พบโครงกระดูกเด็กอายุร่วม 5,700 ปี และน่าจะเป็นชนชั้นสูง

กลายเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจของประเทศตุรกีไปแล้ว เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ที่ผ่านมาสำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศได้มีการออกมารายงานการค้นพบโครงกระดูกเด็กโบราณอายุร่วม 5,700 ปี ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่ส่วนกะโหลกที่ยุบลงไปด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง

โดยร่างของเด็กที่พบนี้ คาดกันว่าเป็นของเด็กอายุราวๆ 6 ปี ผู้ซึ่งเคยมีชีวิตอยู่ใน พื้นที่แหล่งโบราณคดี Arslantepe ในจังหวัด Malatya ทางตะวันออกของประเทศ เมื่อช่วงยุคทองแดงตอนปลาย (ราวๆ 3,600-3,700 ปีก่อนคริสตกาล)

เด็กคนนี้ถูกฝังไว้พร้อมๆ กับเครื่องประดับบนแขนและลำคอ ซึ่งนักโบราณคดีบอกว่าเป็นรูปแบบที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน และชี้ใช้เห็นว่าเด็กที่เสียชีวิตไป น่าจะเคยเป็นหนึ่งในตระกูลขุนนาง หรืออย่างน้อยๆ ก็ชนชั้นสูงมาก่อน

อ้างอิงจากคุณ Marcelle Frangipane ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัย Sapienza แห่งกรุงโรมผู้นำการขุดค้น ในปัจจุบันโครงกระดูกที่พบได้ถูกส่งไปยังห้องทดลองเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิตของเด็กที่พวกเธอพบอย่างเป็นทางการแล้ว

อย่างไรก็ตามในเบื้องต้น จากร่องรอยบนศีรษะของเด็ก นักโบราณคดีก็คาดการว่าตัวเด็กนั้นน่าจะเสียชีวิตจากการบาดเจ็บรุนแรงที่กะโหลกเอง แม้ว่าในปัจจุบันพวกเขาจะยังไม่แน่ใจว่ากะโหลกที่ยุบลงไปนั้นเกิดขึ้นเพราะเหตุใดกันแน่

"นี่คือการค้นพบที่สำคัญมาก และเมื่อการวิเคราะห์โครงกระดูกจบลง พวกเราก็จะสามารถทราบรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงกระดูกต่อไป" คุณ Marcelle กล่าว

ทั้งนี้เองการค้นพบในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการขุดค้นแห่งโบราณคดีหมู่บ้านโบราณ Arslantepe ที่เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังเมื่อ 50 ปีก่อน ซึ่งแห่งโบราณคดีแห่งนี้ ยังมีสถาปัตยกรรมอิฐโคลนที่กินพื้นที่ราวๆ 2,000 ตารางเมตรและคาดกันว่าเป็น "สถานที่สาธารณะ" แห่งแรกโดยองค์การยูเนสโกตั้งอยู่ด้วย