“Barber pole” คืออะไร ทำไมต้องอยู่หน้าร้านตัดผม?

เวลาไปร้านตัดผมทีไร เรามักจะได้เห็นสิ่งของอย่างหนึ่งที่ติดไว้อยู่หน้าร้าน มีสีแดงขาวน้ำเงินหมุนไปมา พร้อมกับแสงไฟที่สาดส่องให้คนอยากเข้าไปใช้บริการ
.
หลายคนอาจจะคิดว่ามันคือของตกแต่งที่เอาไว้ให้คนเห็นร้านได้ง่ายขึ้น เรียกลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ แต่ที่จริงแล้ว "Barber pole" มีความสำคัญมากกว่านั้น
.
ก่อนจะกลายมาเป็น "Barber pole" ที่เราเห็นในปัจจุบัน ที่จริงแล้วเจ้าสิ่งนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเสาที่อยู่ในร้านทำผม
.
ในอดีต ช่างตัดผมสามารถทำฟันหรือผ่าตัดเหมือนกับทันตแพทย์หรือศัลยแพทย์ได้ รวมถึง "การเจาะเลือดออก" ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่างทำผมให้บริการ
.
สมัยก่อนเชื่อว่าการเจาะเลือดออก ถือเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คนที่เจ็บป่วยหายจากโรคภัย เดิมที พระและนักบวชจะเป็นผู้ทำการรักษานี้เป็นหลัก จนเข้า ค.ศ. 1163 คริสตจักรมีคำสั่งให้พวกเขาเลิกเจาะเลือดออกให้ผู้อื่น การเจาะเลือดเพื่อรักษาจึงกลายมาเป็นหน้าที่ของช่างตัดผมโดยปริยาย
.
เหล่าช่างทำผมจะให้บริการกับกลุ่มคนที่ไม่ค่อยมีเงินนัก เมื่อพวกเขาเข้ามาในร้าน ช่างก็จะให้พวกเขาใช้มือบีบที่เสาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด โดยเสาต้นนั้นจะมีผ้าสำหรับการเจาะเลือด ผืนหนึ่งเอาไว้เช็ดเลือดจนมีสีแดง ส่วนอีกผืนหนึ่งที่มีสีขาวสะอาดเอาไว้พันแผลหลังจบบริการ
.
เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้เสาที่มีผ้าสีขาวและแดงเป็นภาพจำของร้านทำผมในอดีต ก่อนที่ต่อมาจะเริ่มทำเป็นเสาแต้มด้วยสีขาวและแดงแทน
.
จากนั้นก็มี Barber pole ที่มีสีน้ำเงินเพิ่มเข้ามา เชื่อกันว่าชาวอเมริกันใส่เข้าไปเพื่อสื่อถึงความเป็นชาติ ทว่าก็มีอยู่จำนวนไม่น้อยที่เชื่อว่าสีน้ำเงินคือเส้นเลือดดำ
.
อย่างไรก็ตาม ในช่วง ค.ศ. 1500 ช่างทำผมที่อังกฤษก็ไม่สามารถผ่าตัดได้ และช่างตัดผมก็สามารถทำอาชีพเหมือนกับศัลยแพทย์ได้ถึงช่วงปลาย ค.ศ. 1745 เท่านั้น
.
ส่วนการเจาะเลือดเพื่อรักษาก็เริ่มลดความนิยมลงไปในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 หลงเหลือไว้เพียงเพื่อรักษาบางอาการที่จำเป็นต้องทำเท่านั้น
.
"Barber pole" ที่เคยหมายถึงการเจาะเลือดออกเพื่อรักษา จึงกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่ติดไว้หน้าร้าน เพื่อบ่งบอกว่าเป็นร้านทำผมที่เห็นในปัจจุบัน

เครดิตแหล่งข้อมูล : FB Silpawattanatham - ศิลปวัฒนธรรม