่อาจเกิดจากความไม่รู้ ฉะนั้น ครั้งต่อไปที่หยิบยามากิน อย่าลืมใส่ใจสิ่งที่กินควบคู่ไปด้วย เพื่อให้ "ยา" เป็นตัวช่วยรักษา ไม่ใช่กลายเป็น "พิษ" ที่ทำร้ายร่างกาย!