ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้น แล้วดับลง


ทุกสิ่งอย่างเกิดขึ้น แล้วดับลง

เพราะ 'ใจ' ไม่มีตัวตนที่แน่นอนย้ายที่อยู่ตลอดเวลา เวลาไปไหนก็จะยึดจะเกาะ จนเป็นเนื้อเดียวกัน ทั้งๆที่ในโลกนี้...แท้จริงแล้ว 'ไม่มี' อะไร แต่ 'ใจ' ก็ไปยึดไปเกาะ จน 'มี' ขึ้นมา ทั้งๆที่ ความมี ก็ไม่มี ความไม่มี ก็ไม่มี

พระพุทธองค์ตรัสว่า "โดยมากโลกนี้อาศัยที่สุด ๒ อย่าง คือ
(๑) ความมี
(๒) ความไม่มี

ก็เมื่อบุคคลเห็นความเกิดขึ้นของโลก ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง ความไม่มีในโลก ก็ไม่มี เมื่อบุคคลเห็นความดับแห่งโลก ด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง  ความมีในโลก ก็ไม่มี โดยมากโลกนี้ยังพัวพันอยู่ด้วยอุบาย และความยึดมั่น อันเป็นเหตุที่ 'ใจ' เข้าไปตั้งมั่นถือมั่นและนอนเนื่อง แต่อริยสาวกไม่เข้าไปถือมั่นอุบายและความยึดมั่น อันเป็นเหตุที่ 'ใจ' เข้าไปตั้งมั่นถือมั่นและนอนเนื่อง ว่า ‘อัตตาของเรา' ไม่เคลือบแคลง ไม่สงสัยว่า ‘ทุกข์นั้นแล เมื่อเกิดขึ้น ย่อมเกิดขึ้น ทุกข์เมื่อดับ ย่อมดับไป' อริยสาวกนั้น มีญาณหยั่งรู้ในเรื่องนี้โดยไม่ต้องเชื่อผู้อื่นเลย" พระไตรปิฎก ฉบับมหาจุฬาฯ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖ ข้อ ๑๕ หน้า ๒๔

ลองฝึกที่จะรู้จัก 'ใจ' ด้วยตนเอง แค่รู้ว่า 'คิด' แล้ว 'ทิ้งคิด' นั้น ให้ 'ใจ' มารับรู้ รูป หรือกาย หรือ ลมหายใจ ว่าเรากำลังหายใจ ถึงกลับมารู้ลมหายใจได้ ถึงยังไงมันยังไม่หยุดหรอก มันยังไปได้อีก แต่มันก็ทำให้เรารู้ว่า 'จบ' จากที่นี่ แล้วมันไปไหนต่อ และมันทำให้เรา...ชัดขึ้นว่า ที่แท้ ทุกสิ่งทุกอย่าง มัน ‘เกิดและดับลง' ตลอดเวลา จบตรงนี้...แล้วไปรับรู้เรื่องใหม่ เป็นอย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน เฝ้าดูมันต่อไป อยู่กับมัน เห็นมันอยู่อย่างนี้ เมื่อฝึกฝนจนชำนาญ เราจะรู้ 'ความจริง' นี้ด้วยตัวเรา ไม่ต้องเชื่อใครเพราะสุดท้าย...ความเป็นตัวตนของเราก็ต้อง 'ทิ้ง' เพราะมัน...ไม่มีจริง เพราะ ‘ใจ' ที่เป็นตัวการของ ‘ความยึด' ก็ไม่มีจริง



เครดิตแหล่งข้อมูล : FB FM91 Trafficpro


เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์