จำลองลายนิ้วมือ ดาวินชี ถอดรหัสชีวิตศิลปินเอก
นักมานุษยวิทยาอิตาลีแกะรอยลายนิ้วมือตามผลงานต่างๆ ลีโอนาร์โด ดาวินชี
ปะติดปะต่อจนสามารถสร้างลายนิ้วมือชี้ด้านซ้ายขึ้นมา โดยหวังว่าลายนิ้วมือดังกล่าวจะช่วยให้ได้ข้อมูลด้านต่างๆ ของอัจฉริยะแห่งยุคเรอเนซองส์เพิ่มเติมอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมระหว่างทำงานที่ชอบทำไปกินไป รวมถึงภูมิหลังของมารดาที่มาจากตะวันออกกลาง
ลุยอิจิ คาพาสโซ (Luigi Capasso) นักมานุษยวิทยา
และผู้อำนวยการสถาบันวิจัยมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยชิเอตี (Anthropology Research Institute at Chieti University) ในอิตาลี เผยผลงานการจำลองลายนิ้วมือของลีโอนาร์โด ดาวินชี (Leonardo da Vinci) ที่ศึกษาวิจัยมานาน 3 ปี ทำให้สามารถระบุได้ชัดเจนว่าผลงานชิ้นไหนเป็นของดาวินชีอย่างแท้จริง รวมถึงผลงานบางชิ้นที่ยังมีการถกเถียงกันอยู่ เพียงแค่นำมาเทียบลายนิ้วมือที่จำลองขึ้น
กระบวนการสร้างลายนิ้วมือจำลองขึ้นมานี้
ทีมงานของคาพาสโซต้องศึกษาภาพถ่ายส่วนต่าง ๆ ของลายนิ้วมือถึง 200 ชิ้น จากกระดาษที่ดาวินชีเคยถือ 52 แผ่น หลังจากสร้างลายนิ้วมือจำลองขึ้นมาได้ ทำให้รู้จักโลกของดาวินชี และมองเห็นไปถึงอนาคต โดยสามารถเข้าใจว่าศิลปินผู้โด่งดังมีลักษณะอย่างไร ด้วยข้อมูลทางชีววิทยา
ทีมวิจัยระบุว่า
ดาวินชีมักจะกินไปทำงานไป เพราะร่องรอยลายนิ้วมือที่ทิ้งไว้ตามกระดาษต่างๆ มีทั้งน้ำลาย เลือด และอาหารปะปนอยู่ด้วย
ที่น่าสนใจคือ
แค่เพียงลายนิ้วมือก็ทำให้ล่วงรู้ได้ว่าเขามีเชื้อสายอาหรับผสมอยู่ โดยคาพาสโซอธิบายว่า ลักษณะปลายนิ้วของดาวินชีที่ปรากฏนั้น พบในชาวอาหรับ 60% จึงสันนิษฐานได้ว่ามารดาของดาวินชีน่าจะมีต้นกำเนิดอยู่แถว ๆ ตะวันออกกลาง อย่างไรก็ดีการระบุชาติพันธุ์ด้วยการพิสูจน์ลายนิ้วมือนั้น ยังไม่เป็นที่ยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญเท่าใดนัก
ไซมอน โคล (Simon Cole) ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านอาชญวิทยา
มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในเออร์วีน (University of California at Irvine) อธิบายว่า ในทางวิทยาศาสตร์ได้เก็บสถิติลักษณะทางเชื้อชาติเพื่อบ่งชี้ที่มาของแต่ละบุคคล แต่การระบุว่าใครคนหนึ่งมีเชื้อสายอะไรบ้าง ไม่สามารถใช้ลายนิ้วมือจากนิ้วเดียวอธิบายได้
ทั้งนี้ แนวคิดเรื่องมารดาของดาวินชี
ที่ว่ามาจากตะวันออกกลางนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ระบุว่า เธอมาจากทัสคานีและถูกขายเป็นทาสที่คอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคือกรุงอิสตันบูล ตุรกี) ซึ่งอเลสซานโดร เวซซอซี (Alessandro Vezzosi) ผู้เชี่ยวชาญเรื่องของดาวินชี ระบุว่า สิ่งที่บอกออกมาจากลายนิ้วนือนั้นสอดคล้องกับผลงานวิจัยอื่นๆ ที่ชี้ว่ามารดาของดาวินชีไม่ใช่ชาวชนบทในเมืองวินชี อิตาลี
ทว่าเวซซอซีก็ยังไม่อยากให้คาพาสโซฟันธง
ไปว่ามารดาของดาวินชีเป็นทาสที่ถูกขายมาจากตะวันออกกลาง จนกว่าจะพบหลักฐานการซื้อขาย พร้อมกับให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า คาเทอรินา (Caterina) อันเป็นชื่อของเธอนั้น เป็นชื่อที่ใช้ทั่วไปในหมู่ทาสที่ทัสคานี แต่ทั้งนี้ก็ยังไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับเธอที่ชัดเจน
อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญอีกหลายรายระบุว่า
ลายนิ้วมือที่หลงเหลืออยู่บนกระดาษผลงาน อาจจะเป็นของใครต่อใครอีกหลายคนที่ได้จับต่อๆ กันมา แต่ที่คาพาสโซมั่นใจว่า เป็นของดาวินชีนั้น ก็เพราะร่องรอยการลบหมึกในบางช่วงที่เชื่อว่าเพราะดาวินชีเขียนผิดและต้องการแก้ไข
ข้อมูลทางชีวภาพของดาวินชีส่วนใหญ่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
ศิลปินอัจฉริยะผู้นี้ใช้มือซ้ายวาดภาพ หรือช่วยสร้างผลงานด้วย ที่สำคัญเขาทำงานไปกินไป และยังทำงานระหว่างเดินทางอีกด้วย เพราะนิ้วมือของเขาค่อนข้างสกปรก บางครั้งก็มีเศษอาหารติดมา
ทว่าพฤติกรรมแบบนี้ของดาวินชีนั้น
ผู้เชี่ยวชาญเรื่องศิลปินเอกของโลกก็ไม่อยากจะปักใจเชื่อ อย่าง คาร์โล เวคเค (Carlo Vecce) ศาสตราจารย์อักษรศาสตร์อิตาเลียน มหาวิทยาลัยเนเปิลส์ (Naples´ University) แม้จะยอมรับว่าการศึกษาลายนิ้วมือของดาวินชีนั้นน่าสนใจ แต่ก็ไม่น่าจะระบุลักษณะต่างๆ ของเขาระหว่างสร้างผลงานได้ และเชื่อว่าข้อมูลที่ได้จากลายนิ้วมือก็ไม่น่าจะมากไปกว่าข้อมูลเดิมๆ ที่มีอยู่
ลีโอนาร์โด ดาวินชี มีชีวิตอยู่เมื่อ 600 ปีก่อน
ในยุคสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา <แม้จะทุกคนจะยกให้เป็นศิลปินเอกของโลก ด้วยผลงานภาพวาดอย่าง โมนาลิซา และเดอะลาสต์ ซัปเปอร์ แต่เขาก็ยังมีความเชี่ยวชาญในด้านอื่นๆ อีกไม่ว่าจะเป็นสถาปนิก วิศวกร นักคณิตศาสตร์ นักประพันธ์เพลง นักประดิษฐ์ จนได้รับฉายาว่าเป็น เรอเนซองส์แมน (Renaissance man) บุรุษผู้เป็นแบบอย่างแห่งยุค ซึ่งทำให้ทั้งเรื่องราวชีวิตความเป็นตัวตนของดาวินชี และผลงานต่างๆ ได้รับความสนใจค้นหาที่มาที่ไปจนถึงปัจจุบัน
ขอขอบคุณข้อคิดนานาสาระ โดย: ผู้จัดการออนไลน์