
ความจริงเบื้องหลังภาพ “เด็กชายแบกศพน้อง” เรื่องสุดเศร้าจากระเบิดนางาซากิ
หน้าแรกTeeNee    อาหารสมอง  ตำนานโลก    ความจริงเบื้องหลังภาพ “เด็กชายแบกศพน้อง” เรื่องสุดเศร้าจากระเบิดนางาซากิ

ย้อนกลับไปเมื่อราวๆ 75 ปีก่อน ในวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ระเบิดนิวเคลียร์ "Fatman" ได้ถูกทิ้งลงที่เมืองนางาซากิ ปิดฉากสงครามโลกครั้งที่สองลงด้วยการยอมแพ้ของญี่ปุ่นในเวลาถัดมา
ความรุนแรงของเหตุการณ์ในเวลานั้นส่งผลกระทบกับชีวิตของผู้คนอย่างไม่น่าเชื่อ จนทางสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งช่างภาพนามว่า Joe O'Donnell ไปยังนางาซากิเพื่อเก็บข้อมูลเอกสารความเสียหายจากสงครามที่เกิดขึ้น
และก็เป็นที่นั่นที่เข้าได้จับภาพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นภาพในตำนานที่ถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน
ความรุนแรงของเหตุการณ์ในเวลานั้นส่งผลกระทบกับชีวิตของผู้คนอย่างไม่น่าเชื่อ จนทางสหรัฐฯ ตัดสินใจส่งช่างภาพนามว่า Joe O'Donnell ไปยังนางาซากิเพื่อเก็บข้อมูลเอกสารความเสียหายจากสงครามที่เกิดขึ้น
และก็เป็นที่นั่นที่เข้าได้จับภาพเด็กชายคนหนึ่ง ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นภาพในตำนานที่ถูกจดจำไปอีกนานแสนนาน
นี่คือภาพของเด็กชายวัยประมาณ 10 ปีคนหนึ่ง ที่กำลังยืนตรงราวกับได้อิทธิพลมาจากทหาร โดยเขากำลังเม้มริมฝีปากแน่น ราวกับกำลังอดทนต่อความรู้สึกบางอย่างอยู่

และที่บนหลังของเขา ก็มีร่างของเด็กอีกคนหนึ่งถูกแบกเอาไว้อยู่
คุณ Joe O'Donnell ผู้ถ่ายภาพเล่าว่า"ผมเห็นเด็กชายอายุประมาณสิบปีเดินผ่านมาโดยแบกทารกไว้บนหลัง
ในญี่ปุ่นช่วงเวลานั้น เราอาจจะเห็นเด็กๆ วิ่งเล่นโดยแบกน้องๆ ไว้บนหลังอยู่บ่อยๆ
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าเด็กคนนี้ต่างออกไป...
ผมรู้ว่าเขามาที่นี่ด้วยเหตุผลที่ซีเรียสกว่านั้น เขาเดินเท้าเปล่า ใบหน้าจริงจัง เด็กน้อยคอพับราวกับกำลังหลับ
เขายืนนิ่งอยู่อย่างนั้นเกือบๆ 5-10 นาทีได้"

คุณ Joe O'Donnell ผู้ถ่ายภาพ
แน่นอนว่าไม่นานนักความกลัวของคุณ Joe O'Donnell ก็เป็นจริง เด็กชายคนนี้นำร่างไร้วิญญาณของน้องมาให้เจ้าหน้าที่นำไปเผา เช่นเดียวกับประชาชนอีกมากที่ต้องเสียคนรักไปจากสงคราม

แน่นอนว่าไม่นานนักความกลัวของคุณ Joe O'Donnell ก็เป็นจริง เด็กชายคนนี้นำร่างไร้วิญญาณของน้องมาให้เจ้าหน้าที่นำไปเผา เช่นเดียวกับประชาชนอีกมากที่ต้องเสียคนรักไปจากสงคราม
"กลุ่มชายหน้ากากขาว เดินเข้ามาหาเด็กชายและปลดเชือกที่มัดร่างทารกไว้แบบเงียบๆ
มันเป็นในตอนนั้นเองที่ผมรู้ตัวว่าทารกได้สิ้นใจไปแล้ว
พวกเขาจับแขนขาอุ้มร่างทารกไปยังกองเพลิง
ขณะที่เด็กชายได้แต่ยืนตรงมองไปที่ลุกไหม้แบบไม่ไหวติง เพียงแต่กัดริมฝีปากจนเลือดออก
ในตอนที่เปลวเพลิงค่อยๆ มอดลงราวกับตะวันตกดินนั่นเอง เด็กหนุ่มก็หันหลังกลับและเดินจากไป"
Joe O'Donnell รับหน้าที่ถ่ายภาพความเสียหายของสงครามในญี่ปุ่น ตั้งแต่ช่วงปี 1945-1946
ด้วยความที่ภาพนี้จัดเป็นเอกสารที่ได้รับการจัดทำเพื่อรัฐบาล กว่าที่ตัวภาพจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการมันก็ในปี 1989 ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้น เราก็แทบจะไม่เหลือหลักฐานแล้วว่าเด็กคนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไรต่อไป
ว่าสงครามนั้น นำมาเพียงแค่ความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม...
เครดิตแหล่งข้อมูล : catdumb

ด้วยความที่ภาพนี้จัดเป็นเอกสารที่ได้รับการจัดทำเพื่อรัฐบาล กว่าที่ตัวภาพจะถูกเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการมันก็ในปี 1989 ซึ่งกว่าจะถึงเวลานั้น เราก็แทบจะไม่เหลือหลักฐานแล้วว่าเด็กคนนี้เป็นตายร้ายดีอย่างไรต่อไป
เขาอาจจะเสียชีวิตไปแล้วด้วยพิษกัมมันตรังสีจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หรือเขาอาจจะมีชีวิตต่อไปแบบเงียบๆ
แต่ไม่ว่าจะเป็นทางภาพถ่ายของเขาก็จะคงอยู่ต่อไปอีกนานแสนนาน ในฐานะหนึ่งในเครื่องเตือนใจที่ทรงพลังที่สุดว่าสงครามนั้น นำมาเพียงแค่ความสูญเสีย ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน หรือเมื่อไหร่ก็ตาม...
เครดิตแหล่งข้อมูล : catdumb

เครดิต :   
 
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!

 กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
  กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
























 กระทู้ล่าสุด
 กระทู้ล่าสุด


 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
 รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
















































Love illusion ความรักลวงตา เพลงที่เข้ากับสังคมonline
Love illusion Version 2คนฟังเยอะ จนต้องมี Version2กันทีเดียว
Smiling to your birthday เพลงเพราะๆ ไว้ส่งอวยพรวันเกิด หรือร้องแทน happybirthday