ควันหลงแม่หยัวตอนจบ..เปิดชะตากรรม พระศรีศิลป์ หลังสิ้น ท้าวศรีสุดาจันทร์
หน้าแรกTeeNee อาหารสมอง ตำนานโลก ควันหลงแม่หยัวตอนจบ..เปิดชะตากรรม พระศรีศิลป์ หลังสิ้น ท้าวศรีสุดาจันทร์
ลาจอไปแล้วสำหรับ แม่หยัว ซีรี่ส์พีเรียดฟอร์มยักษ์ทางช่องวัน31 กับบทสรุปที่เป็นไปตามพงศาวดาร นั่นคือ ท้าวศรีสุดาจันทร์ และ ขุนวรวงศาธิราช ถูกประหารเสียบประจาน อย่างไรก็ตาม ชะตากรรมของอีกหลายตัวละครนั้นกลับยังเป็นที่ค้างคาและสงสัยของแฟนละครว่าจะมีจุดจบและบทสรุปอย่างไร หนึ่งในนั้นก็คตือ ตัวละคร พระศรีศิลป์ โอรส องค์ที่2 ของแม่หยัว ที่เกิดกับพระไชยราชา
โดย นิตยสาร ศิลปะ-วัฒนธรรม เปิดเผยว่า
พงศาวดารบันทึกเรื่องราวบั้นปลายชีวิตของขุนวรวงศาธิราช ท้าวศรีสุดาจันทร์ (แม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์) และบุตรอันเกิดด้วยกันไว้ว่า ทั้งหมดถูกลอบปลงพระชนม์ ณ คลองสระบัว หลังจากขุนวรวงศาธิราชขึ้นครองราชบัลลังก์ได้เพียง 40 กว่าวัน (บ้างก็ว่า 5 เดือน) ส่วน "พระศรีศิลป์" พระราชโอรสในสมเด็จพระไชยราชาธิราช ประสูติแต่ท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นรอดชีวิต แต่ชะตากรรมพระศรีศิลป์หลังจากนั้นเป็นอย่างไร?
เปิดชะตากรรมพระศรีศิลป์
หลังจากขุนพิเรนทรเทพ ขุนอินทรเทพ และขุนนางทั้งหลายกระทำการปลงพระชนม์ขุนวรวงศาธิราช ท้าวศรีสุดาจันทร์ และบุตรของทั้งสองสำเร็จแล้ว ก็นำศพขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์ไปเสียบประจานที่วัดแร้ง
จากนั้นอัญเชิญ "พระเฑียรราชา" เชื้อพระวงศ์ที่มีเชื้อสายสมเด็จพระไชยราชาธิราชมาขึ้นครองราชสมบัติ พระนามว่า "สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ"
ชะตากรรมพระศรีศิลป์ยังไม่ถึงฆาต เพราะใน "พงศาวดารกรุงศรีอยุธยา ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม)" ระบุว่า สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงมีพระมหากรุณาธิคุณชุบเลี้ยงพระศรีศิลป์ไว้ ต่อมาใน พ.ศ. 2087 เมื่อพระศรีศิลป์ทรงมีพระชันษาได้ราว 13-14 ปี สมเด็จพระมหาจักรพรรดิก็โปรดให้พระศรีศิลป์ออกผนวช ที่วัดราชประดิษฐาน
แต่แล้วพระศรีศิลป์ก็คิดการใหญ่ ดังที่พงศาวดารฉบับเดิมระบุว่า
"พระศรีสินมิได้ตั้งอยู่ในกตัญญู ซ่องสุมพวกพลคิดการกบฏ ครั้นทราบจึงดำรัสสั่งเจ้าพระยามหาเสนาให้เอาตัวพระศรีสินมาพิจารณา ได้ความเป็นสัตย์หาประหารชีวิตเสียไม่ ให้แต่คุมตัวเอาไว้ ณ วัดทะมุขราช หมื่นจ่ายวดเป็นผู้คุมครั้นจวนเข้าพระวษา ทรงพระกรุณาตรัสว่า พระศรีสินซึ่งเป็นโทษคุมไว้นั้นอายุจะได้อุปสมบทเป็นภิกขุภาวะอยู่แล้ว ให้เอามาอุปสมบท จึงทราบว่าพระศรีสินหนีก่อนนั้นถึง ๓ วัน ไปซุ่มพลอยู่ ณ เมืองมดแดง ทรงพระกรุณาดำรัสให้เจ้าพระยามหาเสนาไปตาม
ฝ่ายพระศรีสินให้ไปขอฤกษ์พระพนรัตน์วัดป่าแก้ว พระพนรัตน์ป่าแก้วก็ให้ฤกษ์ว่า ณ วันเสาร์เดือน ๘ ขึ้นค่ำหนึ่ง ฤกษ์ดีให้ยกเข้ามาเถิด และพระยาเดโช พระยาท้ายน้ำ พระยาพิชัยรณฤทธิ หมื่นภักดีศวร หมื่นภัยนรินทร์ ซึ่งเป็นโทษอยู่ก่อนจำไว้ในที่สงัด ให้หนังสือออกไปวันแรม ๑๓ ค่ำถึงพระศรีสินว่า
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสว่ารุ่งขึ้น ๑๔ ค่ำ จะให้เอาข้าพเจ้าทั้งห้าคนไปฆ่าเสีย ขอให้พระองค์เข้ามาแต่ในกลางคืนวันนี้ อย่าให้ทันรุ่ง พระศรีสินก็ยกเข้ามาทางหอรัตนชัย
เจ้าพระยามหาเสนารู้ว่าพระศรีสินยกเข้ามา ก็ตามเข้ามาข้ามท่า พอช้างเผือกลงอาบน้ำ เจ้าพระยามหาเสนาขี่ช้างเผือกออกมารับพระศรีสิน ณ ถนนหน้าบางตรา พระศรีสินร้องว่า เจ้าพระยามหาเสนาจะสู้เราหรือ เจ้าพระยามหาเสนาว่า พระราชกำหนดโทษพระองค์ฉันใด โทษข้าพเจ้าดุจฉันนั้น ไสช้างเข้าชนกัน พระศรีสินตีด้วยขอ เจ้าพระยามหาเสนาตกช้างลง
พระศรีสินยกเข้าไปทางประตูเสาธงชัย เข้าพระราชวังได้ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าไม่ทันรู้พระองค์ ลงเรือพระที่นั่งหนีขึ้นไปมหาพราหมณ์ พระศรีสินให้ถอดพระยาเดโช พระยาท้ายน้ำ พระยาพิชัยรณฤทธิ หมื่นภักดีศวร หมื่นภัยนรินทร์ออก
ฝ่ายพระราเมศวร พระมหินทราธิราชกับเสนาบดีพร้อมกัน เข้ารบพระศรีสินจนถึงตะลุมบอน ล้มตายเป็นอันมากด้วยกันทั้งสองฝ่าย แต่พระศรีสินนั้นต้องปืนตาย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าก็เสด็จคืนเข้าพระราชวัง
ครั้นรู้ว่าพระพนรัตน์ป่าแก้วให้ฤกษ์พระศรีสินเป็นแท้ ก็ให้เอาพระพนรัตน์ป่าแก้ว พระยาเดโช พระยาท้ายน้ำ พระยาพิชัยรณฤทธิ หมื่นภักดีศวร หมื่นภัยนรินทร์ ฆ่าเสีย ไปเสียบไว้ ณ ตะแลงแกงกับศพพระศรีสิน"
ชะตากรรมพระศรีศิลป์หลังสิ้นแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์จึงไม่สู้ดีนัก เพราะแม้จะเป็นเชื้อสายพระมหากษัตริย์พระองค์ก่อน แต่หากคิดก่อการกบฏสั่นคลอนราชบัลลังก์พระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ปลายทางคือต้องโทษประหารเครดิตแหล่งข้อมูล : silpa mag