แกงเทโพ อาหารคุ้นเคยที่ทำจากปลาเทโพ ความอร่อยที่ร. 2 พระราชนิพนธ์ถึง
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง ตำนานโลก แกงเทโพ อาหารคุ้นเคยที่ทำจากปลาเทโพ ความอร่อยที่ร. 2 พระราชนิพนธ์ถึง
เทโพ เป็นชื่ออาหารคือ แกงเทโพ และชื่อปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง คือ ปลาเทโพ ซึ่งสัมพันธ์กันเนื่องจาก ปลาเทโพที่ท้องปลามีมันมาก นำมาปรุงเป็นแกงเทโพแล้วจะทำให้อร่อยกว่าใช้ปลาหรือเนื้อสัตว์ชนิดอื่น
เมื่อ พ.ศ. 2466 สองนักวิชาการประมงคนสำคัญ คือ ดร. ฮิวจ์ แมคคอร์มิค สมิธ (Hugh McCormick Smith) เป็นนักวิชาการประมงชาวอเมริกัน ที่เคยรับราชการในไทย และเป็นอธิบดีกรมประมงคนแรก กับหลวงมัศยจิตรการ (ประสพ ตีระนันท์) มีความรู้และความสามารถในการวาดภาพปลาที่ดีเยี่ยม ผลงานจึงมีคุณค่าทั้งทางวิชาการและศิลปะ ได้ออกสำรวจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปลาในประเทศไทย
การสำรวจดังกล่าวมี ดร.สมิธ เป็นหัวคณะ หลวงมัศยจิตรการเป็นผู้ช่วย และเป็นผู้วาดภาพเก็บรายละเอียดสีสันของปลาในขณะที่ยังสดหรือมีชีวิตอยู่ แทนการบันทึกภาพด้วยกล้องที่เวลานั้นยังไม่มีใช้ รวบรวมข้อมูลปลา 107 ชนิด หนึ่งในจำนวนนั้นคือ ปลาเทโพ ที่บันทึกไว้ดังนี้
ปลาเทโพ Pangasius larnaudii (Bocourt)
ขนาดใหญ่ที่เลี้ยงไว้ยาวประมาณ 130 เซนติเมตร
ส่วนแกงเทโพนั้น ใน กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ตอนหนึ่งกล่าวถึงแกงเทโพว่า
เทโพ พื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์
สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง อธิบายถึงแกงเทโพสรุปความโดยสังเขปว่า เป็นแกงประเภทแกงชักส้ม เครื่องแกงประกอบด้วยพริกแห้ง, ตระไคร้, ข่า, รากผักชี, พริกไทย, หอม, กระเทียม, เกลือ, กะปิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำส้มมะขาม, น้ำตาล ส่วนเนื้อสัตว์ที่ใส่มักเป็นปลาเทโพ ผักที่ใส่มักเป็นผักบุ้งไทยเท่านั้นจึงจะเข้ากัน บางครั้งจึงเรียก แกงเทโพ ว่า แกงเทโพยอดผักบุ้ง แต่ปัจจุบันปลาเทโพหายากมากขึ้น จึงมักใช้หมูสามชั้นแทนปลา จึงเรียกว่า แกงหมูเทโพ
แต่ชื่อปลาเทโพกับชื่อแกงเทโพนั้น ใครมีมาก่อนกันไม่มีหลักฐานชัดเจน
เมื่อ พ.ศ. 2466 สองนักวิชาการประมงคนสำคัญ คือ ดร. ฮิวจ์ แมคคอร์มิค สมิธ (Hugh McCormick Smith) เป็นนักวิชาการประมงชาวอเมริกัน ที่เคยรับราชการในไทย และเป็นอธิบดีกรมประมงคนแรก กับหลวงมัศยจิตรการ (ประสพ ตีระนันท์) มีความรู้และความสามารถในการวาดภาพปลาที่ดีเยี่ยม ผลงานจึงมีคุณค่าทั้งทางวิชาการและศิลปะ ได้ออกสำรวจเก็บข้อมูลเกี่ยวกับปลาในประเทศไทย
การสำรวจดังกล่าวมี ดร.สมิธ เป็นหัวคณะ หลวงมัศยจิตรการเป็นผู้ช่วย และเป็นผู้วาดภาพเก็บรายละเอียดสีสันของปลาในขณะที่ยังสดหรือมีชีวิตอยู่ แทนการบันทึกภาพด้วยกล้องที่เวลานั้นยังไม่มีใช้ รวบรวมข้อมูลปลา 107 ชนิด หนึ่งในจำนวนนั้นคือ ปลาเทโพ ที่บันทึกไว้ดังนี้
ปลาเทโพ Pangasius larnaudii (Bocourt)
ปลาเทโพเป็นปลาไม่มีเกล็ดขนาดใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นที่รู้จักกันทั่วไป และมีชุกชุมในลำน้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำติดต่อของภาคกลางที่กรุงเทพฯ, นนทบุรี, อยุธยา ลพบุรี และแม่น้ำแม่กลอง ที่บ้านโป่ง
รูปร่างของปลาเทโพคล้ายกับปลาสวาย ซึ่งเป็นปลาในสกุลเดียวกัน แต่ปลาเทโพจะมีจุดดำเหนือครีบอก มีหลังเป็นสีน้ำเงินปนเทา หัวเขียวอ่อน ช่วงท้องเป็นสีเงิน
เพราะเนื้ออร่อย มีผู้ชอบรับประทานกันมาก จนได้ชื่อว่า แกงเทโพ ปลานี้สามารถอยู่ในเนื้อที่จำกัดได้ จึงมีผู้นำมาเลี้ยงในบ่อสำหรับขาย แต่ไม่ปรากฎว่ามันวางไข่ในบ่อ ข้อนี้ยีงมีผู้สงสัยขนาดใหญ่ที่เลี้ยงไว้ยาวประมาณ 130 เซนติเมตร
ส่วนแกงเทโพนั้น ใน กาพย์เห่เรือชมเครื่องคาวหวาน พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ตอนหนึ่งกล่าวถึงแกงเทโพว่า
เทโพ พื้นเนื้อท้อง เป็นมันย่องล่องลอยมัน น่าซดรสครามครัน ของสวรรค์เสวยรมย์
สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง อธิบายถึงแกงเทโพสรุปความโดยสังเขปว่า เป็นแกงประเภทแกงชักส้ม เครื่องแกงประกอบด้วยพริกแห้ง, ตระไคร้, ข่า, รากผักชี, พริกไทย, หอม, กระเทียม, เกลือ, กะปิ ปรุงรสด้วยน้ำปลา, น้ำส้มมะขาม, น้ำตาล ส่วนเนื้อสัตว์ที่ใส่มักเป็นปลาเทโพ ผักที่ใส่มักเป็นผักบุ้งไทยเท่านั้นจึงจะเข้ากัน บางครั้งจึงเรียก แกงเทโพ ว่า แกงเทโพยอดผักบุ้ง แต่ปัจจุบันปลาเทโพหายากมากขึ้น จึงมักใช้หมูสามชั้นแทนปลา จึงเรียกว่า แกงหมูเทโพ
แต่ชื่อปลาเทโพกับชื่อแกงเทโพนั้น ใครมีมาก่อนกันไม่มีหลักฐานชัดเจน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น