เปิดความหมาย “ดวงตราศักดิ์สิทธิ์” ที่คล้ายคลึงกันของ สองมหาบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ไทย!
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง ตำนานโลก เปิดความหมาย “ดวงตราศักดิ์สิทธิ์” ที่คล้ายคลึงกันของ สองมหาบุรุษแห่งประวัติศาสตร์ไทย!
รูปพญาครุฑนั้น นับเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่หลวงพ่อโอภาสีใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำองค์ท่าน จึงเป็นเหตุที่น่าสนใจศึกษาว่าครุฑนั้นมีความหมายอย่างไรบ้าง ตำนานทางฮินดู ครุฑเป็นลูกของพระอาทิตย์มีเดชอำนาจเทียบเท่ากับพระเป็นเจ้า เคยประลองฝีมือกับพระนารายณ์มีผลเสมอกัน ครุฑเป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์ในสยามประเทศ
เพราะเราถือคติว่ากษัตริย์เป็นพระนารายณ์อวตาร ดังนั้นครุฑจึงเป็นเครื่องหมายของตราแผ่นดิน สัญลักษณ์ครุฑนั้นเป็นสัญลักษณ์ทางอำนาจราชศักดิ์กันภัยพิบัติขับไล่เสนียดจัญไรอาถรรพ์ทั้งปวง
เมื่อลองเปิดย้อนดูพระมหากษัตริย์ที่ริเริ่มใช้ดวงตราครุฑขึ้นมา ก็พบว่าก่อนสมัยรัตนโกสินทร์ก็มีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีเป็นผู้ริเริ่มใช้ดวงตราครุฑเป็นตรานำทัพ เรียกกันว่า “ดวงตรามหาเดช” และพบว่ามีลักษณะใกล้เคียงกับครุฑแบกสวัสดิกะของหลวงพ่อโอภาสีท่านด้วย
เราไม่รู้ได้ว่าความหมายในการใช้ครุฑขององค์หลวงพ่อท่านนั้นลึกซึ้งแค่ไหน แต่เราก็พอจะทราบได้ว่าการใช้ตราครุฑของหลวงพ่อโอภาสีนั้นไม่ธรรมดาจริงๆ และบางทีท่านคงสื่อกับบูรพมหากษัตริย์อย่างสมเด็จพระเจ้าตากสิน และรัชกาลที่ ๕ ก็เป็นได้
รูปครุฑที่หลวงพ่อโอภาสีใช้เป็นครุฑแบกเสมา ภายในเสมามีเครื่องหมายรูป อ.อ่าง หรือบางทีทำเป็นรูปสวัสดิกะ ซึ่งมีความหมายถึงความยิ่งใหญ่เกรียงไกรของพระพุทธศาสนา การประกาศธรรมคำสอนของพระบรมศาสดา หรืออีกประการหนึ่งคือ ถ้าครุฑเปรียบได้กับสถาบันกษัตริย์หรืออำนาจสูงสุดทางโลก ในขณะที่เสมาหมายถึงพระพุทธศาสนา ก็ย่อมมีความหมายว่าสถาบันกษัตริย์ทำหน้าที่อุ้มชูพระบวรพุทธศาสนานั่นเอง ส่วนสวัสดิกะหรือตัว อ.อ่างเปล่งรัศมีนั้นคือความสำเร็จสูงสุดในทางธรรม คือ “พระนิพพาน”
ขอบคุณที่มาจาก เฟซบุ๊ค นักเขียน “ทิพยจักร” / jaruvat ckanposri
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น