วิธีรอดเมื่อถูกสุนัขจรล้อม สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำผิดมาตลอดชีวิต

วิธีรอดเมื่อถูกสุนัขจรล้อม สิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำผิดมาตลอดชีวิต

ถ้าคุณถูกหมาจรล้อม ขอให้จำไว้เลยว่า ปัญหาไม่ใช่จำนวนหมา แต่คือสัญชาตญาณล่าที่คุณไปกระตุ้นโดยไม่รู้ตัว 99% ของคนทำผิดเพราะทำสิ่งเดียวที่อันตรายที่สุด คือ วิ่งหนี

1. ห้ามวิ่ง: เพราะคุณกำลังเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเหยื่อทันที หมาไม่ได้ไล่คนที่เดินช้า หมาไล่สิ่งที่หนี

2. ทำตัวให้ใหญ่ขึ้น 1 ระดับ แต่ต้องไม่ใช่ท่าท้าสู้: ยืนตรง ยืดไหล่ เปิดอก ยกแขนเล็กน้อย นี่ไม่ใช่ท่าอวดเก่ง แต่เป็นภาษากายว่า "ฉันไม่ใช่เหยื่อ แต่ฉันไม่รุกราน" หมาฝูงจะลังเลทันที

3. อย่ามองตาตรงนานเกิน 1 วินาที: การจ้องตาตรงเท่ากับท้าทาย แต่การหลบตาแบบตกใจเท่ากับอ่อนแอ ให้มองแบบเห็นภาพรวม ไม่ใช่ท้าชนสายตา แบบนี้คือสัญญาณว่า "ฉันควบคุมตัวเองได้ และไม่ใช่ศัตรู"

4. เสียงต่ำ ช้า ไม่ต้องตะโกน: เสียงสูงเท่ากับความตื่นตระหนก จะไปกระตุ้นหมา เสียงต่ำและช้าเท่ากับสัญญาณสงบ หมาจะลดความตึงเครียด ให้พูดประมาณว่า "ใจเย็นๆ นะ" เสียงทุ้ม ช้า ชัด นี่คือภาษาที่หมารู้สึกว่าคุณไม่ใช่ภัย

5. ถอยหลังช้าๆ แบบครึ่งก้าว ไม่หันหลังเด็ดขาด: ไม่หมุนตัวหายไปจากสายตาฝูง แค่เอียงตัวเล็กน้อยแล้วถอยหลังช้าๆ นี่คือภาษากายว่า "ฉันจะไม่เข้าใกล้ฝูงของคุณ" หมาจะเปิดทางทันที เพราะฝูงไม่รู้สึกว่าต้องปกป้องอะไร

6. ถ้ามีตัวเดียวพุ่งเข้าใส่ ห้ามเตะ ให้ใช้ขาเป็นกำแพง: คนส่วนใหญ่รีบเตะ และนั่นคือสิ่งที่หมาโจมตีสวนได้ง่ายที่สุด ให้ยกเข่าและปลายเท้าขึ้นเป็นกำแพง หมาจะไม่พุ่งต่อ เพราะมันเห็นว่าระยะเข้ากัดไม่ปลอดภัย นี่เป็นเทคนิคของเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์เวลาเจอสุนัขก้าวร้าว

7. สัญญาณเดียวที่บอกว่าคุณปลอดภัยแล้ว: ถ้าหมาตัวที่ดุร้ายที่สุดหันหัวออกด้านข้าง นั่นคือสัญญาณว่าฝูงยอมปล่อยคุณผ่าน ถอยหลังช้าๆ ต่อไปจนคุณพ้นวงความสนใจของมัน

สรุปแบบจำให้ขึ้นใจ:

วิ่ง = กระตุ้นโหมดล่า

นิ่ง + เสียงต่ำ = ลดความตึงเครียด

ถอยหลังช้าๆ = ส่งสัญญาณว่าไม่รุกราน

นี่คือ 3 ขั้นตอนที่หยุดฝูงหมาได้จริง เซฟเก็บไว้ เพราะนี่คือความรู้ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมา