พระคัมภีร์ไบเบิล (THE BIBLE) เป็นคัมภีร์ทางศาสนาของชาวคริสต์ เขียนด้วยภาษาฮิบรูโบราณ มีเนื้อหายาวถึง 73 เล่ม บอกเล่าเรื่องราวโดยกล่าว่าถึง "อาดัมกับอีวา"ที่เชื่อกันว่าเป็นมนุษย์ชายหญิงคู่แรกในประวัติศาสตร์มวลมนุษยชาติ มีการกล่าวถึงพันธะสัญญาระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ ทั้งภาคพันธะสัญญาเดิมและภาคพันธะสัญญาใหม่ ซึ่งในความเชื่อของคริสตศาสนิกชนบางกลุ่มนั้นเชื่อว่า พระเจ้าเป็นคนเขียนพระคัมภีร์เหล่านี้เมื่อ 3000 กว่าปีก่อน แต่ชาวคริสต์บางกลุ่มกลับแย้งว่ามนุษย์คนหนึ่งมีญาณพิเศษเป็นผู้รับสื่อจาก พระเจ้ามาเขียน
ปริศนาความเชื่ออันเร้นลับเกี่ยวกับพระคัมภีร์ ไบเบิลนั้นถูกสงสัยมาช้านานเพราะมีคำทำนายเกี่ยวกับยุคสุดท้ายของการสิ้นสุด ของโลก คล้ายๆ กับ "พระพุทธพจน์ทำนาย"ในพุทธศาสนาของเรา ซึ่งคำทำนายเหล่านั้นเป็นการผูกเรื่องเล่นคำที่มีความหมายแฝง เป็นคำเปรียบเปรยคล้ายคำพังเพยจึงยากต่อการตีความ
กระทั่งเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา ก็ได้มีผู้ค้นพบรหัสลับในพระคัมภีร์ไบเบิลซึ่งได้ปิดผนึกในหนังสือมากกว่า 3000 ปี เป็นโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จารึกเรื่องราวในประวัติศาสตร์ทั้งหมด รวมทั้งเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต การค้นพบครั้งนี้เท่ากับเป็นการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ด้วยว่า พระเจ้ามีจริง และชาวคริสต์ทั้งมวลก็เชื่ออีกว่าการค้นพบความลับจากคัมภีร์ไบเบิลในช่วง เวลานี้คงเป็นเวลาเหมาะสมซึ่งพระเจ้าได้กำหนดไว้ และนั่นก็หมายถึงพระองค์ต้องการเตือนให้ทุกคนรู้ว่า ภัยพิบัติบนโลกนี้กำลังจะมาถึง
ความพยายามในการถอดรหัสในพระคัมภีร์ ไบเบิลมีมานานแล้ว มีหนังสือเก่าแก่เล่มหนึ่งได้บันทึกถึงกรรมวิธีในการถอดรหัสคำทำนายต่างๆ ในไบเบิลซึ่งเขียนด้วยอักษรฮิบรูโบราณ(ลักษณะเฉพาะในภาษาฮิบรูนั้นจะเขียน ตัวอักษรเรียงติดกันเป็นพืดไม่เว้นวรรคและไม่มีเครื่องหมายวรรคตอน เวลาอ่านจะอ่านจากขวาไปซ้าย)โดยเมื่อ 50 กว่าปีก่อนมีพระยิวในกรุงปราก ประเทศเชกโกสโลวะเกียชื่อไมเคิลไวส์สมันเดล ผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ดาราศาสตร์ ก็ได้เผชิญพบหนังสือที่บอกถึงกรรมวิธีถอดรหัสในไบเบิล เขาจึงทดลองทำตามโดยเริ่มจากอักษรตัวแรกของไบเบิล เขาพบพยัญชนะ TAV หรือ T ในภาษาอังกฤษ เมื่อนับอักษรต่อไปอีก 46 ตัว ตัวที่ 50 จะตรงกับพยัญชนะ VAV หรือ O ในภาษาอังกฤษนับไปอีก 50 ตัวจะตรงกับ RESH หรือ R นับเว้นไปอีกถึงอักษรตัวที่ 50 จะได้ตัว A การอ่านกระโดดข้ามไปเรื่อยๆ ยังอักษรตัวที่ 50 ทุกครั้งจะได้คำว่า TORAH (โตราห์)เสมอ (โตราห์เป็นชื่อพระคัมภีร์เล่มหนึ่งในจำนวนหลายเล่มของคัมภีร์ไบเบิลเขียน ด้วยภาษาฮิบรูโบราณ บันทึกโดยโมเสส)
เมื่อไวส์สมันเดลพบวิธีถอด รหัสจากพระธรรมเล่มแรกแล้วเขาก็ทดลองกับพระธรรมเล่มที่ 2-5 ก็ได้ผลอย่างเดียวกัน เขาจึงมั่นใจว่า พระคัมภีร์โตราห์ของโมเสสจะต้องแฝงไว้ด้วยคำทำนายเหตุการณ์สำคัญของโลก หากสามารถรู้จำนวนตัวอักษรที่จะต้องนับกระโดดข้ามเป็นอนุกรม เช่น ที่เขาค้นพบคำว่า TORAH ก็จะทราบคำทำนายนั้นเอง แต่ในยุคของเขายังไม่มีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จะใช้อ่านอักษรกระโดดทีละตัว เขาต้องนั่งนับหาคำที่มุ่งหวังจนหลังแข็งตาลาย การค้นพบของเขาจึงหยุดอยู่แค่นั้น
ต่อมาข่าวการค้นพบวิธีถอดรหัส ของไวส์สมันเดลก็รู้ไปถึงโปรเฟสเซอร์ยิวเชื้อสายรัสเซียนแห่งมหาวิทยาลัยฮิ บรูในกรุงเยรูซาเล็มคือ ดร.อีไลยาฮู ริปส์ ซึ่งเป็นนักคณิตศาสตร์ชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ศรัทธาพระผู้เป็นเจ้า อย่างแรงกล้า ท่านผู้นี้ได้ร่วมมือกับ ดร.โดรอนวิตซตัม นักฟิสิกส์ชาวยิวสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์ตรวจนับพระคัมภีร์อย่างละเอียดถี่ ยิบทุกบรรทัด ทั้งในแนวนอน แนวตั้ง แนวเฉียง ทำให้ทั้งคู่เจอคำทำนายแฝงอยู่มากมายนับร้อยๆ เรื่อง
การถอดรหัส อักษรไขว้ในไบเบิลเราจะไม่ได้คำตอบถ้าไม่รู้ว่าจะให้คอมพิวเตอร์ค้นหาคำไหน ตัวอย่างเช่น สั่งคอมพิวเตอร์ให้หาคำว่า ฮุสเซ็น เครื่องจะทำงานอยู่ชั่วครู่ก็จะค้นเจอคำๆ นี้ซึ่งเป็นคำหลักมีระยะห่างของตัวอักษรเท่าๆ กัน เมื่อเจอคำว่า ฮุลเซ็น แล้วคำว่า ซัดดัม ก็จะปรากฏให้เห็นใกล้ๆ นั่นเอง นอกจากนี้ในบรรดาแถวอักษรที่ล้อมรอบชื่อนี้ก็จะปรากฏคำรองที่เกี่ยวข้องอีก หลายคำคือคำว่า สงคราม ขีปนาวุธ ศัตรู 18 1991 (วันที่เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย) ซึ่ง ดร.ริปส์ค้นเจอคำทำนายนี้ก่อนสงครามจะเกิดเพียงสามอาทิตย์เท่านั้น