เผยผลการใช้จริง! โมเดอร์น่า ป้องกันโควิดดีกว่า J&J-ไฟเซอร์

วันที่ 18 ก.ย.64 workpointTODAY ได้สรุปประเด็นผลการใช้จริงในอเมริกา พบวัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นา (Moderna) มีประสิทธิภาพมากที่สุด เมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์ (Pfizer) และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) อย่างไรก็ตามทางการสหรัฐฯ ยืนยันว่า วัคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อมีประสิทธิภาพต้านโควิด-19 ได้จริง

ผลการใช้จริงล่าสุดจากสหรัฐฯ พิสูจน์จากปัจจัยใดบ้าง แล้วทำไมข้อมูลชุดนี้ยังทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ มั่นใจว่า วัคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อที่อนุมัติการใช้งานมีประสิทธิภาพต้านโควิด-19

เผยผลการใช้จริง! โมเดอร์น่า ป้องกันโควิดดีกว่า J&J-ไฟเซอร์

1.) เว็บไซต์ CNN รายงานอ้างรายงานของศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐฯ ที่เปรียบเทียบประสิทธิภาพวัคซีน 3 ยี่ห้อที่ใช้งานอยู่ในอเมริกา ได้แก่ ไฟเซอร์ โมเดอร์นา และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โดยศึกษาข้อมูลจากการใช้จริงกับผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 3,689 คน จาก 21 โรงพยาบาลใน 18 รัฐทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค.-15 ส.ค. ที่ผ่านมา

2.) ผลจากการใช้จริงพบว่า วัคซีนของโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยเข้าโรงพยาบาลจากโควิด-19 มากที่สุด โดยอยู่ที่ 93% ขณะที่วัคซีนของไฟเซอร์อยู่ที่ 88% และวัคซีนชนิดฉีดเข็มเดียวของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน อยู่ที่ 71%

3.) แม้จากสถิติวัคซีนโมเดอร์นาจะมีเปอร์เซ็นต์ประสิทธิภาพสูงสุด แต่ก็สะท้อนว่าวัคซีนทั้ง 3 ยี่ห้อที่อนุมัติใช้งานในสหรัฐฯ มีประสิทธิภาพป้องกันการป่วยเข้าโรงพยาบาลจากโควิด-19 ในระดับที่น่าพอใจทั้งสิ้น

4.) สำหรับวัคซีนของจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ซึ่งเป็นวัคซีนฉีดเข็มเดียว พัฒนาด้วยเทคโนโลยีไวรัลเวกเตอร์ ที่ดูเหมือนจะมีเปอร์เซ็นต์ประสิทธิภาพต่ำกว่าวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา แต่ในรายงานที่เผยแพร่โดยศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐฯ ยังยืนยันถึงประสิทธิภาพของวัคซีนจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันด้วยว่า ก็ยังสามารถป้องกันการป่วยจากโควิดจนเข้าโรงพยาบาลได้ถึง 71% อยู่ดี

5.) ขณะที่ความแตกต่างระหว่างวัคซีนไฟเซอร์และโมเดอร์นา ทีมวิจัยยังพบด้วยว่า วัคซีนของไฟเซอร์อาจมีประสิทธิภาพลดลงในร่างกายของผู้ที่ฉีดครบโดสผ่านไปแล้ว 4 เดือนขึ้นไป ซึ่งนี่อาจเป็นผลจากความแตกต่างของชนิด mRNA ของวัคซีนทั้งสองยี่ห้อ ระยะห่างการฉีดระหว่างเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 รวมไปถึงปัจจัยอื่นๆ ที่อาจไม่ได้นับรวมในการวิเคราะห์