ทำไมทุกคนจึงต้องตายเมื่อชรา
นักชีววิทยาบางคนคิดว่า การที่สิ่งมีชีวิตต้องตาย
เพราะธรรมชาติไม่ประสงค์ให้ใครมีชีวิตที่ยืนนานนิรันดรคือ ธรรมชาติมีความต้องการเพียงให้มนุษย์มีชีวิตยืนนานพอที่จะสืบพันธุ์เพื่อสร้างมนุษย์ต่อไปได้เท่านั้นเอง และหลังจากที่มนุษย์มีทายาทแล้ว ธรรมชาติก็จะปล่อยให้ร่างกายมนุษย์ดูแลตัวเองตามยถากรรม
เมื่อนาง Jeane Louise Calment ชาวฝรั่งเศสเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ. 2541
หนังสือ Guinness ได้ระบุว่า เธอเป็นสตรีคนแรกที่มีอายุยืนนานถึง 122 ปี แต่นักวิทยาศาสตร์ทุกคนเชื่อว่า สถิติอายุยืนนี้จะถูกทำลายในอนาคตเพราะสถิติอายุยืนของคนทั่วโลกกำลังเพิ่มตลอดเวลาเช่น เมื่อ 100 ปีก่อน อายุเฉลี่ยของผู้ชายอังกฤษเป็นเพียง 49 ปี แต่ขณะนี้ตัวเลขอายุยืนได้ 74 ปีแล้ว สำหรับอายุของสตรีก็ได้เพิ่มจาก 52 ปี เป็น 79 ปี เช่นกัน
ข้อสังเกตหนึ่งที่เราเห็นได้ชัด
เวลามนุษย์ใกล้จะ "ไป" คือความชรา โดยมีอาการเริ่มต้นที่ผิวหนังชั้น epidermis ที่อยู่นอกสุดของร่างกายคือ เซลล์ผิวหนังจำนวนมากในชั้นนี้จะตาย เมื่อร่างกายสร้างเซลล์ผิวหนังใหม่ไม่ทัน ผิวหนังก็จะเหี่ยวและมีรอยย่นเต็มไปหมด ยิ่งไปกว่านั้น เซลล์ผิวหนังใหม่ที่ร่างกายสร้างขึ้นก็ไม่ยืดหยุ่นมากเท่าเซลล์เดิม
ในขณะเดียวกัน
ต่อมเหงื่อที่อยู่ใต้ผิวหนังก็จะเริ่มทำงานอย่างไม่สม่ำเสมอ ซึ่งมีผลทำให้ผิวหนังแห้งและซีด เพราะขณะนี้เส้นเลือดฝอยที่นำเลือดมาหล่อเลี้ยงผิวหนังได้ลดประสิทธิภาพการทำงาน และเมื่อไขมันที่อยู่ใต้ผิวหนังลดปริมาณผิวหนังก็จะมีไฝ ฝ้า ปรากฏ และนี่คือสัญลักษณ์แสดงความมีอายุ
ส่วนกระดูกในร่างกายก็เช่นกัน
สำหรับคนในวัยหนุ่ม-สาว ร่างกายมีเซลล์ esteoblast ที่ทำหน้าที่สร้างกระดูกและเซลล์ osteoclast ที่ทำหน้าที่ทำลายกระดูก ซึ่งเซลล์ทั้งสองชนิดนี้ทำงานได้ดีพอๆ กัน แต่เวลาร่างกายมีอายุมากขึ้น กระบวนการทำลายกระดูกจะทำงานได้ดีกว่ากระบวนการสร้างกระดูก ดังนั้น เมื่อร่างกายไร้สมดุลร่างกายของสตรีบางคนอาจจะสูญเสียกระดูกมากถึง 30% ส่วนกรณีผู้ชายตัวเลขการสูญเสียอาจจะถึง 15%
ยิ่งไปกว่านั้น เวลาคนเรามีอายุมากขึ้น
กระดูกก็มีแนวโน้มจะหักง่ายขึ้น เพราะกระดูกขาดแร่ธาตุที่จำเป็นบางชนิด ซึ่งมีผลทำให้กระดูกเปราะมากขึ้น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออาจทำให้ความหนาแน่นของกระดูกคนไม่เปลี่ยแปลง และกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น แต่ถึงแม้คนเราจะออกกำลังกายมากเพียงใดก็ตาม
เราก็ต้องยอมรับว่า
ความแข็งแรงของร่างกายคนนั้นลดตามอายุ เพราะเวลามีอายุกล้ามเนื้อในร่างกายได้รับเลือดมาหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ และ mitochondria ที่ทำหน้าที่ผลิตพลังงานในเซลล์กล้ามเนื้อก็ลดประสิทธิภาพในการทำงานลง ซึ่งมีผลทำให้ความสามารถในการเคลื่อนไหวของข้อต่างๆ ในร่างกายลดลงด้วยและถ้าคนๆ นั้นเป็นโรคไขข้ออักเสบสมรรถภาพในการเคลื่อนไหวก็ยิ่งลดลงไปอีกมาก
ความสามารถของหัวใจในการสูบฉีดโลหิตไปเลี้ยงร่างกาย
ก็ลดลงด้วยเมื่อร่างกายชรา ทั้งนี้เพราะผนังหัวใจด้านล่างมีความหนาเพิ่มขึ้น และเมื่อผนังหลอดเลือดหนาขึ้นเพราะมีไขมันและ collagen มาพอกพูนมาก ปริมาณเลือดที่ถูกส่งไปเลี้ยงร่างกายก็จะลด และถ้าไขมันมีมากหลอดเลือดก็จะถูกอุดตัน
สติปัญญาก็เช่นกัน
คนปกติมี IQ สูงสุดเมื่ออยู่ในวัย 18-25 ปี แล้วหลังจากนั้น ความเฉลียวฉลาดก็เริ่มลดและความสามารถในการจำก็เริ่มลดด้วย จนในที่สุดเขาจะจำอะไรๆ ไม่ได้เลย นักชีววิทยาได้พบว่า เวลาคนเรามีอายุมากขึ้น สมองคนจะลดทั้งขนาดและน้ำหนักในช่วงเวลาที่คนมีอายุตั้งแต่ 20 ถึง 90 ปี สมองอาจจะลดน้ำหนักได้ตั้งแต่ 5-10% และ 10% ของเซลล์สมองที่เรามีในขณะที่เรามีอายุ 20 ปีจะตายไปเรียบร้อย เมื่อเรามีอายุ 65 ปี
นอกจากการเสื่อมสลายของผิวหนัง กระดูก หัวใจ และสมองแล้ว
คนสูงอายุก็มีแนวโน้มจะติดโรคหรือเป็นไข้บ่อยด้วย โดยเฉพาะโรคหวัด ทั้งนี้ เพราะเซลล์ชนิดที่ร่างกายมีได้ลดจำนวนลง (เซลล์ตามปรกติมีหน้าที่ต่อสู้ โมเลกุลแปลกปลอมที่รุกล้ำเข้ามาในร่างกาย การไม่เคยพบโมเลกุลแปลกปลอมมาก่อน ทำให้ร่างกายไม่ได้สร้างระบบภูมิคุ้มกันสิ่งแปลกปลอม)
ดังนั้น เมื่อระบบภูมิคุ้มกันเสื่อมสมรรถภาพ คนชราจึงล้มป่วยบ่อย
นอกจากนั้น ในร่างกายของคนชราบางคน ระบบภูมิคุ้มกันแทนที่จะช่วยต่อสู้ศัตรูของร่างกายกลับแปรพักตร์ไปเป็นศัตรูของร่างกายคือ ทำร้ายร่างกายของคนๆ นั้นเอง สร้างโรคอัลไซเมอร์ และโรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น
เหล่านี้เป็นอาการภายนอกที่เราเห็นเวลาคนเราย่างเข้าสู่วัยชรา
แต่ถ้าเราต้องการจะดูลึกลงไปถึงความเป็นไปภายในเซลล์ของร่างกายคนชรา เราก็จะเห็นว่า ออกซิเจนและน้ำตาล ซึ่งเป็นธาตุและสารประกอบที่ร่างกายต้องการในการดำรงชีวิตมาก กลับเป็นตัวการที่ทำร้ายเซลล์มากที่สุด
ดังนั้น เมื่อ DNA และโปรตีนในเซลล์ถูกอนุมูลอิสระทำร้ายมากขึ้นๆ
จนกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอไม่สามารถกระทำได้ทัน ความบกพร่องในการทำงานของเซลล์ก็จะบังเกิด และเมื่อเซลล์ทำงานบกพร่องมากขึ้นๆ อวัยวะร่างกายก็ทำงานบกพร่องยิ่งขึ้นและนี่ก็คือที่มาของความชรา เท่าที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงการบรรยายว่าเวลาคนเรามีอายุมากขึ้น ร่างกายเป็นอย่างไร แต่เราก็ยังไม่ได้ตอบคำถามว่า เหตุใดคนเราจึงต้องชรา
ในงานวิจัยที่ผ่านมาได้มีการพูดถึงการออกกำลังกาย
การกินอาหารและการฉีดฮอร์โมนเช่น growth hormone, telomeres และ antioxidants ต่างๆ เข้าร่างกาย ว่าสามารถทำให้คนชราช้าลงได้ ความจริงมีอยู่ว่า การออกกำลังกายที่สม่ำเสมอช่วยให้ร่างกายทำงานได้ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่มีการพิสูจน์แน่ชัดว่า ร่างกายจะทำงานได้นานขึ้นและหยุดเมื่อออกกำลังกายแล้ว
ผลดีจากการออกกำลังกายนั้น
จะยังคงปรากฎอยู่อีกนานหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ การควบคุมการบริโภคอาหารในกรณีหนู สามารถทำให้หนูมีอายุยืนขึ้นจริง แต่การทดลองเดียวกันในกรณีของคนยังไม่มีข้อสรุป และการฉีดฮอร์โมนต่างๆ เข้าร่างกายนั้นอันตรายมาก
งานวิจัยที่กล่าวถึงความสามารถของเอนไซม์ telomere ในการชะลอความชราว่า
ทุกครั้งที่เซลล์แบ่งตัว telomere ซึ่งเป็นส่วนเล็กๆ ที่ปลายโครโมโซมจะหดสั้นเข้าๆ จนถึงระดับหนึ่ง เซลล์ก็จะหยุดแบ่งตัว แล้วคนก็จะเริ่มแก่ การฉีดเอนไซม์ telomeres จะทำให้ telomeres ไม่หดตัว เซลล์จึงแบ่งตัวได้เรื่อยๆ คนไข้จะไม่แก่ แต่การแบ่งตัวบ่อย เช่นนี้ ก็จะทำให้เซลล์นั้นมีโอกาสสูงที่จะเป็นเซลล์มะเร็ง ส่วนการกำจัดอนุมูลอิสระนั้นก็จะสามารถทำให้สัตว์บางชนิดมีอายุยืนได้ แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่มีวิธี (ที่ปลอดภัย) สำหรับคน
ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ สสวท.
เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต
ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้
สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com