ตำนานพับนกที่โลกร่ำไห้.... (คลิป)
เชิญรับชมคลิปวิดีโอ
vvvv
vvv
vv
v
ตำนานพับนกที่โลกร่ำไห้...ซาดาโกะ... นกกระเรียน 1000 ตัว #ครบรอบ 73 ปีทิ้งปรมาณูที่ญี่ปุ่น
"นกกระดาษนั่นจะ ทำให้ฉันหายป่วยได้ ยังไง"
ซาดาโกะถามชิซูโกะเพื่อนสนิทซึ่งมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลพร้อมด้วยนกกระเรียนที่พับขึ้นจากกระดาษสีทอง
"เธอจำตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับเรื่อง นกกระเรียนไม่ได้หรือ... เขาเชื่อกันว่า.. นกกระเรียนนั้นจะมีอายุถึงพันปี ถ้าหากว่าคนที่เจ็บป่วยสามารถพับนกกระเรียนได้ถึงพันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้คนนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง"
ชิซูโกะยื่นนกกระเรียนกระดาษให้ซาดาโกะแล้วบอกว่า
"นี่คือนกกระเรียนตัวแรกของเธอ"
เด็กน้อยซาบซึ้งใจกับความปรารถนาดีของเพื่อน หลังจากนั้นซาดาโกะก็เริ่มต้นพับนกกระเรียนของเธอ พร้อมๆ กับอธิษฐานว่า "ขอให้ฉันหายป่วย"
แต่ ซาดาโกะ ไม่หายจากอาการป่วย และ ไม่สามารถพับนกกระเรียนกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัว ...
นั่นคือ เรื่องราวของซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร เรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้กับสิ่งที่เธอทำก็ยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำของผู้คนทั่วโลก
ซาดาโกะ ซาซากิ (「佐々木 禎子」, Sasaki Sadako) เกิดวันที่ 7 ม.ค. พ.ศ. 2486 - 25 ต.ค. พ.ศ. 2498) เป็นเด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่ใกล้กับสะพานมิซาซะในเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พ.ศ. 2488 ระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งลงที่ฮิโรชิมา เธอมีอายุได้เพียงสองปี เหตุการณ์ณ์ครั้งนั้นทำให้ชาวญี่ปุ่นล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ซาดาโกะรอดตาย
เวลาผ่านไป ซาดาโกะเป็นเด็กที่แข็งแรงรวมทั้งเป็นนักกีฬาวิ่งแข่ง
11 ปีภายหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซาดาโกะได้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและสลบในห้องเรียน ภายหลังจึงได้รู้ว่าเป็นโรคลูคิเมียหรือมะเร็งในเม็ดเลือด ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลมาจากปรมาณูในสงครามโลก
นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเด็กน้อยผู้ร่าเริงคนที่ตั้งความหวังว่าจะเป็นนักวิ่งที่เก่งกาจกลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาล แต่ซาดาโกะต่อสู้ก็กับโรคร้ายด้วยความเข้มแข็ง ในจิตใจของเธอเปี่ยมด้วยความหวังว่า ตัวเองจะต้องหายจากอาการป่วย
จนกระทั้ง................
ชิซูโกะเพื่อนสนิทได้มาเยี่ยมซาดาโกะที่โรงพยาบาลพร้อมได้นำ โอะริงะมิ มาพร้อมเล่าตำนานนกกระเรียน "ซูรุ" ให้ฟัง โดย ซูรุเป็นนกศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ความหวัง ความโชคดีและความสุข นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเจ็บป่วยได้ด้วย ถ้าใครสามารถพับนกกระเรียนได้ถึง 1,000 ตัว แล้วผู้นั้นจะมีอาการดีขึ้น
เธอใช้เวลา 14 เดือนในโรงพยาบาล และพับนกมากกว่า 1,300 ตัว เขียนคำว่า "สันติภาพ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 12 ปี (ในเรื่องเล่าที่ค่อนข้างแพร่หลายกล่าวว่าเธอพับนกได้แค่ 644 ตัวก่อนจะเสียชีวิต และเพื่อนของเธอพับนกให้เธอจนครบหนึ่งพันตัว และฝังนกเหล่านั้นพร้อมกับร่างของเธอ) ปัจจุบันที่ฐานอนุสาวรีย์ของเธอในบริเวณอนุสรณ์สถานสันติภาพ ฮิโรชิมา ผู้คนจากทั่วโลกยังคงแวะเวียน นำพวงมาลัยนกกระเรียนกระดาษมาวางเพื่อระลึกถึงเธอ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงคราม
เมื่อเรื่องซาดาโกะแพร่หลายออกไป จึงได้มีการบริจาคเงินสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงซาดาโกะและเด็กๆ อีกหลายคนที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู และตั้งที่ใจกลางสวนสาธารณะสันติภาพฮิโรชิม่า โดยอนุสาวรีย์นี้เป็นรูปของซาดาโกะกำลังยืนและยื่นมือทั้งสองข้างขึ้นไปบนฟ้า ที่มือของเธอถือนกกระเรียนสีทองไว้
นอกจากนี้เรื่องราวของซาดาโกะถูกนำเสนอผ่าน ตัวหนังสือและสื่ออื่นๆ แต่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จัก มากที่สุดคือ หนังสือเรื่อง ซาดาโกะกับนกกระเรียน พันตัว หรือ Sadako and the Thousand Paper Cranes ของ อีลีนอร์ โคเออร์ สตรีชาวแคนาดา ผู้ลุ่มหลงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างยิ่ง โคเออร์เขียน เรื่องราวของซาดาโกะขึ้นจากหนังสือชื่อ โคเคชิ ซึ่งเพื่อนนักเรียนของซาดาโกะนำจดหมายและ บันทึกของเธอมารวมเป็นเล่ม วรรณกรรมเรื่อง ซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ สหรัฐอเมริกาในปี 2520 ปัจจุบันถูกตีพิมพ์เป็นภาษา ต่างๆ มากมาย
วรรณกรรมเรื่องซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนได้ตระหนักถึงพิษภัยของสงคราม และทำให้การพับนกกระเรียนกระดาษ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเป็นการอธิษฐานเพื่อให้ ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วย รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ แห่งการเรียกร้องหาสันติภาพอีกนัยหนึ่งด้วย
สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ไปเยือนอนุสาวรีย์ของซาดาโกะที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโรชิมาก็จะได้พบว่า มีถ้อยคำที่กินใจจารึกไว้ที่ฐานของรูปปั้นว่า "นี่คือ คำร้องขอ ของเรา นี่คือ คำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก..."
เรื่องราวของ ซาดาโกะและนกกระเรียนพันตัว จึงไม่เคยถูกลืมเลือน
และชาวโลกจะต้องพับนกกระเรียนกระดาษอีกกี่ตัว คำอธิษฐานจึงจะเป็นจริง ...
"นกกระดาษนั่นจะ ทำให้ฉันหายป่วยได้ ยังไง"
ซาดาโกะถามชิซูโกะเพื่อนสนิทซึ่งมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาลพร้อมด้วยนกกระเรียนที่พับขึ้นจากกระดาษสีทอง
"เธอจำตำนานเก่าแก่เกี่ยวกับเรื่อง นกกระเรียนไม่ได้หรือ... เขาเชื่อกันว่า.. นกกระเรียนนั้นจะมีอายุถึงพันปี ถ้าหากว่าคนที่เจ็บป่วยสามารถพับนกกระเรียนได้ถึงพันตัว สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้คนนั้นกลับมามีสุขภาพแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง"
ชิซูโกะยื่นนกกระเรียนกระดาษให้ซาดาโกะแล้วบอกว่า
"นี่คือนกกระเรียนตัวแรกของเธอ"
เด็กน้อยซาบซึ้งใจกับความปรารถนาดีของเพื่อน หลังจากนั้นซาดาโกะก็เริ่มต้นพับนกกระเรียนของเธอ พร้อมๆ กับอธิษฐานว่า "ขอให้ฉันหายป่วย"
แต่ ซาดาโกะ ไม่หายจากอาการป่วย และ ไม่สามารถพับนกกระเรียนกระดาษได้ครบหนึ่งพันตัว ...
นั่นคือ เรื่องราวของซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ซึ่งเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อกว่า 40 ปีที่แล้ว แต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงไร เรื่องของเด็กผู้หญิงคนนี้กับสิ่งที่เธอทำก็ยังไม่เคยเลือนหายจากความทรงจำของผู้คนทั่วโลก
ซาดาโกะ ซาซากิ (「佐々木 禎子」, Sasaki Sadako) เกิดวันที่ 7 ม.ค. พ.ศ. 2486 - 25 ต.ค. พ.ศ. 2498) เป็นเด็กหญิงชาวญี่ปุ่น ที่อาศัยอยู่ใกล้กับสะพานมิซาซะในเมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อวันที่ 6 ส.ค. พ.ศ. 2488 ระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งลงที่ฮิโรชิมา เธอมีอายุได้เพียงสองปี เหตุการณ์ณ์ครั้งนั้นทำให้ชาวญี่ปุ่นล้มตายเป็นจำนวนมาก แต่ซาดาโกะรอดตาย
เวลาผ่านไป ซาดาโกะเป็นเด็กที่แข็งแรงรวมทั้งเป็นนักกีฬาวิ่งแข่ง
11 ปีภายหลังจากสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ซาดาโกะได้เกิดอาการปวดหัวอย่างรุนแรงและสลบในห้องเรียน ภายหลังจึงได้รู้ว่าเป็นโรคลูคิเมียหรือมะเร็งในเม็ดเลือด ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลมาจากปรมาณูในสงครามโลก
นับตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาเด็กน้อยผู้ร่าเริงคนที่ตั้งความหวังว่าจะเป็นนักวิ่งที่เก่งกาจกลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่บนเตียงโรงพยาบาล แต่ซาดาโกะต่อสู้ก็กับโรคร้ายด้วยความเข้มแข็ง ในจิตใจของเธอเปี่ยมด้วยความหวังว่า ตัวเองจะต้องหายจากอาการป่วย
จนกระทั้ง................
ชิซูโกะเพื่อนสนิทได้มาเยี่ยมซาดาโกะที่โรงพยาบาลพร้อมได้นำ โอะริงะมิ มาพร้อมเล่าตำนานนกกระเรียน "ซูรุ" ให้ฟัง โดย ซูรุเป็นนกศักดิ์สิทธิ์และสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว ความหวัง ความโชคดีและความสุข นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันความเจ็บป่วยได้ด้วย ถ้าใครสามารถพับนกกระเรียนได้ถึง 1,000 ตัว แล้วผู้นั้นจะมีอาการดีขึ้น
เธอใช้เวลา 14 เดือนในโรงพยาบาล และพับนกมากกว่า 1,300 ตัว เขียนคำว่า "สันติภาพ ก่อนที่จะเสียชีวิตลงด้วยอายุเพียง 12 ปี (ในเรื่องเล่าที่ค่อนข้างแพร่หลายกล่าวว่าเธอพับนกได้แค่ 644 ตัวก่อนจะเสียชีวิต และเพื่อนของเธอพับนกให้เธอจนครบหนึ่งพันตัว และฝังนกเหล่านั้นพร้อมกับร่างของเธอ) ปัจจุบันที่ฐานอนุสาวรีย์ของเธอในบริเวณอนุสรณ์สถานสันติภาพ ฮิโรชิมา ผู้คนจากทั่วโลกยังคงแวะเวียน นำพวงมาลัยนกกระเรียนกระดาษมาวางเพื่อระลึกถึงเธอ ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงคราม
เมื่อเรื่องซาดาโกะแพร่หลายออกไป จึงได้มีการบริจาคเงินสร้างอนุสาวรีย์เพื่อรำลึกถึงซาดาโกะและเด็กๆ อีกหลายคนที่เสียชีวิตจากระเบิดปรมาณู และตั้งที่ใจกลางสวนสาธารณะสันติภาพฮิโรชิม่า โดยอนุสาวรีย์นี้เป็นรูปของซาดาโกะกำลังยืนและยื่นมือทั้งสองข้างขึ้นไปบนฟ้า ที่มือของเธอถือนกกระเรียนสีทองไว้
นอกจากนี้เรื่องราวของซาดาโกะถูกนำเสนอผ่าน ตัวหนังสือและสื่ออื่นๆ แต่ที่โด่งดังและเป็นที่รู้จัก มากที่สุดคือ หนังสือเรื่อง ซาดาโกะกับนกกระเรียน พันตัว หรือ Sadako and the Thousand Paper Cranes ของ อีลีนอร์ โคเออร์ สตรีชาวแคนาดา ผู้ลุ่มหลงวัฒนธรรมของญี่ปุ่นอย่างยิ่ง โคเออร์เขียน เรื่องราวของซาดาโกะขึ้นจากหนังสือชื่อ โคเคชิ ซึ่งเพื่อนนักเรียนของซาดาโกะนำจดหมายและ บันทึกของเธอมารวมเป็นเล่ม วรรณกรรมเรื่อง ซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว ตีพิมพ์ครั้งแรกที่ สหรัฐอเมริกาในปี 2520 ปัจจุบันถูกตีพิมพ์เป็นภาษา ต่างๆ มากมาย
วรรณกรรมเรื่องซาดาโกะกับนกกระเรียนพันตัว กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนได้ตระหนักถึงพิษภัยของสงคราม และทำให้การพับนกกระเรียนกระดาษ ซึ่งเป็นความเชื่อของชาวญี่ปุ่นเป็นการอธิษฐานเพื่อให้ ผู้คนหายจากอาการเจ็บป่วย รวมทั้งเป็นสัญลักษณ์ แห่งการเรียกร้องหาสันติภาพอีกนัยหนึ่งด้วย
สำหรับผู้ที่มีโอกาสได้ไปเยือนอนุสาวรีย์ของซาดาโกะที่สวนสันติภาพของเมืองฮิโรชิมาก็จะได้พบว่า มีถ้อยคำที่กินใจจารึกไว้ที่ฐานของรูปปั้นว่า "นี่คือ คำร้องขอ ของเรา นี่คือ คำภาวนาของเรา สันติภาพจงบังเกิดขึ้นบนโลก..."
เรื่องราวของ ซาดาโกะและนกกระเรียนพันตัว จึงไม่เคยถูกลืมเลือน
และชาวโลกจะต้องพับนกกระเรียนกระดาษอีกกี่ตัว คำอธิษฐานจึงจะเป็นจริง ...
Cr::บันทึกประวัติศาสตร์
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น