หากคิดว่าชีวิตไร้ค่านั่นแสดงว่า เราไม่ตระหนักถึงการมีชีวิต
หากเวลานี้คิดว่า "ชีวิตไร้ค่า" นั่นแสดงว่า เราไม่ตระหนักถึงค่าของการมีชีวิตอยู่
ชีวิตมีค่าในเสมอ...ตราบใดที่ชีวิตเรายังหายใจอยู่
บทบาทหน้าที่เราต่างกัน แต่ไม่ใช่ว่า เราไม่ได้ทำคุณประโยชน์หรือไม่ทำอะไรให้ชีวิตดีขึ้น เราจะกลายเป็น "เป็นคนไร้ค่า"
ทรัพย์สิน เงินทอง ชื่อเสียง มีมากน้อย มีมาก็ไป
ไม่ได้เป็นหลักยึดที่บ่งบอกว่า "ใครมีค่ามากกว่าใคร"
เพราะคุณค่าของการมีชีวิต
จะต้องอาศัยเวลา เพื่อพิสูจน์ในตัวมันเอง
ในทุกคำตอบก็จะแฝงความหมายอยู่ในเวลาเช่นกัน
ชีวิตทุกคนต่างเป็นนักท่องเวลา ออกการเดินทางไกล เพื่อเรียนรู้ ผ่านมาหลายภพหลายชาติ หากเราสอบผ่านวิชาชีวิต ก็จะถึงเส้นชัยสู่นิพพาน
"พระพุทธเจ้าตรัสว่า...คนเราจะได้เกิดเป็นมนุษย์ก็แสนยาก
เกิดเป็นมนุษย์จะได้พบพระพุทธศาสนาก็แสนยาก
ได้พบพระพุทธศาสนาจะได้ฟังธรรมก็แสนยาก
ฟังธรรมแล้วจะเลื่อมใสก็แสนยาก
เลื่อมใสแล้วจะเข้ามาปฏิบัติธรรมก็แสนยาก"
เมื่อมีโอกาสได้เกิดมา อย่าสอบตกวิชาชีวิต ทั้ง 4 ข้อ คือ "รัก โลภ โกรธ หลง"
อย่ามัวแต่เร่งหาเงินทองที่ได้มาอย่างทุจริต จนละเลยรากฐานความเป็น "คน"
อย่ามัวเร่งสะสมตำแหน่งชื่อเสียง บารมี จนทำให้ผู้คนเดือดร้อนไปถ้วนทั่ว เพราะตายไปก็นำติดตัวไปไม่ได้
อย่ามัวยึดถือกับอัตตาตัวตนที่มากเกิน หากวันหนึ่งกลายเป็นคนที่ละหรือสละวางไม่ได้ คนผู้นั้นเองที่จะทุกข์ถึงที่สุด จากการยึดมั่นถือมั่นในอัตตาของตนเอง