
อุทาหรณ์ เป็นเบาหวานไม่กินยา2ปี เพราะเชื่อคนข้างบ้าน สุดท้าย...

เรื่องเตือนใจจากผู้ป่วยเบาหวานที่หยุดยาเอง: ไม่กินยา ก็เสี่ยงไตวายได้
จากโพสต์ของเพจ "เรียนหมอ" ได้แชร์เคสตัวอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับผู้ป่วยเบาหวานรายหนึ่งที่กลัวการกินยาจะทำให้ไตวาย เนื่องจากเชื่อคำพูดของเพื่อนบ้านที่บอกว่า "กินยาเยอะไตพัง" สุดท้าย ผู้ป่วยตัดสินใจหยุดกินยาด้วยตัวเองนานถึง 2 ปี ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ อาการแย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ปัสสาวะตอนกลางคืนบ่อยถึง 5-6 ครั้ง ปัสสาวะมีฟอง ตาพร่ามัว มีอาการชาที่ปลายมือปลายเท้า และเมื่อเจาะเลือดตรวจ ค่าน้ำตาลพุ่งสูงเกินขีดจำกัด
คุณหมอที่ดูแลเคสนี้ถึงกับงง เพราะผู้ป่วยสงสัยว่า "ไม่กินยาสักเม็ด ทำไมยังเป็นโรคไต?"
คำตอบชัดเจนว่า ไม่ใช่ยาที่ทำให้ไตวาย แต่เป็น "เบาหวานที่ควบคุมไม่ได้" ต่างหากที่ทำร้ายไต เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงเกินไปเป็นเวลานาน ไตต้องทำงานหนักเพื่อกรองของเสีย สุดท้ายไตก็เสื่อมและพังในที่สุด ผู้ป่วยรายนี้จึงกลายเป็น "ผู้ป่วยโรคไตหน้าใหม่" จากการพิสูจน์ด้วยตัวเองว่า การไม่กินยาไม่ได้ช่วยป้องกันไตวายอย่างที่เข้าใจผิด
คุณหมอจากเพจ "เรียนหมอ" อธิบายเพิ่มเติมว่า โรคเบาหวานเปรียบเสมือน "เลือดกลายเป็นน้ำเชื่อม" เมื่อระดับน้ำตาลสูงเกินไป ไม่ใช่แค่ไตที่เสื่อม แต่ยังทำลายอวัยวะอื่น ๆ เช่น ตาบอดจากจอประสาทตาเสื่อม หรือเส้นประสาทเสียหายจนชาตามปลายมือปลายเท้า การกินยาและปรับพฤติกรรม เช่น ควบคุมอาหาร ลดน้ำตาล เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาระดับน้ำตาลให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (น้ำตาลขณะอดอาหารไม่ควรเกิน 126 มก./ดล. และน้ำตาลสะสม HbA1c ไม่เกิน 6.5%) หากปล่อยให้เบาหวานลุกลาม อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายจะค่อย ๆ พังตามไปด้วย
ความดันสูง: ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม
นอกจากเบาหวานแล้ว เพจ "เรียนหมอ" ยังเตือนถึงอันตรายของ "ความดันโลหิตสูง" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโรคเรื้อรังที่หลายคนละเลย เพราะมักไม่มีอาการชัดเจน ทำให้ไม่กลัวและหยุดยาเอง แต่รู้หรือไม่ว่า ความดันสูงที่ควบคุมไม่ได้เป็นสาเหตุสำคัญของ "สโตรก" หรืออัมพาต ค่าความดันปกติควรอยู่ที่ไม่เกิน 120/80 มม.ปรอท หากสูงถึง 140/90 มม.ปรอท ถือว่าเป็นความดันสูง และหากเกิน 170/110 มม.ปรอท ถือเป็นภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที หมอจะให้ยาลดความดันแบบเร่งด่วนและตรวจเพิ่มเติมเพื่อป้องกันความเสียหายต่ออวัยวะ
ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
หลายคนเชื่อว่า ถ้ากินยาแล้วความดันดีขึ้นหรือน้ำตาลลดลงแล้ว สามารถหยุดยาได้เลย โดยไม่ต้องไปพบแพทย์ต่อ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ โรคเบาหวานและความดันสูงเป็น "โรคเรื้อรัง" ที่ต้องรักษาอย่างต่อเนื่อง การกินยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ ควบคู่ไปกับการปรับพฤติกรรม เช่น ลดเค็ม ลดหวาน ออกกำลังกาย และติดตามอาการกับแพทย์ จะช่วยให้ควบคุมโรคได้ดีขึ้นและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง
Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday