หลับง่ายถ่ายคล่องด้วยแกงขี้เหล็ก
"บรรเทาเครียด โรคประสาท"
ตำราแผนโบราณของ "หมอพร" หรือกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กล่าวว่าให้เอา แก่นขี้เหล็ก แก่นฝาง ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย ฯลฯ รวม 24 สิ่ง หนักเท่ากัน ใส่หม้อดินต้มน้ำพอควร รับประทานครั้งละ 1 ถ้วย วันละ 2 เวลา บรรเทาเครียด แก้โรคประสาท ได้ผลชะงักนักแล
ตำราแผนไทยฉบับอื่น ๆ กล่าวถึงสรรพคุณขี้เหล็กไว้ตรงกันว่า ใบขี้เหล็กแก้นอนไม่หลับ เป็นยาระบายอย่างอ่อน ดอกแก้รังแค แก้หืด และอาการนอนไม่หลับ ส่วนขี้เหล็กทั้งห้า (คือเอาทั้งใบ ดอก ผล ต้น ราก) ช่วยถ่ายพิษกระษัย พิษไข้ ฯลฯ
เอขี้เหล็กมีดีอะไรหนอ ?
ขี้เหล็กเป็นพืชพื้นเมืองในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พบทั่วไปในประเทศไทย ศรีลังกา มาเลเซีย และเพื่อนบ้านใกล้เคียง ดอกขี้เหล็กเป็นช่อสีเหลือง คนชนบทนิยมเก็บใบอ่อนและดอกมาทำแกงชี้เหล็ก อร่อยอย่าบอกใคร
เมื่อราว 60 ปีมาแล้ว ในช่วงสงครามโลก ประเทศไทยขาดแคลนยาและเวชภัณฑ์จำเป็นอย่างมาก ศาสตราจารย์นายแพทย์อวย เกตุสิงห์ ได้พยายามศึกษาค้นคว้าตำรายาไทยเพื่อหาว่าพืชสมุนไพรตัวใดที่อาจนำมาใช้แทนยาแผนปัจจุบันได้
"หลายชนิดมีผลต่อประสาทส่วนกลาง"
ในราวปี พ.ศ. 2485 คุณหมออวย ได้พบว่า สมุนไพรไทยหลายชนิดมีฤทธิ์ต่อประสาทส่วนกลาง โดยเฉพาะขี้เหล็กตำรับยาไทยหลายเล่มระบุสรรพคุณตรงกันในด้านคลายเครียด บรรเทาอาการจิตฟุ้งซ่านขี้เหล็กเป็นอาหารพื้นบ้านชาวไทยมานานหลายร้อยปีแล้ว ความปลอดภัยอยู่ในระดับที่มั่นใจได้
ห้าปีต่อมา แพทย์หญิงอุไร อรุณลักษณ์ แผนกสรีรวิทยา โรงพยาบาลศิริราช ได้ทำการศึกษาอย่างจริงจัง โดยกระทำการสะกัดสารสำคัญจากใบขี้เหล็กด้วยแอลกอฮอล์ แล้วนำสารที่ได้ฉีดใส่สัตว์ทดลอง เพื่อดูว่ามันจะมีฤทธิ์อย่างที่คนโบราณบันทึกได้หรือไม่
ฮู เร !
สัตว์ทดลองที่ได้กินหรือฉีดสารสะกัดจากใบขี้เหล็ก จะมีอาการซึม เคลื่อนไหวช้าลง ชอบอยู่เฉย ๆ ซุกหน้าแต่ไม่ถึงกับหลับ
คุณหมออุไร ได้ทดลองใช้สารสะกัดขี้เหล็กกับผู้ป่วยที่มีปัญหานอนไม่หลับ 8 คน พบว่าขี้เหล็กช่วยให้หลับได้ดีตลอดคืน จึงสรุปว่าขี้เหล็กมีฤทธิ์เป็นยาสงบระงับ (Sedative)ได้
แสดงว่าสารสำคัญในขี้เหล็กออกฤทธิ์ได้จริง และไม่รุนแรง
นั่นเป็นก้าวแรกและก้าวสำคัญของขี้เหล็กที่จะอวดโฉมในวงการแพทย์ไทยและวงการแพทย์โลก
ในเมืองนอก คณะผู้วิจัยในมหาวิทยาลัยนอตติงแฮม ประเทศอังกฤษได้ศึกษาหาว่าสารสำคัญตัวนี้คืออะไร และพบในเวลาต่อมาว่า มันคือสารพวกโครโมน (Chromone) พวกเขาตั้งชื่อมันว่า บาราคอล (Barakol) หรือแอนไฮโดรบาราคอล
ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมได้พัฒนาขี้เหล็กไทยให้เป็นยาคลายเครียด ช่วยให้นอนหลับอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ยังติดขัดเรื่องความเป็นพิษต่อตับ ทำให้การพัฒนาประสบอุปสรรค
นอกจากฤทธิ์คลายเครียด หนังสือยาสมุนไพรสำหรับงานสาธารณสุขมูลฐาน กระทรวงสาธารณสุข ปี พ.ศ. 2537 กล่าวว่า แอนทราควิโนน ในใบและดอกตูมของขี้เหล็ก ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ และช่วยแก้อาการท้องผูกได้
น่าสนใจนะครับ เมืองไทยมีอะไรดี ๆ ที่คนรุ่นใหม่ยังไม่รู้อีกแยะ
แหมหลับง่าย ถ่ายคล่องอย่างนี้หิ้วแกงขี้เหล็กกลับบ้านสักถุง ทานเป็นกับข้าวมื้อเย็น ดีไหมครับ ? หรือจะลองปรุงแกงขี้เหล็ก สูตรคุณสมัคร ก็น่าสนใจนะครับ
แหล่งข้อมูล : บอร์ดรวมเรื่องน่าอ่าน