
จาก คน (เคย) คิดฆ่าตัวตาย (คลิป)
เชิญรับชมคลิปวิดีโอ
vvvv
vvv
vv
v

บทความดี ๆ ของคนขับแท็กซี่หญิงคนหนึ่ง ที่กำลังไปส่งชายคนหนึ่งไปสู่ความตาย แต่แล้วเธอก็เป็นผู้ที่ช่วยเขาให้พ้นจากการ คิดฆ่าตัวตาย
หลังเกษียณอายุจากงานแม่บ้านในบริษัทแห่งหนึ่ง เอื้อยก็ตัดสินใจประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ โดยเลือกขับแต่เฉพาะตอนกลางวัน
ลูกสาวสองคนซึ่งเรียนจบและเริ่มทํางานแล้วบอกกับแม่ว่า "แม่อยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้นะ เดี๋ยวเราสองคน เลี้ยงแม่เอง" แต่เอื้อยไม่ยอม เธอไม่อยากเบียดเบียนลูก และรู้สึกว่าเธอ ยังมีแรงพอที่จะประกอบอาชีพ และสาเหตุที่เลือกขับรถแท็กซี่ เพราะเธอเป็นคนชอบขับรถอยู่แล้ว อีกทั้งยังชอบบริการคนอื่นด้วย เอื้อยจึงนําเงินก้อนที่ได้จากการเกษียณอายุไปดาวน์รถแท็กซี่และเลือกวิธีผ่อนที่สบายที่สุด
"เอื้อยชอบเจอคนเยอะ ต่าง ๆ กันไป" เธอบอก ลูกค้าเจ้าประจํา "ทําให้ได้เรียนรู้ชีวิตไปด้วย"
"แหม เอื้อยนี่เป็นคนขับแท็กซี่ตัวอย่างได้เลยนะ"
เอื้อยหัวเราะ
วันหนึ่งเอื้อยรับผู้ชายวัยหนุ่มใหญ่คนหนึ่งมาจากซอยเล็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาบอกเป้าหมายว่า
" สะพานพระราม 8 "
"ซอยอะไรคะ" เอื้อยถาม "ตรงอรุณอมรินทร์หรือเปล่า" ชายคนนั้นไม่ตอบ ทําราวกับไม่ได้ยินคําถามของเอื้อย เอื้อยก็เลยขับรถไปเรื่อย ๆ โดยมีเป้าหมายมุ่งตรงไปยังสะพานพระราม 8 ตามความประสงค์ของลูกค้า ระหว่างทางนั้นเอง เอื้อยก็ได้ยินชายผู้นั่งเบาะหลังถอนหายใจเฮือกใหญ่สองสามครั้ง เอื้อยมองที่กระจกส่องหลังก็เห็นใบหน้าที่เศร้าหมอง ดูอับจนหนทาง
แล้วจู่ ๆ เขาก็ถามเอื้อยขึ้นว่า "คุณเคยคิดฆ่าตัวตายไหมครับ"
เอื้อยสะดุ้งโหยง ในหัวคิดหาคําตอบอย่างรวดเร็วและตอบเขาไปว่า "เคยสิคะ ตอนฉันอายุ 37 ปี จู่ ๆ สามีก็มาบอกว่ามีเมียใหม่แล้ว ให้ฉันออกจากบ้านไป เป็นคุณ คุณก็คงจะคิดเหมือนฉัน คือคิดฆ่าตัวตาย"
พูดแล้วแอบมองชายผู้มีทุกข์ เขาดูสนใจคําพูดของเอื้อยมาก เธอจึงพูดต่อ
แต่พอฉันมองหน้าลูกสาวสองคน ฉันก็บอกตัวเองว่าตายไม่ได้หรอก เพราะลูกสองคนนี่ ถ้าอยู่กับพ่อก็อาจจะถูกแม่เลี้ยงรังแก ฉันตัดสินใจคืนนั้นเลยว่าฉันต้องเอาลูกไปด้วย และไปตั้งต้นชีวิตใหม่ข้างหน้า ฉันพาลูกสองคนออกจากบ้านกลางดึกไปตั้งตัวที่บ้านเพื่อน และตัดสินใจว่าฉันจะต้องเลี้ยงลูกให้ได้ เพื่อนพาฉันไปสมัครงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทแห่งหนึ่ง ฉันเรียนจบแค่ป.6 นะคุณ แต่ฉันก็สามารถส่งลูกสาวสองคนเรียนจนจบปริญญาตรีได้ ตอนนี้เขามีงานทํา แล้วฉันก็ออกจากบริษัทนั้น และประกอบอาชีพขับแท็กซี่โดยไม่พึ่งพ่อของลูกอีกเลย"
ผู้ฟังถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่แล้วว่า "แล้วตอนนี้สามีคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ"
"ไม่รู้" เอื้อยตอบชัดเจน หนักแน่น "ฉันไม่สนใจเลย คนไม่รักลูก ไม่รักเมีย ฉันไม่อยากติดต่อด้วยหรอก ลูก ๆก็ไม่เห็นว่าอะไร"
ชายผู้นั้นฟังคําตอบแล้วก็นิ่งไปอีกพักใหญ่ รถแล่นเข้าใกล้เป้าหมายไปเรื่อย ๆ
"คุณจบป.6จริง ๆ หรือ"
เอื้อยหัวเราะ "จริงสิคุณ ฉันจะไปโกหกคุณทําไม"
"ผมอายคุณจัง"เขาเอ่ยขึ้น เอื้อยขํา "อายฉันเรื่องอะไร"
ชายผู้นั้นตอบเบา ๆ ว่า "คุณรู้ไหม ความจริงผมคิดฆ่าตัวตาย ผมจะให้คุณไปส่งผมที่สะพานพระราม 8 แล้วผมจะกระโดดน้ําฆ่าตัวตาย เพราะผมหมดตัวกิจการเจ๊ง และแฟนผมเขาก็ขอเลิกกับผม ผมอยากจะตายไปเสียให้พ้น ๆ แต่พอคุณเล่าเรื่องของคุณ ผมอาย เพราะคุณเป็นผู้หญิง คุณยังสู้ แล้วผมล่ะ เป็นผู้ชายแท้ ๆ เรียนก็จบมหาวิทยาลัยแต่กลับต้องอายคุณเสียแล้ว"
เอื้อยใจหายวาบ จากนั้นก็ตามด้วยความรู้สึกยินดีที่ตน เป็นประโยชน์แก่การตัดสินใจของผู้ชายคนหนึ่ง
"คุณจะให้ฉันไปส่งที่ไหนล่ะ"
0
ชายผู้นั้นตอบเบา ๆ ว่า "ช่วยไปส่งผมที่หมอชิตนะครับ ผมจะกลับบ้านไปหาแม่"
เอื้อยกลับรถและขับตรงไปสู่สถานีขนส่งหมอชิตอย่างปลื้มเปรม
ชีวิตเป็นเช่นนี้เอง พลิกได้แค่เสี้ยววินาที
ที่มา : นิตยสาร Secret ปี 2559 ฉบับที่ 188 (26 เม.ย. 59) หน้า 64-65
คอลัมน์ : dhamma is everywhere
ผู้เขียน/แต่ง : ไพลิน รุ้งรัตน์
หลังเกษียณอายุจากงานแม่บ้านในบริษัทแห่งหนึ่ง เอื้อยก็ตัดสินใจประกอบอาชีพขับรถแท็กซี่ โดยเลือกขับแต่เฉพาะตอนกลางวัน
ลูกสาวสองคนซึ่งเรียนจบและเริ่มทํางานแล้วบอกกับแม่ว่า "แม่อยู่บ้านเฉย ๆ ก็ได้นะ เดี๋ยวเราสองคน เลี้ยงแม่เอง" แต่เอื้อยไม่ยอม เธอไม่อยากเบียดเบียนลูก และรู้สึกว่าเธอ ยังมีแรงพอที่จะประกอบอาชีพ และสาเหตุที่เลือกขับรถแท็กซี่ เพราะเธอเป็นคนชอบขับรถอยู่แล้ว อีกทั้งยังชอบบริการคนอื่นด้วย เอื้อยจึงนําเงินก้อนที่ได้จากการเกษียณอายุไปดาวน์รถแท็กซี่และเลือกวิธีผ่อนที่สบายที่สุด
"เอื้อยชอบเจอคนเยอะ ต่าง ๆ กันไป" เธอบอก ลูกค้าเจ้าประจํา "ทําให้ได้เรียนรู้ชีวิตไปด้วย"
"แหม เอื้อยนี่เป็นคนขับแท็กซี่ตัวอย่างได้เลยนะ"
เอื้อยหัวเราะ
วันหนึ่งเอื้อยรับผู้ชายวัยหนุ่มใหญ่คนหนึ่งมาจากซอยเล็ก ๆ ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง เขาบอกเป้าหมายว่า
" สะพานพระราม 8 "
"ซอยอะไรคะ" เอื้อยถาม "ตรงอรุณอมรินทร์หรือเปล่า" ชายคนนั้นไม่ตอบ ทําราวกับไม่ได้ยินคําถามของเอื้อย เอื้อยก็เลยขับรถไปเรื่อย ๆ โดยมีเป้าหมายมุ่งตรงไปยังสะพานพระราม 8 ตามความประสงค์ของลูกค้า ระหว่างทางนั้นเอง เอื้อยก็ได้ยินชายผู้นั่งเบาะหลังถอนหายใจเฮือกใหญ่สองสามครั้ง เอื้อยมองที่กระจกส่องหลังก็เห็นใบหน้าที่เศร้าหมอง ดูอับจนหนทาง
แล้วจู่ ๆ เขาก็ถามเอื้อยขึ้นว่า "คุณเคยคิดฆ่าตัวตายไหมครับ"
เอื้อยสะดุ้งโหยง ในหัวคิดหาคําตอบอย่างรวดเร็วและตอบเขาไปว่า "เคยสิคะ ตอนฉันอายุ 37 ปี จู่ ๆ สามีก็มาบอกว่ามีเมียใหม่แล้ว ให้ฉันออกจากบ้านไป เป็นคุณ คุณก็คงจะคิดเหมือนฉัน คือคิดฆ่าตัวตาย"
พูดแล้วแอบมองชายผู้มีทุกข์ เขาดูสนใจคําพูดของเอื้อยมาก เธอจึงพูดต่อ
แต่พอฉันมองหน้าลูกสาวสองคน ฉันก็บอกตัวเองว่าตายไม่ได้หรอก เพราะลูกสองคนนี่ ถ้าอยู่กับพ่อก็อาจจะถูกแม่เลี้ยงรังแก ฉันตัดสินใจคืนนั้นเลยว่าฉันต้องเอาลูกไปด้วย และไปตั้งต้นชีวิตใหม่ข้างหน้า ฉันพาลูกสองคนออกจากบ้านกลางดึกไปตั้งตัวที่บ้านเพื่อน และตัดสินใจว่าฉันจะต้องเลี้ยงลูกให้ได้ เพื่อนพาฉันไปสมัครงานเป็นแม่บ้านที่บริษัทแห่งหนึ่ง ฉันเรียนจบแค่ป.6 นะคุณ แต่ฉันก็สามารถส่งลูกสาวสองคนเรียนจนจบปริญญาตรีได้ ตอนนี้เขามีงานทํา แล้วฉันก็ออกจากบริษัทนั้น และประกอบอาชีพขับแท็กซี่โดยไม่พึ่งพ่อของลูกอีกเลย"
ผู้ฟังถอนหายใจออกมาอีกเฮือกใหญ่แล้วว่า "แล้วตอนนี้สามีคุณเป็นยังไงบ้างล่ะ"
"ไม่รู้" เอื้อยตอบชัดเจน หนักแน่น "ฉันไม่สนใจเลย คนไม่รักลูก ไม่รักเมีย ฉันไม่อยากติดต่อด้วยหรอก ลูก ๆก็ไม่เห็นว่าอะไร"
ชายผู้นั้นฟังคําตอบแล้วก็นิ่งไปอีกพักใหญ่ รถแล่นเข้าใกล้เป้าหมายไปเรื่อย ๆ
"คุณจบป.6จริง ๆ หรือ"
เอื้อยหัวเราะ "จริงสิคุณ ฉันจะไปโกหกคุณทําไม"
"ผมอายคุณจัง"เขาเอ่ยขึ้น เอื้อยขํา "อายฉันเรื่องอะไร"
ชายผู้นั้นตอบเบา ๆ ว่า "คุณรู้ไหม ความจริงผมคิดฆ่าตัวตาย ผมจะให้คุณไปส่งผมที่สะพานพระราม 8 แล้วผมจะกระโดดน้ําฆ่าตัวตาย เพราะผมหมดตัวกิจการเจ๊ง และแฟนผมเขาก็ขอเลิกกับผม ผมอยากจะตายไปเสียให้พ้น ๆ แต่พอคุณเล่าเรื่องของคุณ ผมอาย เพราะคุณเป็นผู้หญิง คุณยังสู้ แล้วผมล่ะ เป็นผู้ชายแท้ ๆ เรียนก็จบมหาวิทยาลัยแต่กลับต้องอายคุณเสียแล้ว"
เอื้อยใจหายวาบ จากนั้นก็ตามด้วยความรู้สึกยินดีที่ตน เป็นประโยชน์แก่การตัดสินใจของผู้ชายคนหนึ่ง
"คุณจะให้ฉันไปส่งที่ไหนล่ะ"
0
ชายผู้นั้นตอบเบา ๆ ว่า "ช่วยไปส่งผมที่หมอชิตนะครับ ผมจะกลับบ้านไปหาแม่"
เอื้อยกลับรถและขับตรงไปสู่สถานีขนส่งหมอชิตอย่างปลื้มเปรม
ชีวิตเป็นเช่นนี้เอง พลิกได้แค่เสี้ยววินาที
ที่มา : นิตยสาร Secret ปี 2559 ฉบับที่ 188 (26 เม.ย. 59) หน้า 64-65
คอลัมน์ : dhamma is everywhere
ผู้เขียน/แต่ง : ไพลิน รุ้งรัตน์
เครดิต :   
 
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!

 กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
  กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























 กระทู้ล่าสุด
 กระทู้ล่าสุด


 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday