ทองคำยุคใหม่! แร่แรร์เอิร์ธ ทำไมถึงแพงและสำคัญ มาหาคำตอบกัน

 

พักเรื่องน้ำมันกับทองคำไปก่อน! ตอนนี้ทั่วโลกกำลังเปิดศึกแย่งชิง "ของ" ชิ้นใหม่ที่เรียกว่า "แร่แรร์เอิร์ธ" (Rare Earth) หรือแร่หายากกันอยู่ ล่าสุดร้อนถึงขั้นที่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องมาจับมือกับไทยและมาเลเซียเพื่อสร้างแก๊งซัพพลายเชนสู้เลยทีเดียว ว่าแต่มันคืออะไร? ทำไมถึงสำคัญขนาดนั้น? มาดูกัน!

"แร่แรร์เอิร์ธ" คือแก๊งแร่สุดเทพ!

พูดง่ายๆ มันคือกลุ่มโลหะพิเศษ 17 ชนิดที่มีพลังวิเศษซ่อนอยู่ ชื่ออาจจะบอกว่า "หายาก" แต่จริงๆ แล้วมันมีอยู่ทั่วไปบนเปลือกโลกนี่แหละ! ปัญหาก็คือ...มันไม่ได้อยู่รวมกันเป็นก้อนสวยๆ ให้ขุดง่ายๆ แต่มันดันกระจายตัวปะปนกับหินอื่นๆ เหมือนเกลือที่ผสมอยู่ในทราย การจะสกัดเอาเฉพาะตัวแรร์เอิร์ธออกมาเลยเป็นเรื่องที่โคตรยาก, แพง, และต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แถมกระบวนการยังทิ้งสารพิษไว้เพียบ!

ทำไมมันถึงเป็น "ของแรร์" ที่ใครๆ ก็อยากได้?

ก็เพราะ "พลังวิเศษ" ของมันน่ะสิ! แร่พวกนี้เป็นเหมือนส่วนผสมลับที่ทำให้อุปกรณ์ไฮเทคทั้งหลายทำงานได้แบบเทพๆ ลองนึกภาพตาม:

-แม่เหล็กพลังสูง ในมอเตอร์รถยนต์ไฟฟ้า (EV) หรือกังหันลม ก็มาจากแร่นีโอดิเมียม

-จอสมาร์ตโฟนสีสดสวย ที่เราไถๆ กันทุกวันนี้ ก็ได้แรยูโรเพียมกับอิตเทรียมมาช่วย

-แบตเตอรี่รถไฮบริด ก็ต้องพึ่งพาแรแลนทานัม

-แผงโซลาร์เซลล์ ก็ทำงานดีขึ้นเพราะมีแรเทอร์เบียม

พูดง่ายๆ คือ โลกยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีสะอาดและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีเจ้าแร่แก๊งนี้!

เปิดวาร์ป 10 ประเทศที่กุมขุมทรัพย์นี้ไว้เยอะสุด!

มาดูกันว่าใครเป็นเศรษฐีแร่แรร์เอิร์ธของโลกใบนี้!

1. จีน (44 ล้านตัน):พี่เบิ้ม! เจ้าพ่อตัวจริง! มีแร่ในครอบครองเกือบครึ่งหนึ่งของทั้งโลก เรียกว่ากุมชะตาอุตสาหกรรมไฮเทคไว้ในมือเลยก็ว่าได้

2. บราซิล (21 ล้านตัน): ยักษ์หลับ! มีของเยอะเป็นอันดับสอง แต่ยังขุดมาใช้ได้ไม่เต็มที่เท่าไหร่ รอวันตื่นเต็มตัว

3. อินเดีย (6.9 ล้านตัน): ดาวรุ่งพุ่งแรง! กำลังเร่งเครื่องลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมนี้แบบสุดๆ

4. ออสเตรเลีย (5.7 ล้านตัน): ผู้เล่นรายใหญ่! เป็นอีกหนึ่งประเทศที่ผลิตและส่งออกเป็นเรื่องเป็นราว

5. รัสเซีย (3.8 ล้านตัน): ตัวตึง ที่มีของซ่อนอยู่มหาศาล และกำลังหาทางปล่อยของเพื่อเป็นผู้เล่นหลักในตลาดโลก

6. เวียดนาม (3.5 ล้านตัน): ม้ามืด! มีปริมาณสำรองเยอะไม่แพ้รัสเซีย โดยเฉพาะแถวชายแดนติดกับจีน

7. สหรัฐอเมริกา (1.9 ล้านตัน): ลูกค้า VIP! เป็นประเทศที่ใช้เทคโนโลยีเยอะสุดๆ แต่มีแร่สำรองในบ้านตัวเองค่อนข้างจำกัด

8. กรีนแลนด์ (1.5 ล้านตัน): ดินแดนน้ำแข็งแห่งอนาคต! ยังไม่ได้เริ่มขุด แต่มีแหล่งใหญ่ที่รอการพัฒนาอยู่

9. แทนซาเนีย & แอฟริกาใต้ (ประเทศละ 0.9 ล้านตัน): คู่หูแห่งแอฟริกา! สองประเทศที่มีศักยภาพสูงและกำลังหาทางพัฒนาทรัพยากรของตัวเอง

แล้วไทยอยู่ตรงไหนของเกมนี้? บอกเลยว่าพีค!

หลายคนอาจจะงงว่า "อ้าว แล้วไทยล่ะ?" แม้ว่าไทยจะไม่ได้ติดอันดับ Top 10 ประเทศที่มี ปริมาณแร่สำรอง (แร่ที่อยู่ในดิน) เยอะที่สุดในโลก (เราอยู่อันดับ 12) แต่เรื่องที่น่าเซอร์ไพรส์ก็คือ... ไทยกลับพุ่งขึ้นมาติดอันดับ 6 ของโลกในด้าน "ผู้ผลิต" แร่แรร์เอิร์ธในปี 2024!

เดี๋ยวนะ... มีแร่สำรองไม่เยอะ แต่ผลิตได้ติดท็อปโลกได้ไง?

คำตอบก็คือ เราไม่ได้ขุดจากในประเทศเป็นหลัก แต่ไทยเป็น "ฮับ" สำคัญในการ "แต่งแร่" หรือก็คือการนำเข้าวัตถุดิบแร่จากประเทศอื่น (เช่น ออสเตรเลีย) มาผ่านกระบวนการสกัดและแปรรูปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง แล้วค่อยส่งออกไปขายทั่วโลกอีกที!

นี่แหละคือเหตุผลที่ทำให้ไทยกลายเป็นผู้เล่นคนสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของโลกที่สหรัฐฯ ต้องหันมาจับมือด้วย! สรุปง่ายๆ เลยว่า แร่แรร์เอิร์ธ คือไพ่ตายของโลกอนาคต และถึงแม้เราจะไม่มีขุมทรัพย์ใต้ดินมหาศาลเหมือนจีน แต่เราก็มีเทคโนโลยีและความสามารถในการแปรรูปที่ทำให้เราเป็นคนสำคัญในเกมนี้ได้เหมือนกัน!

สรุปง่ายๆ เลยว่า แร่แรร์เอิร์ธ ไม่ใช่แค่หินธรรมดาๆ แต่มันคือ "ไพ่ตาย" ในเกมการแข่งขันทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจของโลกยุคใหม่ ใครคุมแร่เหล่านี้ได้ ก็เหมือนกุมอนาคตไว้ในมือนั่นเอง!