พระอาจารย์ : คุณโยมศีลข้อ 3 ในแง่ของตัวบุคคลว่าเราไปยุ่งกับใครแล้วผิดไม่ผิด ขึ้นกับบุคคลคนนั้นเป็นคนมีเจ้าของหรือเปล่า มีผู้คุ้มครองอยู่หรือเปล่า เช่นในกรณีที่เราป็นชายและอีกวฝ่ายหนึ่งเป็นหญิง ถ้าเกิดว่าหญิงนั้นเค้ามีเจ้าของแล้ว มีคู่ครองอยู่แล้ว แล้วเราไปยุ่งเข้านี้ผิดแน่ๆ เราเองจะมีภรรยาแล้วหรือไม่ก็ตาม หรือว่าหญิงนั้นเค้ามีพ่อมีแม่มีผู้ปกครอง ญาติพี่น้องคอยดูแลอยู่ เราไปล่วงละเมิดเข้าแล้ว คนที่คุ้มครองดูแลเค้าอยู่ก็ย่อมจะเสียใจ ถูกทำร้ายจิตใจ ถ้าอย่างนี้ผิดศีลข้อ 3
แต่ถ้าอย่างกรณีที่ว่าในสมัยโบราณ มีธรรมเนียมว่าคนที่เป็นใหญ่เป็นโต อย่างเช่นพระราชาเป็นต้น แล้วมีเสนาอำมาตย์เอาลูกสาวไปถวาย เป็นพระสนม พระชายาบ้าง ถ้ากรณีอย่างนี้ยังไม่เข้าข่ายผิดศีลข้อ 3 เพราะเต็มไปด้วยความเต็มใจ เพราะเจ้าตัวไม่ขัดข้อง เจ้าตัวเต็มใจ แล้วผู้ปกครอง ญาติที่คุ้มครองรักษา เต็มใจด้วย อย่างนี้พอผ่านเรื่องศีลข้อ 3 ไปได้
แต่่ว่า ถ้าเป็นคู่ครอง 1 ต่อ 1 ดีที่สุด ลองคิดดูซิว่า ถ้าอีกฝ่าย เค้าขอไปมีสองคน สามคนบ้าง เรารู้สึกอย่างไร
เราจะรู้สึกว่าถูกทำร้ายจิตใจมั้ย รู้สึกคุณค่าตัวเองตกต่ำไปหรือเปล่า ก็ย่อมมี
เค้ารู้สึกอย่างไร เรารู้สึก เพราะฉะนั้น เรารู้สึกอย่างไร เค้าก็รู้สึกอย่างนั้น
เราจึงต้องให้เกียรติกัน ถ้าเกิดรักจะมีครอบครัวแล้วล่ะก็ อยู่กันเป็นคู่สามีภรรยา 1 ต่อ 1 ความรักใคร่จริงใจต่อกันดีที่สุด ครอบครัวก็สงบร่มเย็น เราก็มีเวลาให้กับครอบครัวได้เต็มที่ ลูกเต้าก็ไม่ขาดความอบอุ่น จะบอกว่าเป็นคนที่รับผิดชอบเท่าไหร่ ถ้ามีสองบ้านสามบ้านสี่บ้าน ยังไงเวลาเราก็มี 24 ชั่วโมง ต้องแบ่งไป เพราะฉะนั้น เวลาที่จะให้แต่ละครอบครัวไม่เต็มที่แน่นอน เพราะฉะนั้น หนึ่งต่อหนึ่ง รักใคร่จริงใจต่อกันดีที่สุด เจริญพร