หลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับ แซ่ที่แท้จริงของ กวนอู

หลักฐานต่าง ๆ เกี่ยวกับ แซ่ที่แท้จริงของ กวนอู :

เหมาเจ๋อตงเคยพูดกับจางจื้อจง ว่า "โจโฉไม่ได้แซ่โจ กวนอูไม่ได้แซ่กวน (曹操并不姓曹，关羽并不姓关)" ข้อความจากหนังสือ "จางจื้อจงกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน (张治中与中国共产党)"
เรื่องแซ่ที่แท้จริงของกวนอู(关羽) ปัจจุบันก็ยังเป็นที่ถกเถียงไม่รู้จบ วันนี้ ผมจะนำเสนอให้ทุกท่านได้ทราบกัน

ใน "บันทึกยุคสามก๊ก (三国志) บรรพ ชีวประวัติกวนอู (关羽传)" เอ่ยว่า
"กวนอู (关羽 : กวนอวี้) ชื่อรองหุนเตียน (云长 : อวิ๋นฉาง) ชื่อรองเดิม ฉางเซิง (长生) เป็นคนอำเภอเจี่ย เมืองเหอตง (河东郡解县) หนีภัยสงครามมาถึงเมืองจัว (涿郡) เล่าปี่ (刘备) รับสมัครทหารที่บ้านเกิด กวนอู และเตียวหุย (张飞) เป็นผู้คุ้มกันให้เล่าปี่

หลังจากเล่าปี่ได้เป็นเจ้าเมืองผิงหยวน (平原郡) กวนอูและเตียวหุยได้เป็น ผู้นำทหารหน่วยพิเศษ (别部司马) รับผิดชอบกองทัพที่ได้รับ

เล่าปี่ กวนอู เตียวหุยนอนร่วมเตียงเดียวกัน สนิทเหมือนพี่น้องแท้ ๆ กวนอู และเตียวหุยมักจะอยู่ข้างกายเล่าปี่เมื่ออยู่ที่ชุมชน และติดตามเล่าปี่ออกทำศึก โดยไม่กลัวหรือหลบหนีความยากลำบากและอันตราย..."

จากบันทึกยุคสามก๊ก ก็ไม่ได้บอกว่า กวนอูก่อนไปอยู่กับเล่าปี่ มีที่มาที่ไปอย่างไร รวมถึงไม่ได้ระบุแซ่อีกด้วย เพราะ ปกติ บันทึกประวัติศาสตร์จีนมักจะระบุแซ่ตระกูลเอาไว้ชัดเจน

"บันทึกเบ็ดเตล็ดเมื่อกลับสู่นา (归田琐记) บรรพ พงศาวดารสามก๊ก (三国演义)" ของเหลียงจางจวี้ (梁章巨) สมัยราชวงศ์ชิง ระบุว่า

"เรื่องเล่ากวนซี ว่า กวนอูเป็นชาวอำเภอเซี่ยเหลียง (解梁) เมืองผูโจว(蒲州) เดิมไม่ได้แซ่กวน วัยเยาว์มีกำลังความกล้ามาก ไม่ชอบการผูกมัด บิดามารดาโกรธจึงขังเขาไว้ในบ้าน คืนหนึ่ง กวนอูพังหน้าต่างออกมา และได้ยินหญิงสาวและชายแก่หันหน้ากันร้องไห้ เมื่อไปสอบถามจึงได้ความว่า ลูกสาวถูกน้าชายนายอำเภอบีบคั้นให้ไปเป็นนางบำเรอ กวนอูฟังจบจึงบุกเข้าจวนนายอำเภอสังหารน้าชายนายอำเภอและหลบหนีไป เมื่อถึงด่านถงกวน (潼关)เห็นประตูด่านแขวนภาพประกาศจับ จึงนั่งที่ริมน้ำ กวักน้ำล้างหน้า เมื่อส่องใบหน้าตนบนน้ำ กลับเห็นว่า หน้าของตนเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม ไม่มีใครจำได้อีก เมื่อต้องยืนยันตัวที่ด่านถูกนายด่านถามชื่อ จึงเผลอชี้ไปที่ "ด่าน (关 : กวน)" เป็นแซ่ตน..."

แม้ว่า ในหนังสือชุดนี้จะบอกที่มาที่ไปของแซ่กวนอู ทว่ายังไม่เอ่ยว่า กวนอูมีแซ่ว่าอะไร
ต่อมา ในหนังสือ " ชิงยินเซี่ยวจี๋ (清音小集)" เป็นหนังสือรวมบทเพลงอุปรากรในสมัยราชวงศ์ชิง ระบุว่า "กวนอู แซ่เฝิง (冯) ชื่อ เสียน (贤) ชื่อรองโซ่วฉาง (寿长)"

ใน "ประชุมวรรณกรรมประวัติศาสตร์จีนโบราณ (中国古代历史小说考)" ก็ระบุเช่นกันว่า กวนอูนั้นมีแซ่ว่า เฝิง

ใน "ประวัติสกุลเฝิงแห่งชาติจีน (中华冯氏史典)" ของเฝิงปัง (冯邦) ระบุว่า กวนอูนั้นแซ่เฝิง (冯)
ใน "ประวัติต้นเกิดตระกูลเฝิงของจีน (中华冯氏源流史)" ก็ระบุว่ากวนอูแซ่เฝิง เพื่อหลบหนีการจับกุมจึงชกจมูกให้เลือดออก และนำเลือดมาทาหน้าให้แดง และแสร้งบ้าแสร้างโง่เพื่อให้นายด่านถงกวนปล่อยผ่าน ๆ ไป เมื่อนายด่านถามชื่อแซ่ จึงชี้ "ด่าน(กวน)" เป็นแซ่ ขณะนั้นมีขนนกร่วงหล่นจากฟ้า จึงใช้ "อู (羽 ; อวี้ : ขนนก)"เป็นชื่อ จึงใช้ชื่อว่า กวนอู (关羽) ตั้งแต่นั้นมา...

หนังสือทั้ง 4 เล่มต่างบอกว่า กวนอู มีแซ่เดิมว่า เฝิง ทว่าก็ยังยากตรวจสอบหรือใช้อ้างอิงเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้ ด้วยส่วนใหญ่ ถ้าไม่มาจากบทเพลงอุปรากร ก็จะมาจากคำร่ำลือของชาวบ้านปากต่อปาก หรือไม่ก็จาก คนสกุล "เฝิง" ให้การ

ณ ตอนนี้ มีผู้ศึกษาหลายท่าน อ้างถึง หลักฐานแซ่ของกวนอู อีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งพวกเขาต่างยึดเป็นบรรทัดฐาน โดยหนังสือที่ใช้อ้าง มีชื่อว่า "บันทึกป้ายสุสานเจ้าพระยาแซ่กวน (关侯祖墓碑记)" ของ จูตั้น (朱旦) เจ้าเมืองเซี่ยโจว (解州) มณฑลซานซี (山西) สมัยคังซีฮ่องเต้ ราชวงศ์ชิง ระบุว่า
"ปู่มีชื่อว่า กวนเสิ่น (关审) ชื่อรองเหวินจือ (问之) เกิดรัชศกหย่งหยวน (永元) ปีที่ 2 (ตรงกับ ค.ศ 90) รัชกาลฮั่นเหอตี้ (汉和帝) เป็นคนเคร่งครัดในคุณธรรมความดี มักถ่ายทอดตำราอี้จิง (易) และชุนชิว (春秋)ให้บุตร ถึงรัชศกหย่งโซ่ว(永寿)ปีที่ 3 (ตรงกับค.ศ. 157) รัชกาลฮั่นหวนตี้ (汉桓帝) จึงเสียชีวิต อายุได้ 68 ปี

บิดาชื่อ กวนอี้ (关毅) ชื่อรอง เต้าหยวน (道远 ) เป็นบุคคลที่มีความกตัญญูมาก
กวนอูเกิดในปีรัชศกเหยียนซี (延熹) ปีที่ 3 (ตรงกับ ค.ศ. 160) เดือน 6 วันที่ 24 (ตามปฏิทินจันทรคติ) รัชกาลฮั่นหวนตี้ (汉桓帝)

เมื่อเติบใหญ่ได้แต่งงานกับนางแซ่หู (胡氏) เกิดบุตรชายชื่อ กวนเป๋ง (关平) ในปีรัชศกกวงเหอ(光和) ปีอู้อู่ (戊午ตรงกับค.ศ. 178) เดือน 5 วันที่ 13 รัชกาลฮั่นเลนเต้ (汉灵帝)..."ทว่า ที่กล่าวอ้างนี้ ไม่สามารถตามหาตัวเล่ม หรือเนื้อหาที่ใช้อ้างได้ชัดเจน

ที่พูดถึงหนังสือนี้ ก็มีแต่ หยิงเหลียนฉงฮั่ว (楹联丛话) บรรพ บวงสรวงศาลเจ้า (庙祀) ภาคต้น ของ เหลียงจางจวี้ (梁章钜) [ คนเดียวกักันกับที่เขียน "บันทึกเบ็ดเตล็ดเมื่อกลับสู่นา (归田琐记)" ] เท่านั้น ที่มีเอ่ยถึงเนื้อหาใน "บันทึกป้ายสุสานเจ้าพระยาแซ่กวน (关侯祖墓碑记)"

เครดิตแหล่งข้อมูล : FB เรื่องเล่าประวัติศาสตร์จีน