บาร์บีคิว อาหารที่ถูกใช้เป็น ‘เครื่องมือทางการเมือง’

บาร์บีคิว อาหารที่ถูกใช้เป็น ‘เครื่องมือทางการเมือง'

ต้นกำเนิดของบาร์บีคิว สันนิษฐานว่ามาจากชนพื้นเมืองในแถบแคริบเบียนที่มีวิธีการทำอาหารคล้ายคลึงกับบาร์บีคิว คือนำเนื้อมาย่างบนเตาไฟรมควัน ซึ่งวิธีการแบบนี้เรียกว่า "บาร์เบโคอา" (Barbacoa) จนกระทั่งในศตวรรษที่ 16 หลังจากนักสำรวจชาวสเปนได้เข้ามาจึงได้นำวิธีการย่างเนื้อบนเตาไฟกลับไปเผยแพร่ในยุโรป และเรียกว่า "บาร์บีคิว"
.
แท้จริงแล้ว หลักฐานการมีอยู่ของคำว่าบาร์บีคิวไม่ได้หมายถึง อาหารย่างบนเตาไฟ แต่หมายถึง
"แท่งไม้" สำหรับใช้ทำอาหาร หรือ สำหรับที่อยู่อาศัย จนกระทั่งปี 1755 ซามูแอล จอห์นสัน นักภาษาศาสตร์ได้นิยามคำว่า Barbacue ไว้ในพจนานุกรมอังกฤษ 2 ความหมายได้แก่ หมูที่ถูกปรุงสุก (คำนาม) และการปรุงหมูให้สุกทั้งตัว (กริยา)
.
เมื่อเข้าสู่ศตวรรษที่ 19 บาร์บีคิวถูกทำให้กลายเป็นพิธีกรรมทางสังคม ในช่วงเลือกตั้ง นักการเมืองที่ต้องการหาเสียงจะมีการจัดงานปาร์ตี้บาร์บีคิวเชิญชวนผู้คนหลายพันคนมาฟังปราศรัยของตน โดยใช้ประโยชน์จากบาร์บีคิวในการสื่อสารถ้อยคำกับมวลชน หรือใช้ในการแสวงหาเงินทุนสำหรับนโยบาย
.
แล้วทำไมคนถึงถูกล่อลวงด้วยบาร์บีคิวขนาดนั้น? แน่นอนว่าสมัยก่อนบาร์บีคิวไม่ได้หาทานได้ง่ายแบบตอนนี้ แต่การจะทำบาร์บีคิวต้องเกณฑ์คนจำนวนมากและใช้เวลาในการเตรียมอาหารนาน (สมัยก่อนย่างด้วยหมูทั้งตัว ว่ากันว่าต้องเตรียมกันตั้งแต่รุ่งสางจนค่ำกว่าจะได้ทาน) รวมถึงราคาแพงลิบลิ่ว จึงไม่แปลกใจว่าทำไมปาร์ตี้บาร์บีคิวฟรีถึงดึงดูดผู้คนจำนวนมากได้ขนาดนี้
.
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ประวัติศาสตร์การเมืองอเมริกายังคงเชื่อมโยงกับบาร์บีคิวอย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าทางใดก็ทางหนึ่งบาร์บีคิวยังถูกใช้ในการเฉลิมฉลองวันชาติอเมริกาของทุกปี หรือแม้แต่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็เป็นแฟนตัวยงของบาร์บีคิว

เครดิตแหล่งข้อมูล : FB จานโปรด