ไขข้อสงสัย? ทำไมผู้หญิงญี่ปุ่นใส่กิโมโน ไม่ใส่กางเกงใน แต่เริ่มใส่กางเกงใน เพราะเกิดโศกนาฏกรรมนี้?

เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยสงสัย เวลาผู้หญิงญี่ปุ่นสวมกิโมโนต้องใส่กางเกงในมั้ย? มีคนเคยพูดกันว่าเวลาผู้หญิงญี่ปุ่นสวมกิโมโนแล้วใส่กางเกงในจะไม่สะดวก เพราะงั้นเวลาใส่ชุดกิโมโนพวกเธอก็เลยไม่ใส่กางเกงใน แล้วจริงๆแล้วความจริงเป็นอย่างไร? ถ้าต้องใส่ แล้วกางเกงในแบบไหนเหมาะสมที่สุด วันนี้เรามาดูกัน

เว็บไซต์ต่างประเทศรายงานว่า.. จริงๆ แล้วกิโมโนมีสองชนิด แบบที่เป็นทางการเรียกว่ากิโมโน "きもの" แปลว่า "สิ่งที่ใช้สำหรับสวมใส่" อีกแบบเป็นยูกาตะง่ายๆเรียกว่ายูกาตะ "ゆかた" แปลว่า "เสื้อผ้าที่เอาไว้ใส่หลังอาบน้ำ" กิโมโนแบบเป็นทางการเวลาใส่มีรวมๆทั้งหมด 7 ชั้น ซี่งมีน้ำหนักมาก ส่วนยูกาตะเป็นแค่ผ้าชั้นเดียว เพราะงั้นทั้งสองชนิดต่างกันมาก

มีคนกล่าวไว้ว่าในอดีตเวลาสวมกิโมโนก็จะไม่ใส่กางเกงใน (เพราะใส่ผ้าคลุมไว้ถึง 7 ชั้นแล้ว) ยูกาตะก็เช่นเดียวกันเนื่องจากใส่หลังอาบน้ำ แล้วสาเหตุจริงๆคืออะไร?

ความจริงก็คือ ไม่ใช่ไม่ใส่ แต่ในยุคสมัยนั้นผู้หญิงทั่วไปไม่มีใครใส่บราหรือกางเกงใน เพราะต้องสั่งเข้ามาจากตะวันตก เนื่องจากในอดีตไม่มี เพราะงั้นในสมัยนั้นปัญหาไม่ใช่ว่าใส่หรือไม่ใส่ แต่มันไม่มีใส่ตั้งแต่ต้น

พอถึงยุคสมัยการปฏิรูประบบเมจิ บราและกางเกงในแบบตะวันตกเข้ามาในญี่ปุ่น แต่ผู้หญิงญี่ปุ่นก็ยังไม่เคยชินกับการสวมใส่กางเกงใน อีกอย่างก็คือกางเกงในราคาค่อนข้างสูง ผู้หญิงธรรมดาทั่วไปเสียดายเงินที่จะเอาไปซื้อ ทำให้ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่เคยสวมกางเกงในมาก่อน

สาเหตุที่ผู้หญิงญี่ปุ่นเริ่มสวมกางเกงในก็ไม่ใช่เพราะเขินอาจแต่เพื่อ... ป้องกันชีวิต ช่วงเดือนธันวาคมปี 1932 เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ขึ้นที่ห้างสรรพสินค้า "White House" ในโตเกียว ลูกค้าและพนักงานขายจำนวนมากปีนลงมาจากชั้น 4 เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ลมหนาวพัดจนกิโมโนเปิดออก ผู้หญิงที่ไม่ได้ใส่กางเกงในจึงเห็นเนื้อหนังไปครึ่งตัว

เพื่อจะไม่ให้กิโมโนเปิดขึ้นมา ผู้หญิงบางคนจึงเอามือข้างหนึ่งไปจับไว้ ปรากฏว่ามือเดียวก็เกาะเชือกไม่อยู่ ทำให้หลายๆคนตกลงมาบนพื้น จากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นมีผู้เสียชีวิตเพราะถูกไฟครอก 14 คน แต่มีผู้บาดเจ็บสาหัสเพราะตกลงมาบนพื้นหลายสิบคน

เหตุการณ์นี้กลายเป็นข่าวที่น่าสนใจของหนังสือพิมพ์ญี่ปุ่นรายใหญ่ในช่วงเวลานั้น และดึงดูดความสนใจของสังคมเป็นอย่างมาก ทำให้ผู้หญิงญี่ปุ่นออกมาซื้อกางเกงในกันอย่างครึกโครม เพราะงั้นสิ่งที่กระตุ้นให้ผู้หญิงญี่ปุ่นออกมาซื้อกางเกงในก็คือเพื่อปกป้องชีวิตในเหตุการณ์ไฟไหม้

คนในปัจจุบันเคยชินกับการสวมใส่กางเกงใน ถ้าไม่ใส่ก็จะรู้สึกแปลกๆ ไม่ปลอดภัย เมื่อยูกาตะกลายเป็นเสื้อผ้าที่สามารถสวมออกไปเดินถนนได้ การไม่ใส่กางเกงในก็จะวาบหวิวเกินไป ถ้ากลัวว่าจะเห็นขอบกางเกงในก็สามารถเลือกสวมกางเกงในไร้ขอบ (ショーツ)

ชุดเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมของประเทศ ในความเป็นจริงชุดกิโมโนเริ่มแรกถูกนำมาจากประเทศจีน หลังจากผ่านไปนานถึง 2000 ปีชาวญี่ปุ่นก็ได้ค่อยๆพัฒนารูปแบบและการแต่งกายจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของตน ปัจจุบันนี้แม้สังคมมีอารยธรรมสมัยใหม่พัฒนาขึ้นอย่างมาก ญี่ปุ่นก็ยังสามารถรักษาวัฒนธรรมเครื่องแต่งกายแบบดั้งเดิมได้อย่างดี และยังคงเจริญรุ่งเรืองอยู่ต่อไป แรงอนุรักษ์นิยมแบบนี้มีค่าให้พวกเราได้เรียนรู้