
ไทย ที่1เอเซีย-ที่8โลก ประเทศร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรม

THACCA เผย ‘ไทย' อันดับหนึ่งเอเซีย-อันดับ 8 โลก ‘ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมที่สุด' โดยการจัดอันดับของเว็บไซต์ U.S. News & World Report ปี 2024
เมื่อวันที่ 7 ส.ค.68 THACCA-Thailand Creative Culture Agency โพสต์
เมื่อ "วัฒนธรรม" และ "อัตลักษณ์" ของชาติ เป็นเสน่ห์ที่สามารถดึงดูดใจคนทั้งโลกให้อยากมาชื่นชม อยากมาสัมผัสความงามทางวัฒนธรรม จนกลายเป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในปัจจุบันได้
ประเทศไทยนับว่าเป็นชาติที่มีความแข็งแกร่งในเรื่องวัฒนธรรมไม่น้อย จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมที่สุดอันดับ 1 ของเอเชีย และติดอันดับ 8 ของโลก จากทั้งหมด 89 ประเทศทั่วโลก โดยการจัดอันดับของเว็บไซต์ U.S. News & World Report ปี 2024
ผลการจัดอันดับดังกล่าวใช้เกณฑ์ประเมินคุณลักษณะประเทศ 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์อันรุ่งเรือง อาหาร สถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม และความน่าดึงดูดทางภูมิศาสตร์
โดย 10 อันดับแรก ประเทศที่ร่ำรวยมรดกทางวัฒนธรรมที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2024 ได้แก่
.
1. ไทย
2. อินเดีย
3. ญี่ปุ่น
4. จีน
5. อินโดนีเซีย
6. เวียดนาม
7. มาเลเซีย
8. เกาหลีใต้
9. สิงคโปร์
10. ฟิลิปปินส์
ในรายงานระบุด้วยว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก แม้ว่ารายได้จากภาคการท่องเที่ยวคิดเป็น 7% ของ GDP เท่านั้น แต่เสน่ห์ของประเทศไทยอยู่ที่บ้านเมืองที่ทันสมัยและโบราณสถานที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติที่หลากหลาย มีหาดทรายและวัดวาอารามที่งดงาม และขึ้นชื่อเรื่องการนวดแผนไทย รวมถึงอาหารก็มีรสชาติยอดเยี่ยมด้วย
Soft Power ไทย = เครื่องยนต์เศรษฐกิจใหม่
การครองตำแหน่งประเทศที่ร่ำรวยทางวัฒนธรรมที่สุดในเอเชีย จึงไม่ใช่เพียงความภาคภูมิใจ แต่ยังเป็น "โอกาสทางเศรษฐกิจ" ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศและประชาชนได้อีกมหาศาล รัฐบาลจึงต้องดำเนินนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ เพื่อวางยุทธศาสตร์ในการบริหารเสน่ห์ทางวัฒนธรรมของชาติ และเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบ
โดยรัฐบาลมีแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการทำงานของหน่วยงานหลักอย่าง สำนักงานส่งเสริมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (THACCA-Thailand Creative Culture Agency) โดยคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มุ่งเน้นการพัฒนายุทธศาสตร์ 3 ด้าน
1. ต้นน้ำ - การพัฒนาทักษะคนไทย เพราะรัฐบาลเชื่อว่า คนไทยมีเสน่ห์และความสามารถในทางวัฒนธรรม ที่เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาที่สั่งสมกันมาจากรุ่นสู่รุ่น และสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในระบบเศรษฐกิจได้
เราจึงต้องเริ่มต้นจากการอบรมเพื่อเพิ่มบุคลากรทางวัฒนธรรมอย่างเป็นระบบ ด้วยนโยบาย "หนึ่งครอบครัว หนึ่งซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS - One Family One Soft Power)" เพื่อ Up-skill และ Re-skill ยกระดับศักยภาพทางวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งนั้นให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม รวมไปถึงการฝึกฝนทักษะวัฒนธรรมสร้างสรรค์ใหม่ๆ ด้วย เพื่อให้คนไทยสามารถหยิบของเก่าและของใหม่มาผสานกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่ สร้างสรรค์เป็นวัฒนธรรมใหม่ๆ ของชาติได้
2. กลางน้ำ - รัฐบาลเห็นว่า อุตสาหกรรมวัฒนธรรมไทยทั้งแบบดั้งเดิมและสร้างสรรค์ใหม่ มีความเข้มแข็งอย่างมาก เพียงแต่ในอดีต สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกปลดล็อกหรือถูกจำกัดศักยภาพอยู่ รัฐบาลจึงต้องมุ่งพัฒนาระบบนิเวศอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ เพื่อปลดล็อกศักยภาพนั้น ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ เช่น การแก้กฎหมายเก่าที่เป็นอุปสรรค ออกกฎหมายใหม่เพื่อปลดล็อคศักยภาพ
รวมไปถึงการสนับสนุน และส่งเสริมกิจกรรมต่างๆ ในอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ทั้ง 14 อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อเพิ่มศักยภาพการในแข่งขัน พร้อมนำเสนอเสน่ห์วัฒนธรรมสร้างสรรค์เหล่านี้สู่สายตาชาวโลก ให้คนทั้งโลกรักและหลงใหล
3. ปลายน้ำ - รัฐบาลมุ่งมั่นผลักดันวัฒนธรรมไทยออกไปสู่ระดับสากลผ่านกลไก "การทูตทางวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (Creative Cultural Diplomacy)" ด้วยการใช้วัฒนธรรมเป็นเครื่องมือในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และขยายอิทธิพลของไทยในเวทีโลก เพื่อสร้างเครือข่ายและพัฒนาตลาดต่างประเทศ ส่งออกสินค้าและบริการของไทย ตลอดจนความเป็นไทยที่ร่วมสมัย ทันสมัย แต่ยังมีรากฐานทางวัฒนธรรมที่แข็งแรง
เพื่อให้เกิด "แรงดึงดูด" ที่ทำให้คนทั่วโลกอยากมาเที่ยว ลงทุน หรือเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศไทย รวมถึงเพิ่มสัดส่วนมูลค่าในตลาดต่างประเทศ ผ่านทั้งบริการ เช่น การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และผลิตภัณฑ์วัฒนธรรม ซึ่งไม่เพียงแต่จะสร้างรายได้เข้าประเทศ แต่ยังส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนในระยะยาวอีกด้วย

Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว