เกล็ดความรู้จากมัมมี่
มัมมี่คือ
ซากที่เก็บไว้ของคนและสัตว์มีผิวหนังติดกับซาก การเกิดมัมมี่เกิดโดยธรรมชาติหรือเกิดจากการจัดทำโดยมนุษย์โดยสภาพแวดล้อมบางอย่าง เช่น เปียกชื้นตลอดเวลาแห้งจัดหนาวจัดถ้าฝังซากลงไปแล้วก็จะเกิดมัมมี่ได้เช่นเดียวกันการจัดทำขึ้นของมนุษย์เรียกว่า embalming ซึ่งชาวอียิปต์โบราณมีชื่อเสียง
ทางด้านนี้การทำมัมมี่ไม่ได้ทำในประเทศอียิปต์เท่านั้น
แต่เกิดในหลายวัฒนธรรมทั่วโลกที่เชื่อชีวิตหลังความตาย (after life )มักจะเกี่ยวพันความเชื่อทางศาสนา บุคคลที่จะทำมัมมี่ได้แก่พวกกษัตริย์ นักบวชระดับสูง และบุคคลสำคัญเท่านั้น จึงพบมัมมี่ในวัฒนธรรมโบราณตามฝั่งชายทะเลประเทศชิลีและเปรูในราว 3,000 ปีก่อนในวัฒนธรรมประมงโบราณก่อนคริสต์กาลตลอดไปถึงประเทศโคลัมเบียและเอกวาดอร์จนถึงจึดรุ่งเรืองที่สุดในสมัยชาวอินคา
นอกจากนี้ชาวอินเดียนแดงในสหรัฐอเมริกา
เชานชนเผ่านาวาโฮก็มีการทำมัมมี่เช่นเดียวกันแต่ละวัฒนธรรมก็จะมีการทำมัมมี่แตกต่างกันไปส่วนกรรมวิธีของชาวอียิปต์พวกเขารู้ดีว่าซากศพจะเน่าเปื่อยอย่างรวดเร็วจึงเริ่มการทำมัมมี่ตั้งแต่ขั้นตอนต่อไปนี้
การเจาะช่องท้องด้านซ้ายแล้วควักเอาอวัยวะภายในออกทั้งหมดยกเว้นหัวใจไว้ตำแหน่งที่เดิมควักมันสมองออกทางรูจมูกต่อมาชะล้างท้องให้สะอาดด้วยเหล้าไวน์ที่ทำจากต้นปาล์ม
แล้วหมกศพไว้กองสารชื่อ natron ซึ่งมีคุณสมบัติดูดซึม น้ำและไขมันและมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อแบคทีเรียเป็นเวลานาน 70 วัน
จากนั้นนำซากมาอาบด้วยยางไม้เครื่องเทศแล้วทาผิวด้วยน้ำมันให้อ่อนนุ่มเอาผ้าลินินทรายหรือขี้เลื่อยไม้
ยัดเข้าตรงรอยผ่าตบแต่งให้มีรูปทรงดีแล้วพันด้วยแถบผ้าลินินที่ทาด้วยกาวทั่วทั้งตัว
นำมัมมี่ใส่ลงโลงที่มีหน้ากากคลุมอยู่วางไว้บนเตียงพร้อมเครื่องใช้ต่าง ๆ วางไว้ใต้เตียงเป็นที่ตั้งของโถเก็บของอวัยวะสำคัญของผู้ตายได้แก่ ตับ ลำไส้ ปอด และกระเพาะ
เจ้าหน้าที่ทีมงานที่จัดทำสวมหน้ากาก หัวสุนัขจิ้งจอก ชนิด jackal เชื่อว่าเป็นตัวแทนของเทพเจ้าอนูบิส (Anubis)
เครื่องมือที่ใช้ทำจากวัสดุหายากและมีคุณค่าสูงเช่น ใบมีดทำจากแก้วภูเขาไฟ (obsidian) ด้ามมีดทำจากทองคำ
ขอขอบคุณ ข้อมูลที่มีประโยชน์จาก เว็บไซต์ Digital Library for schoolnet Thailand
เพื่อร่วมกันสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้บนโลกอินเตอร์เน็ต
ผู้มีบทความทางด้านวิทยาศาสตร์น่ารู้
สามารถส่งผลงานของท่านมาได้ที่ arunee@teeneemedia.com