เรามีบุญนักแล้ว ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์
เกิดเป็นมนุษย์และยังได้พบพระพุทธศาสนา ศาสนาของพระผู้จอมปราชญ์ สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า จะยอมเป็นคนไม่ฉลาด ไร้ปัญญา จมอยู่ในความโฉดเขลาเบาปัญญานั้นหาควรไม่
เรามีบุญนักแล้ว ที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ ทั้งยังได้พบพระพุทธศาสนา อันเป็นศาสนาของพระผู้มีพระปัญญายิ่ง เป็นศาสนาเดียวที่จะพาให้พ้นทุกข์มากมายของการเกิด ทุกศาสนาสอนให้ปฏิบัติดี ไม่ปฏิบัติชั่ว
แต่พระพุทธศาสนาสอนสูงยิ่งไปกว่าสอนให้ปฏิบัติดี พระพุทธศาสานาสอนให้ปฏิบัติที่จะพาให้พ้นทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิงตั้งแต่มีชีวิตในภพชาตินี้ และภพชาตินี้จะเป็นภพชาติสุดท้ายก็ได้
จะไม่มีภพชาติใหม่อีกเลยได้ นั่นก็คือพระพุทธศาสนาสามารถนำให้พ้นทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิงจริง ไม่มีภพชาติใหม่ให้เป็นทุกข์อีก แม้เป็นผู้ปฏิบัติถูก ปฏิบัติตรง ปฏิบัติจริง ตามที่ทรงตรัสรู้ และด้วยพระมหากรุณาทรงแสดงสอน
ยังมีแน่ ผู้ยังปรารถนาความมีภพชาติใหม่ ทั้งยังคิดว่าจะทุกข์ยากลำบากลำบนอย่างไรให้ได้เกิดใหม่ก็ยังดี ดีกว่าไม่เกิด และผู้ที่คิดเช่นนี้แทบทั้งนั้นคิดมุ่งไปทางเดียว ว่าการเกิดใหม่คือการเกิดเป็นมนุษย์เท่านั้น ไม่คิดให้ถูกตามเป็นจริงว่า การเกิดใหม่นั้นเกิดได้มากมายหลายชนิด เกิดในนรกก็ได้ เกิดเป็นสัตว์ใหญ่สัตว์เล็กก็ได้ ไม่เพียงเกิดเป็นคนได้เท่านั้น
ข้อสำคัญแม้เกิดเป็นคนก็อาจจะเป็น คนตาบอด หูหนวก ใบ้ บ้า แขนขาด ขาขาด พิกลพิการได้ต่างๆ นานา ดังได้พบได้เห็นกันอยู่ไม่น้อยแล้วในทุกวันนี้ ทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของกรรมที่พากันทำมาแล้วนับภพนับชาติไม่ได้
เรารู้หรือว่าเราได้ทำกรรมใดไว้ จะนำให้ภพชาติข้างหน้าเป็นไปตามอำนาจของกรรมใด ให้เป็นอย่างนี้ดีกว่ากระมัง คือพบเห็นผู้คนที่อยู่ในสภาพน่าอเนจอนาถในยิ่งนัก
ก็ให้คิดถึงตนเองบ้าง แน่ใจได้อย่างไรว่าเราจะไม่เกิดในสภาพที่พิกลพิการน่าสลดสังเวชเช่นนั้น คิดว่าควรจะเสี่ยงเกิดในสภาพนั้นหรือ
ไม่กลัวจริงๆ หรือ คิดให้ดี คิดให้รอบคอบ คิดแล้วคิดอีกให้เกิดความแน่ใจว่าพร้อมจะเสี่ยงภัยสภาพในภพภูมิใหม่เช่นนั้นนา
ถ้าเช่นนั้นก็ไม่ต้องเห็นความจำเป็นที่จะต้องเร่งปฏิบัติให้ถูกให้ตรงให้จริงตามที่สมเด็จพระบรมศาสดาทรงพระมหากรุณาแสดงสอนไว้ เพื่อความพ้นทุกข์อย่างสิ้นเชิงของเรา ของสัตว์โลกทั้งปวง
: แสงส่องใจ อาสาฬหบูชา ๒๕๔๘
: สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก