อังกฤษ “ปฏิรูป” อะไรในภาพยนตร์เรื่อง “Enola Holmes” ?
ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สะท้อนภาพสังคม การเมือง และเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษในศตวรรษที่ 19 หรือในยุควิกตอเรียน ซึ่งกำลังมีการปฏิรูปทางการเมืองครั้งใหญ่ การปฏิรูปที่ว่านี้เกิดขึ้นใน ค.ศ. 1884 เมื่อมีการผลักดัน พระราชบัญญัติปฏิรูป ค.ศ. 1884 หรือ "Third Reform Act 1884" ซึ่งเป็นกฎหมายที่ขยายสิทธิเลือกตั้งแก่ผู้ใช้แรงงานในภาคเกษตรกรหรือแรงงานรับจ้างในไร่
กฎหมายฉบับนี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ทำให้ชายชาวอังกฤษมีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกราว 2.5 ล้านคน จนอาจกล่าวได้ว่า ชายชาวอังกฤษที่บรรลุนิติภาวะและเป็นเจ้าของหรือเช่าที่อยู่อาศัยมีสิทธิเลือกตั้งได้ทุกคนแล้ว
แต่การปฏิรูปครั้งนี้จะไม่สำเร็จ หากปราศจากการผลักดันการปฏิรูประบอบการเลือกตั้ง 3 ครั้งก่อนหน้านี้ คือ เมื่อ ค.ศ. 1872, ค.ศ. 1867 และ ค.ศ. 1832ส่วนการปฏิรูปใน ค.ศ. 1867 คือมีการผ่าน พระราชบัญญัติปฏิรูป ค.ศ. 1867 หรือ "Second Reform Act 1867" ซึ่งได้รับแรงผลักดันมาจากขบวนการชาร์ติสต์ ซึ่งเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบอบการเลือกตั้งเพิ่มเติมจากการปฏิรูปครั้งแรก โดยพรรคเสรีนิยมพยายามพลักดันกฎหมายขยายสิทธิเลือกตั้งแก่กรรมกรหรือผู้ใช้แรงงานในเขตเมืองบางแห่ง เบื้องต้นพรรคอนุรักษ์นิยมและสมาชิกพรรคเสรีนิยมบางส่วนคัดค้าน แต่ต่อมา พรรคอนุรักษ์นิยมมองเห็นโอกาสที่พรรคจะได้ประโยชน์เช่นกัน จึงสนับสนุนและช่วยผลักดันผ่านพระราชบัญญัติฉบับนี้จนสำเร็จ
พระราชบัญญัติปฏิรูป ค.ศ. 1867 มีสาระสำคัญคือ ปรับปรุงเขตเลือกตั้งใหม่ให้เหมาะสมกับจำนวนประชากร เขตเลือกตั้งที่เล็กอาจถูกเพิกถอนการส่งผู้แทนเข้าสภา และลดคุณสมบัติโดยเฉพาะเงื่อนไขเรื่องทรัพย์สินลง จึงส่งผลให้ขยายสิทธิเลือกตั้งแก่กรรมกรหรือผู้ใช้แรงงานในเขตเมืองบางแห่ง ทำให้ชายชาวอังกฤษมีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกราว 2 ล้านคน
ย้อนกลับไปที่การปฏิรูประบอบการเลือกตั้งครั้งแรก หรือที่เรียกว่า "Great Reform Act" อังกฤษได้พยายามผ่าน พระราชบัญญัติปฏิรูป ค.ศ. 1832 นับเป็นกฎหมายปฏิรูประบอบการเลือกตั้งของอังกฤษฉบับแรกนับตั้งแต่ยุคกลาง
การเลือกตั้งของอังกฤษในยุคนั้น หรือตลอดช่วงศตวรรษก่อนหน้านี้ยังไม่มีความเป็นประชาธิปไตยเท่าใดนัก รัฐสภาซึ่งประกอบไปด้วยสภาขุนนาง มีสมาชิกเป็นพวกขุนนาง ชนชั้นสูง นักบวช โดยตำแหน่งสืบทอดในตระกูล หรือกษัตริย์ทรงแต่งตั้ง และสภาสามัญ มีสมาชิกเป็นพวกผู้ประกอบอาชีพต่าง ๆ คหบดี นักธุรกิจ โดยได้รับการเลือกตั้งจากผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งเป็นชายชาวอังกฤษจำนวนหนึ่งที่มีคุณสมบัติตามกำหนด
ปัญหาการเลือกตั้งมาจากกฎหมายที่ไม่สอดคล้องกับสภาพสังคม การเมือง และเศรษฐกิจ ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของประเทศ เช่น ในเขตคอร์นวอลล์มีสมาชิกสภาได้ถึง 44 คน ขณะที่กรุงลอนดอน ซึ่งมีประชากรจำนวนมาก กลับมีสมาชิกสภาได้เพียง 4 คน แม้แต่เมืองที่พึ่งเติบโตเป็นอุตสาหกรรมใหญ่อย่าง แมนเชสเตอร์ ลีดส์ เบอร์มิงแฮม กลับไม่มีสิทธิส่งสมาชิกสภา
นอกจากนี้ ผู้แทนหลายคนมาจากเขตเลือกตั้งที่เรียกว่า เขตเลือกตั้งเน่า หรือ "Rotten borough" ซึ่งบางพื้นที่มีประชากรน้อย หรือเป็นพื้นที่เกษตรกรรม หรือเป็นพื้นที่ที่ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนแทบไม่เหลือ แต่มีสิทธิส่งผู้แทนได้ และผู้แทนบางคนมาจาก เขตเลือกตั้งกระเป๋า หรือ "Pocket borough" ซึ่งอยู่ใต้อิทธิพลของขุนนางหรือเจ้าที่ดินรายใหญ่ดูแลเขตเลือกตั้งนั้น ๆ
นี่จึงนำมาสู่การปฏิรูปใน ค.ศ. 1832
ชาร์ลส์ เกรย์ เอิร์ลเกรย์ ที่ 2 นายกรัฐมนตรีจากพรรคเสรีนิยมพยายามผลักดันกฎหมายการปฏิรูประบอบการเลือกตั้ง เพื่อขยายสิทธิเลือกตั้งแก่กลุ่มพ่อค้าและนักอุตสาหกรรม แต่ร่างพระราชบัญญัติปฏิรูปถูกสภาขุนนางปฏิเสธถึง 2 ครั้ง นำไปสู่การเคลื่อนไหวเรียกร้องให้มีการปฏิรูปทั่วประเทศ มีการจลาจลต่อต้านรุนแรงหลายแห่ง ในที่สุดพระเจ้าวิลเลียมที่ 4 กษัตริย์อังกฤษ จึงทรงหาทางช่วยเหลือแก้ไข โดยทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาขุนนางสายพรรคเสรีนิยมเพิ่มเข้าไปอีก 50 คน ที่สุดจึงผ่านพระราชบัญญัติฉบับนี้จนสำเร็จ
เป็นผลให้มีการปรับปรุงเขตเลือกตั้งให้สอดคล้องเหมาะสมกับจำนวนประชากร ยุบเขตเลือกตั้งที่ไม่เหมาะสม ขยายสิทธิเลือกตั้งแก่ชายชาวอังกฤษ ลดคุณสมบัติโดยเฉพาะเงื่อนไขเรื่องทรัพย์สินลง ส่งผลให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพิ่มขึ้นอีกราว 2.5 แสนคน พระราชบัญญัติฉบับนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ขยายอำนาจทางการเมืองจากชนชั้นสูงไปสู่ชนชั้นกลาง ดังที่กล่าวไปแล้วในการปฏิรูป ใน ค.ศ. 1867 และ ค.ศ. 1884
การปฏิรูประบอบการเลือกตั้งในช่วงศตวรรษที่ 19 นี้ แน่นอนว่า ยังคงจำกัดสิทธิเลือกตั้งเฉพาะชายชาวอังกฤษ แต่ยังมีชายอีก 40% ที่ยังไม่มีสิทธิเลือกตั้งเพราะยังขาดคุณสมบัติโดยเฉพาะเงื่อนไขเรื่องทรัพย์สิน
ในภาพยนตร์ "Enola Holmes" ได้สะท้อนภาพฝ่ายที่ต่อต้านและสนับสนุนการปฏิรูปใน ค.ศ. 1884 อย่างเช่น Mycroft Holmes พี่ชายคนโต ได้พูดกับ Sherlock ถึงการปฏิรูปดังกล่าวว่า "ปฏิรูป พระเจ้าช่วยเราด้วย ถ้ามันมีอะไรสักอย่างที่ประเทศเราไม่ต้องการ ก็คือการเพิ่มขึ้นของคนมีสิทธิออกเสียงที่ไร้การศึกษานี่แหละ อังกฤษจะวายวอดแน่"และตัวละครที่สนับสนุนการปฏิรูปอย่าง Edith ซึ่งเธอต้องการเห็นสังคมในอนาคตดีกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เธอจึงสนับสนุนการปฏิรูปเพื่อขยายสิทธิเลือกตั้งให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
ในตอนที่ Sherlock ออกตามหาตัว Enola เขามาสืบข่าวจาก Edith จนได้ทราบ "ภารกิจ" บางอย่างที่เธอกำลังเตรียมการอยู่เพื่อเป็นแรงผลักดันการผ่านกฎหมายฉบับนี้ จน Sherlock ได้ใช้คำพูดกระทบความรู้สึกของ Edith เธอจึงบอกกับเขาว่า "คุณไม่เข้าใจหรอกว่า การไม่มีอำนาจมันเป็นยังไง คุณไม่สนใจการเมือง ทำไม?"
"เพราะมันน่าเบื่อที่สุด" Sherlock ตอบ Edith จึงบอกเขาว่า "เพราะคุณไม่สนใจที่จะเปลี่ยนแปลงโลกที่คุณอยู่สุขสบายดีอยู่แล้ว"
ในภาพยนตร์ไม่ได้อธิบายว่า Edith สนับสนุนให้ขยายสิทธิเลือกตั้งแก่หญิงชาวอังกฤษหรือไม่ แต่ Edith มีแนวคิดสนับสนุนสิทธิของสตรีแน่นอนโดยไม่ต้องสงสัย ซึ่งกว่าที่หญิงชาวอังกฤษจะมีสิทธิเลือกตั้งนั้น ก็หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยุติ เมื่อ ค.ศ. 1918 หรือ 34 ปี ให้หลังจากเหตุการณ์ในภาพยนตร์เรื่อง "Enola Holmes"เครดิตแหล่งข้อมูล : silpa-mag.com