เปิดแฟ้มผู้สังหารทารกกว่า 100 ศพ กับเหตุผลไม่อยากให้เจอโลกโหดร้าย
ย้อนกลับไปในปี 1945 ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นหลังพ่ายแพ้สงครามโฃก มีฆาตกรต่อเนื่องได้ถือกำเนิดขึ้นในเวลานั้น
ข่าวนี้ได้สร้างความสะเทือนใจไปทั่วประเทศเมื่อมีการค้นพบความจริงของเหยื่อที่มีมากกว่า 100 ชีวิต และทุกคนล้วนแต่เป็น "เด็กทารก"ผู้คนในเมืองต่างหวาดวิตก และความกลัวนี้ยิ่งกระจายตัวในวงกว้างหลังมีการพบศพเด็กทารกอีก 40 รายในบริเวณใกล้เคียง และอีกราว 30 รายที่วัดใกล้ๆ
เนื่องด้วยในเวลานั้นยังไม่มีเทคโนโลยีที่จะช่วยในการติดตามจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด จึงมีการรายงานว่าศพของทารกขั้นต่ำน่าจะอยู่ที่ 85 ราย และอาจมีมากถึง 169 ราย
อย่างไรก็ตามในภายหลังมีการระบุข้อมูลใหม่ว่า จำนวนที่น่าจะเป็นไปได้ที่สุดคือ 103 ราย
ผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า "Miyuki Ishikawa" ผดุงครรภ์ผู้มีหน้าที่คือช่วยให้เด็กหลายคนคลอดออกมาอย่างปลอดภัยด้วยความชำนาญและประสบการณ์ที่มี ในไม่ช้าเธอก็ได้กลายเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลโคโตบุกิ สถานที่เกิดเหตุการณ์อันน่าสลดใจในเวลาต่อมา
Miyuki นั้นแต่งงานแล้ว แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจหลังสงครามโลกที่ทรัพยากรขาดแคลน คนตกงาน รวมถึงอาหารที่ต้องแย่งชิง ทำให้เธอกับสามีไม่ได้มีลูกด้วยกันด้วยเหตุนี้ Miyuki จึงได้ตัดสินใจว่า แทนที่จะให้เด็กๆ เหล่านั้นต้องเติบโตพร้อมชีวิตที่หิวโหยและยากลำบาก สู้ให้เธอทำให้พวกเขาจากไปอย่างสงบไม่ดีกว่าหรือ? นี่ไม่ใช่การทำบุญเพื่อปลดความทุกข์ยากให้กับพวกเขาหรอกหรือ?
Miyuki เริ่มลงมือก่อเหตุร่วมกับสามีและผู้ช่วยของเธอในเวลาต่อมา วิธีการที่ใช้คือการปล่อยให้ทารกเหล่านั้นอดน้ำอดอาหาร และละเลยจนกระทั่งเสียชีวิต
เรื่องนี้พยาบาลคนอื่นๆ ต่างรู้กันดี แต่เมื่อแจ้งไปยังรัฐบาลท้องถิ่น พวกเขากลับเพิกเฉย จนทำให้พวกเธอหลายคนทำในรับไม่ได้ และในที่สุดก็ลาออกไป
หลังสังหารทารก สามีของ Miyuki จะเรียกเก็บเงินจากพ่อแม่ของเด็กเหล่านั้นโดยอ้างว่า "การตายของเด็กที่ถูกปิดเงียบ ถูกกว่าค่าเลี้ยงดูที่พวกเขาต้องจ่ายเสียอีก"
Shiro Nakayama ผู้ช่วยของ Miyuki จะทำทีเป็นตรวจหาสาเหตุของการเสียชีวิต และกลบเกลื่อนเหตุฆาตกรรมให้อย่างแนบเนียนด้วยการปลอมใบมรณบัตรขึ้นมา
ระหว่างการพิจารณาคดี Miyuki ได้โต้แย้งข้อกล่าวหาว่า สิ่งที่เธอทำนั้นไม่ใช่ความผิดแต่เป็นการช่วยเหลือ และพ่อแม่ที่ทอดทิ้งลูกๆ ควรเป็นผู้ต้องรับผิดชอบต่อการตายของพวกเขา
เธอกล่าวถึงอนาคตที่ไร้ความหวังของเด็กๆ และเหตุผลที่ตัดสินใจลงมือสังหารก่อนที่เด็กเหล่านั้นจะต้องเติบโตมาพร้อมความยากลำบาก สิ่งนี้ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกเห็นใจและให้การสนับสนุน Miyuki ในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม มีนักวิจารณ์หลายคนรู้สึกไม่เห็นด้วย เนื่องจากสถานะทางการเงินของ Miyuki นั้นเรียกได้ว่ามั่งคั่งจากการเรียกเก็บเงินจากครอบครัว อีกทั้งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายของญี่ปุ่นไม่ได้คุ้มครองชีวิตของเด็กทารกมากเท่าที่ควรคดีสะเทือนขวัญที่มีทารกถูกสังหารมากกว่า 100 ศพได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ หลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ จึงทำให้รัฐบาลของญี่ปุ่นพิจารณาการร่างกฎหมายทำแท้ง เพื่อลดจำนวนเด็กที่เกิดจากความไม่พร้อม
ในวันที่ 13 กรกฎาคม ปี 1948 ได้มีการจัดตั้งกฎหมายคุ้มครองยูเจนิก (ปัจจุบันคือกฎหมายคุ้มครองร่างกายของมารดา) และระบบการตรวจสอบแห่งชาติสำหรับการผดุงครรภ์
ต่อมาในวันที่ 24 มิถุนายน ปี 1949 ได้มีการตรากฎหมายว่าด้วยการทำแท้งที่ถูกต้อง (จากเหตุผลทางเศรษฐกิจ) ภายใต้กฎหมายคุ้มครองยูจีนิกในญี่ปุ่นเครดิตแหล่งข้อมูล : catdumb