โดยคดีดังกล่าว ส.ต.ต สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์ (ยศในขณะนั้น) ผบ.หมู่ ประจำ สภ.อ.เมืองเชียงใหม่ ได้ทำการจับกุมผู้ต้องหา คือ นายปลั่ง ปุญมากาศ ก่อนนำมาส่งมอบดำเนินคดี หลังจากที่นายกษิดิษฐ์ วินิจฉัยกุล ชาวบ้าน ต.ช้างม่อย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความ ว่าผู้ต้องหาบุกรุกเคหะสถานในยามกลางคืน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2527 โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ล่าสุด พ.ต.อ. สองขวัญ รัชดาธนวัฒน์ อดีตตำรวจที่ได้เกษียณอายุราชการแล้ว เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวได้เป็นผู้จับกุมผู้ต้องหา ก่อนส่งให้พนักงานสอบสวน ตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และเมื่อถึงวันดังกล่าว ได้รับแจ้งว่า พระบาทสมเด็จพระปรมิทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะนำคดีของนายปลั่ง ขึ้นมาพิจารณาคดีเพื่อเป็นการเปิดศาลใหม่ โดยวันดังกล่าวได้มีประชาชนจำนวนมากเดินทางมาเพื่อเข้าเฝ้าฯ จนทางจังหวัดต้องนำโทรทัศน์ที่เชื่อมต่อภาพจากห้องพิจารณาหมายเลข 1 ให้ประชาชนได้รับชมการตัดสินคดีประวัติศาสตร์นี้ด้วย
โดยหลังรับฟังคำตัดสินทำให้เห็นถึงพระอัจฉริยภาพของพระองค์ที่ทรงมีความเที่ยงธรรม และมีความเมตตา แม้จะเป็นคดีเล็กๆ แต่พระองค์ก็ทรงตัดสินตามกฎหมายโดยไม่มีการละเว้น ซึ่งทำให้หลังจากนั้นตนได้เก็บเอกสารทุกอย่างในคดีนี้ เพื่อเป็นเกียรติประวัติ และเป็นขวัญกำลังใจในการทำงานรับใช้เบื้องพระยุคลบาท โดยการทำงานเพื่อช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมกับประชาชน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยึดถือมาตลอดชีวิตข้าราชการตำรวจจนกระทั่งเกษียณ