ทุกข์เกิดจากใจ ก็เอาใจนั้นแหละมาล้างทุกข์
หากนำน้ำล้างคราบโคลน
คราบดินที่เปื้อนให้ออก
"ทุกข์เกิดจากใจ ก็เอาใจนั้นแหละมาล้างทุกข์"
เรามองว่าโคลนที่แสนสกปรก
เมื่อมันเปื้อนร่างกาย เสื้อผ้า สิ่งของ มันส่งกลิ่นเหม็นเน่า และดูไม่น่ามอง ต้องล้างออก ต้องรีบทำความสะอาด แม้คราบโคลนบางอย่างจะล้างไม่ออก แต่เราก็ต้องรีบล้างให้ออก นำไปซักทำความสะอาด
คราบโคลนนั้นก็ไม่ต่างจาก "ความทุกข์"
หากเราใช้ปัญญาพิจารณาให้ดี จะพบว่า โคลนมันก็คือ ดินละลายอยู่ในน้ำ
หากนำน้ำมาล้างคราบโคลนนั้น โคลนนั้นก็จะออกมาจากสิ่งที่มันเกาะโดยทันที
หากเราออกแรงสักนิด คราบโคลนที่ฝังแน่นก็อาจจะล้างออกได้ง่าย ยิ่งตอนนี้เรามีน้ำยาขจัดคราบมากมายเป็นตัวช่วย ยิ่งผ่อนแรง
แล้วทุกข์ที่แสนจะทรมานอยู่นี่
เมื่อมาเกาะกุมใจแล้ว ก็ดูเหมือนจะสลัดออกนำออกไปยากเหลือเกิน
แต่หากใช้ปัญญาพิจารณาให้ดี จะพบว่า "ทุกข์นั้นมันมีสาเหตุแห่งความทุกข์อยู่"
ซึ่งสาเหตุแห่งความทุกข์นั้นก็คือ "ใจที่วุ่นวาย นั่นเอง"
หากเราต้องการนำความทุกข์ออกจากใจ ก็ต้องทำใจที่วุ่นวายนั้น ให้สงบลงเสียก่อน
จิตใจจะสงบได้ก็ต้องทำให้มีสติก่อน หากมีสติก็จะมีปัญญา หาหนทางแก้ปัญหาและดับทุกข์ได้ ตัวช่วยที่ผ่อนแรงได้ดีคือ "นั่งสมาธิ ขจัดความฟุ้งซ่าน"
...
โคลนไม่ได้เกิดจากน้ำ
แต่โคลนเกิดจากดินและน้ำ
ทุกข์ก็ไม่ได้เกิดจากใจ
ทุกข์เกิดจากความไม่เที่ยง
เพราะมันไม่เที่ยงมันก็เลยทุกข์
...
ท่านมี ทุกข์จึงมี
โคลนมี เพราะว่าท่านมี
ถ้าท่านไม่มี ทั้งโคลนและทุกข์ก็จะไม่มี
เพราะว่าท่านสร้าง ท่านจึงถูกสร้าง
#นามบุญ
#เห็นทุกข์เห็นธรรม