กรรมขาวสร้างจิตขาว กรรมดำสร้างจิตดำ เมื่อจิตแบบใดตั้งมั่นในขณะมีชีวิต หลังตายก็มีชีวิตใหม่สอดคล้องกัน ทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ ความเป็นอยู่ และชะตาดีร้าย
ปัญญาเห็นความไม่เที่ยงของจิต เห็นจิตแปรไปตามกรรม ทำให้จิตใสด้วยความฉลาดแบบพุทธ ส่วนโมหะยึดอยู่ว่าจิตเที่ยงที่จะเป็นตน ทำให้จิตขุ่นด้วยความไม่รู้แบบคนทั่วไป แม้เป็นคนดี มีจิตขาว ก็เป็นขาวขุ่น ไม่ใช่ขาวใส
อย่าช้าเลย พระพุทธเจ้าไม่ได้อุบัติในทุกชาติที่เราเกิด ท่านเป็นผู้เดียวที่สอนวิธีรู้วาระจิตตนเองเพื่อให้เห็นว่าจิตไม่เที่ยง
เมื่อจิตมีราคะก็รู้ว่าจิตมีราคะ เมื่อจิตปราศจากราคะก็รู้ว่าจิตปราศจากราคะ
(คือ เมื่อมีราคะอ่อนๆ ก็ให้มีสติยอมรับความจริงว่ามีราคะอ่อนๆ พอราคะหายไป ก็จะเห็นว่าจิตที่ปราศจากราคะเป็นอย่างไร)
เมื่อจิตมีโทสะก็รู้ว่าจิตมีโทสะ เมื่อจิตปราศจากโทสะก็รู้ว่าจิตปราศจากโทสะ
เมื่อจิตมีโมหะก็รู้ว่าจิตมีโมหะ เมื่อจิตปราศจากโมหะก็รู้ว่าจิตปราศจากโมหะ
จิตหดหู่ก็รู้ว่าจิตหดหู่ เมื่อจิตฟุ้งซ่านก็รู้ว่าจิตฟุ้งซ่าน
เมื่อจิตเป็นสมาธิก็รู้ว่าจิตเป็นสมาธิ เมื่อจิตไม่เป็นสมาธิก็รู้ว่าจิตไม่เป็นสมาธิ
เมื่อจิตหลุดพ้นก็รู้ว่าจิตหลุดพ้น เมื่อจิตไม่หลุดพ้นก็รู้ว่าจิตไม่หลุดพ้น
เห็นความเป็นจิตของตนบ้าง เห็นความเป็นจิตของคนอื่นบ้าง
เห็นทั้งจิตตนและจิตคนอื่น (ว่าต่างกันอย่างไร) บ้าง
เมื่อเห็นอยู่อย่างนี้ย่อมรู้สึกว่าเดี๋ยวจิตก็เกิด เดี๋ยวจิตก็ดับ
กระทั่งเห็นทั้งความเกิดและความดับของจิตเป็นธรรมดา
จึงเลิกยึดมั่นว่าจิตแบบใดแบบหนึ่งเป็นตนเสียได้
ที่ตรงนั้นจิตย่อมโปร่งใส เพราะอุปาทานหายไป
ย่อมเห็นว่าคติที่ไปทั้งสูงและต่ำไม่มี นั่นเอง คือความดับทุกข์จากการเกิดและตายด้วยความไม่รู้เสียได้
![กรรมขาวสร้างจิตขาว กรรมดำสร้างจิตดำ โดย ดังตฤณ](img4/145102.jpg)
Love Attack เทศกาลความรักแบบนี้ บอกอ้อมๆให้เขารู้กัน
Chocolate Dreams สาวชั่งฝันและช็อคโกแลต กับหนุ่มหล่อ ไม่แน่คุณอาจจะได้เจอแบบนี้ก็ได้
Love You Like Crazy เพลงเพราะๆ ที่ถ้าส่งให้คนที่เรารัก โลกนี้ก็สีชมพูกันทีเดียว