ขนมค้างคาว ของว่างที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา
.
ขนมค้างคาว เป็นเมนูของว่างสุดประณีตที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยจะเป็นแป้งทอดกรอบสอดไส้ที่ทำจากกุ้งขาวผัดกับมะพร้าว เครื่องปรุงและหัวกะทิ
.
ขนมค้างคาวมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คนที่คิดประดิดประดอยทำขนมค้างคาวขึ้นมาก็คือ "เจ้าครอกทองอยู่" เจ้านายสตรีในสมัยนั้น ว่ากันว่าความอร่อยนั้นเป็นที่เลื่องลือกันอย่างมาก ถึงขนาดที่มีคำพูดติดปากกันเลยว่า ‘ขนมค้างคาวเจ้าครอกทองอยู่ ขนมไส้หมูเจ้าครอกวัดโพธิ์'
.
ซึ่งทั้งเจ้าครอกทองอยู่ และเจ้าครอกวัดโพธิ์ ต่างก็มีฝีมือในการทำอาหารเก่งกาจไม่แพ้กัน และสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก ล่วงเลยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 ทั้งสองพระองค์ก็มักจะนัดกันทำเครื่องเสวยมาถวายอยู่เสมอ ทำให้ขนมค้างคาวนี้ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องว่างทรงโปรดของรัชกาลที่ 2
.
แล้วทำไมถึงเรียกว่าขนมค้างคาว?
.
ก็เพราะว่าตอนปั้นแป้ง ต้องบรรจงปั้นให้เป็นลักษณะสามเหลี่ยมพิรามิดจับจีบอย่างประณีต มองดูคล้ายค้างคาวตอนห้อยหัวแล้วใช้ปีกสองข้างห่อตัวไว้ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อขนมค้างคาวนี่เอง
.
ต่อมาในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ เจ้าของตำราแม่ครัวหัวป่าก์ ได้ดัดแปลงสูตรโดยใช้เผือกนึ่งผสมลงไปในแป้งด้วย ทำให้ตอนเคี้ยวมีรสชาติหอมของเผือก สลับกับไส้กุ้งผัดมะพร้าวหอมๆ ที่ใครกินก็ต้องติดใจ ในภายหลังจึงนิยมเรียกกันว่าขนมค้างคาวเผือก หรือค้างคาวเผือก
เครดิตแหล่งข้อมูล : FBจานโปรด
ขนมค้างคาว เป็นเมนูของว่างสุดประณีตที่มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยจะเป็นแป้งทอดกรอบสอดไส้ที่ทำจากกุ้งขาวผัดกับมะพร้าว เครื่องปรุงและหัวกะทิ
.
ขนมค้างคาวมีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา คนที่คิดประดิดประดอยทำขนมค้างคาวขึ้นมาก็คือ "เจ้าครอกทองอยู่" เจ้านายสตรีในสมัยนั้น ว่ากันว่าความอร่อยนั้นเป็นที่เลื่องลือกันอย่างมาก ถึงขนาดที่มีคำพูดติดปากกันเลยว่า ‘ขนมค้างคาวเจ้าครอกทองอยู่ ขนมไส้หมูเจ้าครอกวัดโพธิ์'
.
ซึ่งทั้งเจ้าครอกทองอยู่ และเจ้าครอกวัดโพธิ์ ต่างก็มีฝีมือในการทำอาหารเก่งกาจไม่แพ้กัน และสนิทสนมกันเป็นอย่างมาก ล่วงเลยมาจนถึงสมัยรัชกาลที่ 2 ทั้งสองพระองค์ก็มักจะนัดกันทำเครื่องเสวยมาถวายอยู่เสมอ ทำให้ขนมค้างคาวนี้ได้กลายมาเป็นหนึ่งในเครื่องว่างทรงโปรดของรัชกาลที่ 2
.
แล้วทำไมถึงเรียกว่าขนมค้างคาว?
.
ก็เพราะว่าตอนปั้นแป้ง ต้องบรรจงปั้นให้เป็นลักษณะสามเหลี่ยมพิรามิดจับจีบอย่างประณีต มองดูคล้ายค้างคาวตอนห้อยหัวแล้วใช้ปีกสองข้างห่อตัวไว้ ก็เลยเป็นที่มาของชื่อขนมค้างคาวนี่เอง
.
ต่อมาในสมัยปลายรัชกาลที่ 5 ท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงศ์ เจ้าของตำราแม่ครัวหัวป่าก์ ได้ดัดแปลงสูตรโดยใช้เผือกนึ่งผสมลงไปในแป้งด้วย ทำให้ตอนเคี้ยวมีรสชาติหอมของเผือก สลับกับไส้กุ้งผัดมะพร้าวหอมๆ ที่ใครกินก็ต้องติดใจ ในภายหลังจึงนิยมเรียกกันว่าขนมค้างคาวเผือก หรือค้างคาวเผือก
เครดิตแหล่งข้อมูล : FBจานโปรด
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!