ในวงการธุรกิจทั่วไปก็ดี ในวงการสังคมต่าง ๆ ตั้งแต่สังคมย่อย ไปจนถึงสังคมใหญ่ก็ดี
ในวงการอื่นใดนอกจากนี้ก็ดี ย่อมปรารถนาบุคคลประเภทหนึ่งไว้เป็นสมาชิกอย่างมากที่สุด คือบุคคลที่มีความซื่อตรง โดยเฉพาะในตำ แหน่งหน้าที่เกี่ยวด้วยเรื่องเงินทอง ยิ่งต้องการบุคคลประเภทนี้มากที่สุดเพราะบุคคลที่ซื่อตรงนั้นไว้ใจได้ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ไม่ต้องหวาดระแวงง่ายไม่มีภัยอันตราย มีความจริงใจเสมอคือเป็นคนตรงในทุก ๆ เรื่อง ทั้งตรงต่อหน้าที่ ตรงต่อเวลา ตรงต่อบุคคล ตรงต่อคำ พูด และตรงต่อเหตุผลทำ ก็ตรง พูดก็ตรง คิดก็ตรง ฉะนั้น คนซื่อตรงจึงมีผลงานออกมาเป็นแบบสุจริต ขาวสะอาด และมีความยุติธรรมความซื่อตรง เป็นคุณธรรมที่ทำ ให้สังคมอยู่ด้วยความสงบสุข อยู่ด้วยความจริงใจต่อกันไม่มีเล่ห์เหลี่ยมปลิ้นปล้อนต่อกัน ถ้าสังคมขาดความซื่อตรงเสียแล้วจะเป็นสังคมที่วุ่นวายสับสน จะไม่มีใครไว้วางใจใคร จะขาดความร่วมมือกันด้วยใจจริง ต่างคนจะสวมหน้ากากเข้าหากันตลอดเวลา ถ้าสังคมขาดความไว้วางใจเสียแล้ว ความร่วมมือกันจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย เพราะฉะนั้น จึงจำ เป็นต้องพัฒนาคุณธรรมข้อนี้ขึ้นในบุคคลก่อน เพราะมิเช่นนี้แล้ว จะไม่มีวันพัฒนาสังคมให้สงบเย็น ไว้วางใจแก่กันและกันได้เลยเมื่อบุคคลในสังคมได้รับการพัฒนาในด้านความซื่อ ตรงดีแล้ว ก็จะเป็นหลักประกันไว้ว่าจะพัฒนาสังคมได้ดีทางหนึ่ง
ในการพัฒนาบุคคลให้มีบุคลิกภาพด้านนี้นั้น วางหลักไว้ประการหนึ่งคือ“หลักสัจจะ”
ความซื่อตรงเป็นเรื่องของจิตใจอันจะต้องปลูกฝังเสริมสร้างขึ้นจากสัจจะ ซึ่ง หมายถึงความจริงใจ ความจริงจังในภารกิจหน้าที่ ในความดีงามในการประพฤติเป็นสุจริต ถ้าบุคคลมีใจใฝ่ในสัจจะ ยึดถือสัจจะเป็นหลัก ก็จะหลีกเว้นจากการประพฤติทุจริตคิดมิชอบจากความปลิ้นปล้อนคดโกงมีแต่ความ ตรงไปตรงมา และมักถือคติว่า “ซื่อกินไม่หมด คดกินไม่นาน” ส่วนคนขาดสัจจะนั้น มักถือคติว่า “ซื่อจนเซ่อ จะได้อะไร” แล้วก็ทิ้งหลักแห่งสัจจะเสียปฏิบัติการด้วยความมีเล่ห์เหลี่ยม เอารัดเอาเปรียบ ไม่คำ นึงว่าใครจะเดือดร้อนเสียหายอย่างไร ทั้งนี้ เพราะไม่จริงจังในการทำ ความดีงามเสียแล้วก็หันเหไปทางตรงกันข้ามกับความดีงามเท่านั้นเองอนึ่ง ความซื่อตรงนี้เป็นเรื่องของความนึกคิด ซึ่งพัฒนาให้เกิดขึ้นได้จากหลักธรรมข้อหนึ่งคือ กุศลวิตก มี ๓ ประการ คือ
๑. เนกขัมมวิตก ความนึกคิดในทางเสียสละ ความนึกคิดที่ปลอดโปร่งจากโลภะ
จากความเห็นแก่ตัว ไม่สาละวนอยู่แต่กับการปรนเปรอสนองความอยากของตน ไม่หมกมุ่นพัวพันอยู่แต่ในเรื่องเหล่านี้ ความนึกคิดเช่นนี้เป็นเหตุให้บุคคลไม่ยึดติดในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส จนเกินไปตรงข้ามความนึกคิดเอาแต่จะได้ หมกมุ่น พัวพันอยู่แต่เรื่องกามารมณ์และสิ่งปรนเปรอความสุขต่าง ๆย่อมเป็นตัวสื่อนำ ให้บุคคลหันเข้าหาทางผิดโดยประพฤติทุจริตต่าง ๆ ได้
๒. อพยาบาทวิตก ความนึกคิดที่ไม่มีความมุ่งร้ายผู้อื่น ความนึกคิดที่ปราศจากความ
เคียดแค้นชิงชัง หรือเพ่งมองอย่างประสงค์ร้าย ได้แก่ ความนึกคิดที่ปลอดจากโทสะนั่นเอง ความนึกคิดเช่นนี้เป็นเหตุให้บุคคลไม่มองผู้อื่นในแง่ร้ายจนเกินไป ทำ ให้เข้ากับผู้อื่นได้ดี เมื่อถูกกระทบกระทั่งบ้างประสบอารมณ์ร้ายจากผู้อื่นบ้าง ก็ไม่ถือสา ไม่ใส่ใจนำ มาคิดเคียดแค้น ทำให้ดำ รงความประพฤติสุจริตอยู่ได้ หากทนไม่ได้ เมื่อถูกกระทบเช่นนั้นก็ยากที่จะพ้นจากความประพฤติทุจริตไปได้
๓. อวิหิงสาวิตก ความนึกคิด ที่ไม่เบียดเบียนคนอื่น ไม่คอยแต่จะทำ ลายหรือเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ไม่นึกแต่จะทำ ความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น ความนึกคิดเช่นนั้นเป็นเหตุให้บุคคลมีกรุณาความสงสารเห็นอกเห็นใจเขา นึกถึงอกเขาอกเราอยู่เสมอ เป็นเหตุให้กระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือเขาเมื่อเขาประสบความเดือดร้อนความ นึกคิด ๓ ประการนี้แหละ หากได้ปลูกฝังเพาะให้เจริญในจิตใจบุคคลใดแล้วก็เป็นเหตุให้ผู้นั้นมีความ ซื่อตรงตลอดกาลได้
รวมความแล้ว สัจจะก็ดี กุศลวิตก ๓ ประการนี้ก็ดี เป็นหลักธรรมที่พัฒนาบุคคลในด้านความซื่อตรง ความซื่อสัตย์ ความสุจริต ความยุติธรรมได้ทั้งสิ้น ถือว่าเป็นหลักธรรมเพื่อพัฒนาจิตใจ ความนึกคิดของบุคคลขั้นพื้นฐานอันจะก่อให้เกิดความร่วมมือกันปฏิบัติภารกิจ ของกันและกัน หรือของส่วนรวมให้เป็นไปอย่างเรียบร้อยดีงาม และบริสุทธิ์สะอาด ส่วนบุคคลที่ขาดความจริงใจต่อกัน มีความนึกคิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว เห็นแก่ตัวจัด นึกคิดแต่จะมุ่งร้ายเบียดเบียน เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นอยู่เสมอนั้น จะหาความซื่อตรงได้แต่ที่ไหน เมื่อหาความซื่อตรงไม่ได้ ก็จะหาความซื่อสัตย์ ความสุจริตยุติธรรมไม่ได้เลย
จงหยุดสวมหน้ากากเข้าหากัน

Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday