รู้จัก “เก๋งกรงนก” สถานที่อเนกประสงค์ และใช้เลี้ยงนกกลางวังหลวง
ด้านตะวันตก เก๋งมีชื่อว่า "วรเทพสถาน" (ที่เห็นกลางภาพ) เป็นที่สําหรับเสด็จประทับสำราญพระอิริยาบถ
ด้านเหนือ เก๋งมีชื่อว่า "สําราญมุขมาตยา" (ซ้ายมือในภาพ) เป็นที่สำหรับให้ขุนนางผู้ใหญ่พำนักด้านตะวันออก เก๋งมีชื่อ "ราชานุราชอาสน์" เป็นที่ที่พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับเมื่อคอยเฝ้า รัชกาลที่ 4 และต่อมาในต้นรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ใช้เป็นที่ทรงพระอักษรของบรรดาเจ้านาย
ด้านทิศใต้ เก๋งมีชื่อ "วรนาฏนารีเสพ" เป็นที่พักของข้าราชบริพารฝ่ายในที่ตามเสด็จ
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเล่าถึงเก๋งกรงนกไว้ว่า"...ถึงปีมะเมีย เมื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว จึงได้รับคำสั่งให้ออกไปเรียนหนังสือขอม (คือเรียนภาษามคธ) ด้วยกันกับเจ้านายพี่น้องที่เป็นชั้นเดียวกันอีกสักสี่ห้าพระองค์ พระยาปริยัติธรรมธาดา (เปี่ยม) ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้เป็นอาจารย์พระเจ้าลูกเธอ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นต้น มาสอนที่เก๋งกรงนกในเวลาเช้า แต่ 9 จน 11 นาฬิกาทุกวัน เว้นแต่วันพระกับวันโกน..."
อย่างไรก็ตาม กรงนกตรงกลางนั้นคาดว่าถูกรื้อลงไม่นานในตอนต้นรัชกาลที่ 5 โดยคำกราบบังคมทูลของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ แล้วสร้างเก๋งหลังใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นหลังหนึ่ง เพื่อใช้เป็นที่ประชุมปรึกษาราชการ เรียกว่า "เก๋งวรสภาภิรมย์" เป็นเก๋งโถงสามด้าน กั้นเฉลียงด้านใต้เป็นห้องยาวตลอดหลัง มีช่องพระแกล (หน้าต่าง) ตรงพระราชอาสน์เปิดถึงห้องประชุม
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดํารงราชานุภาพ ทรงเล่าว่า แต่เดิมจะให้เป็นห้องลับเพื่อให้รัชกาลที่ 5 เสด็จไปทรงฟังการปรึกษาราชการแผ่นดินเป็นการศึกษา แต่รัชกาลที่ 5 ทรงไม่พอพระราชหฤทัยที่จะเสด็จไปประทับเช่นนั้น จึงจัดให้เป็นสถานที่ให้กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ (วังหน้า) มาประทับคอยเข้าเฝ้า แทนเก๋งด้านตะวันออกที่เปลี่ยนไปเป็นสถานที่ให้เจ้านายทรงพระอักษร
ต่อมาบริเวณเก๋งนี้คงถูกรื้อลงราว พ.ศ. 2425 เมื่อมีการสร้างพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท