มือของเราสอนธรรมะเราได้ด้วยหรือนี่?
ลูกจงดูมือของตัวเองทั้งหงายมือและคว่ำมือ ขณะหงายมือและคว่ำมือให้พิจารณามือเราไปด้วย ลูกจงหงายมือและคว่ำมือหลาย ๆ ครั้ง พ่อจะถามว่าเรามีมือเหมือนกันไหม????
......... (เหมือนกันค่ะ)
แล้วตรงไหนไม่เหมือนกัน???
............ (ขนาดมือไม่เท่ากัน นิ้วมือไม่เหมือนกัน ความสั้นยาวของนิ้วไม่เท่ากัน มือหยาบกระด้างไม่เหมือนกัน)
ทำไมถึงไม่เหมือนกัน???
เพราะเป็นคนละคนกันใช่ไหม???
เพราะหลากหลายการดูแลใช่ไหม????
เหมือนกับชีวิตเราไหม????
ชีวิตแต่ละคนแตกต่างกัน ลูกลองหงายมือและคว่ำมืออีกครั้ง แล้วลูกจงพิจารณามือที่คว่ำกับมือที่หงายว่ามือส่วนไหนสวยกว่ากัน?
...........(หงายมือสวยกว่าค่ะ)
เพราะอะไร?
..........(ผิวพรรณสวยกว่า เต่งตึงกว่า)
หงายมือหมายถึงชีวิตของเรา นี่คือตัวเราที่มีพระธรรม เมื่อมีพระธรรมก็เหมือนกับมือที่หงาย
แต่หงายแล้วก็ยังไม่เหมือนกันอีก เหมือนกับชีวิตของเรา ขาวไม่เท่ากัน ความนิ่มไม่เหมือนกัน ความละเอียดของผิวไม่เท่ากัน ความผ่องใสก็ไม่เท่ากัน
คนที่มือหนามือด้านก็เหมือนกับคนที่รู้พระธรรมแล้วจิตยังหยาบ หรือคนที่รู้พระธรรมดีแล้วแต่ไม่ปฏิบัติตาม
มือคว่ำเปรียบเหมือนกับคนที่ไม่มีพระธรรม คือ ดำมืด
มือหงายคือคนที่มีพระธรรมคือสว่าง
ชีวิตของคนเรามีสองด้านคือมืดกับสว่าง จิตของคนมีหลากหลาย แม้แต่จิตที่เป็นกุศลยังมีจิตกุศลมากจิตกุศลน้อยเลย
เหมือนกับมือของคนนับล้านทั่วโลกที่ไม่เหมือนกัน หากมือเหมือนกันก็เปรียบเหมือนกับคนที่มีจิตเหมือนกันมีกุศลเหมือนกันหรือคนที่มาทางเดินเดียวกัน
เพราะฉะนั้นคนที่อยู่ในธรรมะก็ใช่ว่าเขาจะดีเสียทุกคนหรือเขาจะพร้อมเสียทุกคน มีไม่พร้อมก็มาก และมีพร้อมที่จะไปก็มาก
บางคนเหมือนคนที่พร้อมที่จะไปแต่มือยังไม่นิ่ม เหมือนการทาโลชั่นต้องใช้เวลาไหม กว่ามือจะนิ่มเหมือนเดิม?
จิตคนก็เช่นกัน บางคนเร่งวิปัสสนา เร่งกรรมฐาน เร่งสวดมนต์ เร่งทำความเพียรทั้งวันทั้งคืน แต่ยังไม่เห็นผลอะไร
ถึงเราหักโหมนั่งสวดมนต์ทั้งวันทุ่มเททั้งวันทั้งคืนแล้วแต่ยังไม่เห็นผลอะไร
นี่เป็นเพราะจิตเราเหนื่อย กายเราเหนื่อย เราก็เป็นทุกข์ เราควรทำพอดีๆ เหมือนการทาโลชั่น หากเราทาตลอดเวลาทามากเกินไปก็เปลืองโลชั่นเปล่า ๆ เพราะโลชั่นที่เราทาซึมซาบเข้าผิวได้ไม่หมด
เช่นเดียวกันกับจิตของเราเวลาปฏิบัติ ให้ทำเต็มที่แบบพอดีๆ ทางสายกลางที่เราไม่เหนื่อย เราไม่ทุกข์ หากเราเหนื่อยเราก็พัก
เหมือนทาโลชั่นเราควรทาพอดีกับผิวแล้วเราก็หยุดทา หากอยากทาโลชั่นมากกว่านั้นอีกก็ไม่ได้ช่วยให้ผิวดีขึ้นได้ ทางที่ดีเราควรเว้นระยะเวลาในการทาโลชั่น
เช่นเดียวกับเราเราควรปฏิบัติแบบไม่ทุกข์ ทำพอดีๆ แบบทางสายกลาง พ่อไม่ได้สอนให้มุ่งทางธรรมจนลืมทางโลก ไม่ใช่ ถ้าเราทำแต่ทางนี้แล้วทำให้ข้างหลังเดือดร้อน หน้าที่ทางโลกไม่ทำก็ไม่ใช่ ต้องทำให้สมดุลกันทั้งทางโลกและทางธรรม ทั้งทางกายและทางจิต.......
ขอบคุณที่มา :: ปู่มาสอน แบบ ให้คิดคะ