ขอขอบคุณภาพและเนื้อหาจากเพจ Trader Hunter พบธรรม
จิตมิใช่จิต แต่ก็มิใช่มิใช่จิตหลวงพ่อปราโมทย์ : หลวงปู่ดูลย์เคยสอนอยู่ประโยคหนึ่งนะ "จิตมิใช่จิต แต่ก็มิใช่มิใช่จิต" ฟังแล้วโอ๊ยสำนวนโวหารสวิงสวาย เป็นอย่างนั้นจริงๆ จิตไม่ใช่จิตหรอก แต่ว่าเป็นสภาวะอย่างใดอย่างหนึ่ง เกิดแล้วก็ดับไป แต่ก็ไม่ใช่มิใช่จิต เพราะอะไร เพราะว่าสภาวะอันนั้นมีหน้าที่รู้อารมณ์ สภาวะที่ทำหน้าที่รู้อารมณ์เรียกว่าจิต
จิตมิใช่จิต แต่ก็มิใช่มิใช่จิต ฟังแล้วก็เอ้อ... หลวงปู่พูดอะไรก็ไม่รู้นะ ต้องภาวนากันนานเลย โดยเฉพาะเมื่อเข้าถึงจิตหนึ่งนะ เข้าถึงจิตหนึ่งนะ ถึงจะแจ้งเต็มภูมิ จิตมิใช่จิต มันไม่ใช่จิตอย่างที่เราเคยเห็นน่ะ ไม่ใช่จิตเป็นดวงๆแบบมีขอบมีเขตมีจุดมีดวงมีที่ตั้ง จิตนั้นเต็มโลกธาตุ เต็มจักรวาล เมื่อเต็มโลกธาตุเต็มจักรวาลจิตก็ไม่มีการไปไม่มีการมา มันไม่ต้องเคลื่อนไปมา
จิตของเราเคลื่อนไปมา รู้สึกมั้ย เดี๋ยวเคลื่อนไปทางตา เคลื่อนไปทางหู เคลื่อนไปทางใจ วิ่งไปวิ่งมา ทำไมมันวิ่งได้ เพราะมันเล็กนิดเดียว ใครมีจิตน้อยๆบ้าง เรียกว่า "ใจน้อย" เล็กนิดเดียว เรียกว่าใจแคบนั้นแหละ ยิ่งเล็กมากก็ยิ่งแคบมากนะ ถ้าใจกว้างก็จะใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ ถ้าถึงขีดสุดนะ ไม่มีขอบไม่มีเขต เต็ม เหมือนตัวใหญ่เท่าศาลานี้ กระดุกกระดิกไม่ได้แล้ว เต็มแล้ว ไม่มีการไปการมาแล้ว ตัวใหญ่เต็มโลกเต็มจักรวาล เคลื่อนที่ไม่ได้นะ ไม่มีการเคลื่อนไหว
หลวงปู่ก็สอนอีกนะ บอกว่า ภายนอกมันว่างเปล่า คือไม่มีรูปลักษณ์ ภายในนั้นเหมือนท่อนไม้และก้อนหิน คือ ไม่มีการเคลื่อนไหว ท่านสอนลักษณะของจิตหนึ่ง จิตหนึ่งคือจิตของพระอรหันต์น่ะ
หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช
วัดสวนสันติธรรม